MGR Online - “ศรีวราห์” สั่งฟัน “เจ้าสัวเปรมชัย” อ่วม ปืน 6 กระบอกผิดกฎหมายชัดเจน ฐานมีปืนเถื่อน สั่ง พฐ.เช็กภาพภายในโทรศัพท์-ข้อมูลการโทร. พร้อมกำชับตรวจร้านอาหารป่าบริเวณนั้นทั้งหมด จ่อเรียกสอบเพิ่ม 5 มี.ค. และส่งรายงานผลงาช้างถายในวันที่ 10 มี.ค.
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกเข้าไปล่าสัตว์ในทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยมี พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.สราวุธ เอี่ยมสำราญ ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ และบก.ปทส. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ยึดได้จากบ้านพักของนายเปรมชัย ยืนยันความผิดชัดเจนแล้ว 2 กระบอก กระบอกแรกคืออาวุธปืนที่ประกอบขึ้นเอง อีกกระบอกคืออาวุธปืนมีทะเบียน แต่เป็นอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบทะเบียนได้ โดยตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินการร้องทุกข์ที่ บก.ปทส.ให้เรียบร้อยภายในวันนี้ (23 ก.พ.) ขณะเดียวกัน ให้สอบปากคำพยานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทั้ง 10 ปากให้ครบ เพื่อให้สำนวนครบถ้วนสมบูรณ์ นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ส่งมอบโทรศัพท์ของนายเปรมชัยและพวกให้แก่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อตรวจสอบภาพถ่ายในโทรศัพท์ และตรวจสอบข้อมูลการติดต่อก่อนจะเข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ รวมถึงกำชับให้พนักงานสอบสวนสรุปผลการตรวจสอบชิ้นเนื้อที่พบในที่เกิดเหตุ ร้านจำหน่ายอาหารป่า และผลตรวจงาช้างภายในวันที่ 10 มี.ค.นี้
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้นายเปรมชัยมาให้ปากคำในวันที่ 5 มี.ค. หลังที่ทนายความขอเลื่อนให้ปากคำครั้งก่อน โดยอ้างว่าติดธุระสำคัญ คาดว่าสำนวนคดีจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 24 มี.ค. ขณะนี้เหลือเพียงการสอบปากคำผู้ต้องหา พยาน และรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาตร์บางส่วนเท่านั้น ส่วนข้อกล่าวหาขณะนี้มีเพียง 9 ข้อหา ส่วนที่เจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้มาแจ้งความในข้อหาทารุณกรรมสัตว์เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มาถอนแจ้งความเมื่อวันที่ 21 ก.พ. เนื่องจากพิจารณานิยามคำว่า “สัตว์” แล้วพบว่าไม่เข้าตามคำนิยามของตาม พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ พฐ.ได้มีการตรวจดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ อาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก รวมทั้งปลอกกระสุนปืน กระสุนลูกปลายที่ตรวจพบ ขณะนี้ตรวจรายงานจากที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมที่จะส่งรายงานได้ ส่วนรายการที่ 2 ซึ่งเป็นการตรวจรถยนต์จากที่เกิดเหตุที่ได้นำมาส่งตรวจในภายหลังได้มีการตรวจดีเอ็นเอ เก็บลายนิ้วมือ และตรวจเขม่าปืนที่รถ ผลการตรวจไม่พบเขม่า ส่วนดีเอ็นเอและลายนิ้วมือพบว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาซึ่งรายงานในส่วนนี้ก็พร้อมส่งรายงานแล้วเช่นกัน
ส่วนกรณีที่มีการตรวจค้นอาวุธปืนที่บ้านนายเปรมชัย จำนวน 43 กระบอก มีผลการตรวจแยกเป็นรายงาน 10 ชุด รายละเอียดตามที่มีการแถลงอาวุธปืนไม่ถูกต้อง 6 กระบอก ได้สรุปรายงานเรียบร้อยพร้อมส่งเช่นกัน
พล.ต.ต.ธวัชชัยกล่าวว่า ขณะที่ผลการตรวจซากเสือดำพบว่ามีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 20 มม. พบรอยที่ซากเสือดำ จำนวน 8 รอย ตรงกับกระสุนปืนจากปืนที่พบในที่เกิดเหตุ ซึ่งปืนกระบอกดังกล่าวพบดีเอ็นเอของนายเปรมชัยที่โก่งไกปืน แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นการยิงจากปืนขนายเปรมชัยหรือไม่ เนื่องจากซากเสือดำมีการถูกชำแหละไปแล้ว ส่วนการตรวจรถยนต์ไม่พบว่ามีคราบเลือดของสัตว์ป่าแต่อย่างใด
มีรายงานว่า การเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักนายเปรมชัย กรรรณสูต เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบอาวุธปืนทั้งหมด 43 กระบอก ส่งให้ พฐก.ตรวจพิสูจน์ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนที่ไม่ถูกต้องจำนวน 6 กระบอก ดังนี้ (1. อาวุธปืนยาวคาร์ไบน์ แบบกึ่งอัตโนมัติ (Marlin) ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครอง แจ้งว่าเป็นอาวุธที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ (2. อาวุธปืนยาวอัดลมแบบประกอบขึ้นเอง ไม่ปรากฏเครื่องหมายทะเบียน (ครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต) จำนวน 1 กระบอก นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครอง แจ้งว่าเป็นอาวุธปืนประกอบขึ้นเอง ไม่มีต้นขั้ว ป.4 (3. อาวุธปืนยาวแบบ 2 ลำกล้อง (Gardonevt) ขนาด 12 และขนาด .30-06 จานวน 1 กระบอก ไม่ปรากฏเครื่องหมายทะเบียนปืน นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครอง แจ้งว่าไม่มีต้นขั้ว ป.4
(4. อาวุธปืนยาวไรเฟิล (Remington) .30-06 จำนวน 1 กระบอก เครื่องหมายทะเบียนปืนลบเลือน หมายเลขประจำปืนถูกขูดลบ นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครอง แจ้งว่าหมายเลขทะเบียนปืนไม่ได้ตอกจากเหล็กตอกของทางราชการ (5. อาวุธปืนยาวแบบ 2 ลำกล้อง (Bernardelli) ขนาด 12 และขนาด .30-06 จำนวน 1 กระบอก ไม่ปรากฏเลขหมายประจำปืน นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครองตรวจสอบเครื่องหมายทะเบียนไม่ปรากฏ ไม่มีต้นขั้ว (6. อาวุธปืนยาวประจุปาก (ปืนคาบศิลา) จำนวน 1 กระบอก ไม่ปรากฏเลขหมายประจำปืน นายทะเบียนอาวุธปืน กรมการปกครอง แจ้งว่าไม่มีต้นขั้ว โดย พฐก.จะได้ส่งผลการตรวจพิสูจน์ให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบสอบสวนดำเนินคดีต่อไป