MGR Online - บช.ป.ส.เปิดปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 ปูพรมค้น 3 จุด บุกรวบนักธุรกิจชาวอินเดีย นายทุนปล่อยเงินกู้ เปิดร้านตัดเสื้อสูทบังหน้าย่านสุขุมวิท คาดมีเงินหมุนเวียนสะพัดกว่าร้อยล้าน
วันนี้ (6 มี.ค.) เวลา 05.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. นำกำลังชุดสยบไพรีของ บช.ปส. เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม และหน่วยงานอื่นๆ ร่วมปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 โดยมีการเข้าตรวจค้นเครือข่ายค้ายาเสพติดทั่วประเทศ 30 จุด โดยจะมีจุดสำคัญ 3 จุดที่เกี่ยวข้องกับนายทุน ผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยจากการตรวจค้นบ้านพักภายในซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. พบนายฮาร์ปรีท ซิงห์ ชาวไทยเชื้อสายอินเดีย ผู้ต้องหาตามหมายจับที่เกี่ยวข้องยาเสพติด โดยการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการจับกุมไอซ์หนัก 400 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2560 โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสืบทราบว่าผู้ที่มีส่วนสนับสนุนทางการเงินเบื้องหลังคือนายฮาร์ปรีท ซิงห์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับได้ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับการปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 ในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามเป้าหมายได้ 2-4 ราย ยึดทรัพย์ได้ประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งการจับกุมนายฮาร์ปรีทได้ครั้งนี้เชื่อว่าจะนำมาสู่การยึดทรัพย์อีกจำนวนมาก
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ภายหลังการตรวจค้นจับกุมนายฮาร์ปรีท ซิงห์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลมาจากกรณีการจับกุมไอซ์หนัก 400 กิโลกรัม ที่ จ.ขอนแก่น ที่ก่อนหน้านี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย ก่อนขยายผลจับกุมผู้ที่จะมารับของที่อยู่ทางใต้ได้อีก 3 ราย รวมถึงผู้ที่สั่งของได้อีก 4 รายที่อยู่ที่ จ.หนองคาย และระนอง รวมผู้ต้องหา 12 ราย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวอีกว่า ส่วนนายฮาร์ปรีท ซิงห์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับค้าขายเสื้อผ้า ห้องเช่าห้องแถว และปล่อยเงินกู้ โดยจากการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการโอนเงินให้แก่เครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบวงเงินประมาณ 3 ล้านบาท ส่วนจะเคยทำมาแล้วกี่ครั้งนั้นต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ