xs
xsm
sm
md
lg

“ชัยยะสยบไพรี” ทลาย 4 เครือข่ายยานรกสำคัญ ยึดทรัพย์กว่า 725 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - บช.ปส.แถลงสรุปผลปฏิบัติการ “ชัยยะสยบไพรี 61/4” กวาดล้างปราบปรามนักค้ายา 91 เป้าหมายที่สำคัญ 4 เครือข่าย “ฮาร์ปรีท ซิงห์” ค้าไอซ์ข้ามชาติ-ธีรพล โซเชียลลายสัก เครือข่ายภาคใต้-แก๊งโน้ต ดินแดง สุดท้ายเครือข่าย “ดาบสม” บก.ปส.3 หันมาค้ายาบ้าเสียเอง ยึดทรัพย์กว่า 725 ล้านบาท

วันนี้ (7 มี.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรมศุลกากร ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติตามแผนการ “ชัยยะสยบไพรี 61/4” เพื่อดำเนินการกวาดล้าง ปราบปราม จับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมทั้งกลุ่มหรือเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้หมดสิ้น และทำลายเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด กำหนดการปฏิบัติการในห้วงวันที่ 19 ก.พ.ถึง 7 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยการปฏิบัติการดังกล่าวสามารถปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และปฏิบัติการต่อเป้าหมายสำคัญจำนวน 91 เป้าหมายในพื้นที่ต่างๆ ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 26 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 17 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 4 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 5 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 13 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 5 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 6 จำนวน 10 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 6 เป้าหมาย, ตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 5 เป้าหมาย

โดยมีเป้าหมายที่สำคัญ 4 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่าย (ไอซ์) ข้ามชาติรายใหญ่ เป้าหมายนายฮาร์ปรีท ซิงห์ ผู้ทำหน้าที่ด้านการเงินให้กับกลุ่มเครือข่าย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2560 บก.ปส.2 ได้จับกุมนายโกศล ศรีมงคล ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดข้ามชาติ กับพวกรวม 5 ราย พร้อมของกลางไอซ์ 400 กก.ที่ จ.ขอนแก่น ได้ทำการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มผู้รับยาเสพติดทางภาคใต้จำนวน 3 คน จับกุมผู้สั่งการที่ จ.หนองคาย 2 คน และ จ.ระยองอีก 2 คน รวมผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้งสิ้น 12 คน โดยลักลอบลำเลียงยาเสพติด (ไอซ์) จากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย หลังจากนั้นสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน จนสืบทราบพบว่ามีนายฮาร์ปรีท ซิงห์ ชาวไทย (สัญชาติเดิมอินเดีย) ทำหน้าที่โอนเงินให้แก่บุคคลในเครือข่ายดังกล่าว จึงขออนุมัติออกหมายจับและหมายค้นเพื่อจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินพร้อมพยานหลักฐานต่างๆ จำนวน 30 เป้าหมาย

ต่อมาเป็นเครือข่ายนายธีรพล เจริญสวัสดิ์ ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ มักจะตั้งเป็นกลุ่มโดยแต่ละกลุ่มมีจำนวนหลายคน มีหัวหน้ากลุ่มที่มีอิทธิในพื้นที่ หรือเป็นที่รู้จักในโซเชียลมีเดีย มีฉายาเป็นที่รู้จักมีลายสักที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มตนเอง มีการเผยแพร่กิจกรรมของตนเองผ่านโซเชียลฯ จนเกิดค่านิยมเลียนแบบในกลุ่มเยาวชน เป็นบ่อเกิดปัญหาทางสังคมในภาพรวม จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มของนายธีรพล เจริญสวัสดิ์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยมีแหล่งที่มาของยาเสพติดจากภาคเหนือ นำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดสงขลา จนมีทรัพย์สินจำนวนมากและเกินฐานะ ในปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 บก.ปส.4 จึงกำหนดเป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 14 เป้าหมาย 15 จุดตรวจค้น

ต่อมาเป็นเครือข่ายนายวันเฉลิม กมลเลิศ หรือโน้ต ดินแดง นายณัฐวุฒิ นิลทัด และเครือข่ายยาบ้า 40,000 เม็ด ไอซ์ 2 กก. สืบเนื่องจาก บก.ขส.ได้ขยายผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จว.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และ จ.ระยอง ซึ่งมีความเชื่อมโยงทางการเงินของเครือข่ายนายวันเฉลิม นายณัฐวุฒิ และเครือข่ายยาบ้า 40,000 เม็ด ไอซ์ 2 กก. จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเป็นนักค้ายาเสพติดที่มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก อีกทั้งมีการรับทำธุรกรรมทางการเงินให้กับกลุ่มนักค้ายาเสพติดทางภาคเหนือของประเทศไทย ดังนั้น บก.ขส.จึงได้กำหนดเป้าหมายตรวจค้นเพื่อสืบสวนจับกุม รวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจยึดทรัพย์สิน จำนวน 10 เป้าหมาย

สุดท้ายเป็นเครือข่ายของ ด.ต.จิตรภานุ สุวรรณวกุล (ดาบสม) จากการร้องเรียนว่ามีข้าราชการตำรวจ มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด (ยาบ้า) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 จึงได้ทำการสืบสวนติดตาม พบ ด.ต.จิตรภานุกับพวกมีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จึงได้ทำการล่อซื้อยาเสพติดจาก ด.ต.จิตรภานุกับพวกได้และนำยาเสพติดดังกล่าวร้องทุกข์ต่อ พงส.จนสามารถออกหมายจับ ด.ต.จิตรภานุ กับพวก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้ทำการจับกุม ด.ต.จิตรภานุ กับพวก พร้อมทำการตรวจยึดทรัพย์สิน

ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยว่า นายฮาร์ปรีท ซิงห์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 20 ปี โดยพยายามติดตามเส้นทางการเงินแต่ยังเข้าไม่ถึง เนื่องกฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ยังไม่เอื้อประโยชน์ให้ตรวจสอบผู้ต้องหาที่ไม่ได้ถูกจับกุมตัวพร้อมยาเสพติด จนกระทั่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมบูรณาการทำงาน ทั้ง ปปง. อัยการสูงสุด กรมศุลกากร และอีกหลายหน่วยงาน จึงทำให้พบหลักฐานความเชื่อมโยงของกลุ่มเครือข่ายชัดเจนมากยิ่งขึ้น

พล.ต.ท.สมหมายเปิดเผยอีกว่า การจับกุมนายฮาร์ปรีท ซิงห์ สืบเนื่องมาจากพบหลักฐานการโอนเงินของหลายครั้งของลูกน้องถูกโอนไปให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในการซื้อรถยนต์เพื่อนำมาดัดแปลงลักลอบลำเลียงยาเสพติด และอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเส้นทาง ขณะนี้แม้ว่านายฮาร์ปรีท ซิงห์ จะไม่ให้การรับสารภาพ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหลักฐานทางการเงินชัดเจนที่มีความเชื่อมโยงสามารถเอาผิดได้ ส่วนกลุ่มชาวอินเดียที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย พบว่ายังมีอีกหลายคนที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการชัยยะไพรี 61/4 ในห้วงระหว่างวันที่ 19 ก.พ. - 7 มี.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งสิ้น 29 คดี จับกุมผู้ต้องหา 42 คน พร้อมยึดของกลางยาเสพติด อาวุธปืน และทรัพย์สินหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 725 ล้านบาท




กำลังโหลดความคิดเห็น