MGR Online - กองปราบเป็นเจ้าภาพเอาผิดนายตำรวจจ.กาญจนบุรี หลังพบพิรุธทำสำนวนการสอบสวนหวย 30 ล้าน จ้องร้องทุกข์ บก.ปปป. ขณะที่ ครูปรีชา และ เจ๊บ้าบิ่น 2 ผู้ต้องหายังการให้ปฏิเสธ ตร. นัดสอบปากคำเพิ่มเติมอีกกว่า 10 ราย
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. กล่าวถึงคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน ที่เป็นข้อพิพาทการอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตตำรวจ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนการสอบสวน คาดว่า น่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล และตอนนี้่ยังไม่เรียกทั้งคู่มาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมเข้าแจ้งความกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อดำเนินคดีกับนายตำรวจใน จ.กาญจนบุรี หลังพบพิรุธในสำนวนการสอบสวน พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของ บก.ปปป. ว่า จะพิจารณาว่าใครจะเป็นผู้ร้องทุกข์ ตามที่มีข่าวระบุว่า ตนจะส่งตัวแทนเข้าแจ้งความที่ บก.ปปป. ในวันที่ 5 มีนาคมนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก บก.ปปป. ว่า ตามความเหมาะสมแล้วใครจะเป็นคนร้องทุกข์ โดย บก.ปปป. สามารถร้องทุกข์เองก็ได้ หรืออาจเห็นว่า บก.ป. ทำคดีมาตั้งแต่ต้น อาจรู้ข้อเท็จจริงมาแล้วจะให้ บก.ป. เข้าแจ้งความก็เป็นได้
ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีหวย 30 ล้านบาทนั้น ได้ให้กองปราบปรามสืบสวนหาข้อมูล ว่า มีใครเข้าข่ายกระทำความผิดบ้าง หากพบการกระทำความผิดก็ให้แยกสำนวนออกเป็นอีกสำนวนหนึ่ง และให้พนักงานสอบสวนกองปราบเป็นผู้ไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในฐานะที่กองปราบฯเป็นฝ่ายที่รวบรวมข้อมูลสืบสวนมาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม คงต้องรอให้การดำเนินคดีกับสองผู้ต้องหารายแรกเสร็จเรียบร้อยก่อน และถึงจะเริ่มสอบสวนขยายถึงผู้กระทำความผิดรายอื่นๆ ต่อไป ส่วนกรณีที่ นายปรีชา จะให้การเพิ่มหรือรับสารภาพนั้นจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด
ส่วน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. กล่าวว่า แม้คดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการจับกุมตัว นายปรีชา ใคร่ครวญ และ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีดังกล่าว และได้มีการประกันตัวในชั้นศาลไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในส่วนของดำเนินการด้านสำนวนคดีก็ยังคงต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าพยานหลักฐานจะแน่นหนามากพอที่จะสามารถส่งฟ้องต่ออัยการได้ ซึ่งขณะนี้สำนวนคดีดังกล่าวยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ยังคงจำเป็นที่จะต้องมีการเชิญตัวพยานบุคคลทั้งพยานปากใหม่และพยานปากเก่าที่เคยให้ปากคำก่อนหน้านี้มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกกว่า 10 ราย เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีให้มีความมีความสมบูรณ์มากขึ้น และจะมีการติดต่อเชิญพยานเหล่านี้มาให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บก.ป. ในเร็ววันนี้ ส่วนจะมีการประชุมคืบหน้าคดีดังกล่าวอีกหรือไม่นั้นคงต้องรอทาง พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. เป็นผู้พิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการนัดประชุมเมื่อใด