xs
xsm
sm
md
lg

จับหัวหน้าแก๊งโรแมนซ์สแกมสัญชาติไนจีเรีย ย่านพระราม 9

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตร.ท่องเที่ยว จับกุมหัวหน้าเครือข่ายแก๊งหลอกลวงรักออนไลน์ หรือ โรแมนซ์สแกม สัญชาติไนจีเรีย หลังขยายผลจับกุมสมาชิกขณะนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นไปตระเวนกดเงินจนถูกจับไปแล้ว ประสาน ปปง. ดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินต่อไป

วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ สน.ลาดพร้าว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปง รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสืบสวน บก.น.1 ตำรวจ 191 และ ตร.สน.ลาดพร้าว ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งหลอกลวงรักออนไลน์ หรือ โรแมนซ์สแกม โดยสามารถจับกุม นายคิงส์ลี่ ชูควูดัม (Mr.Kingsley Chukwudum) อายุ 35 ปี สัญชาติไนจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 192/2561 ลงวันที่ 30 มกราคม 2561 ซึ่งเป็นหัวหน้าเครือข่ายแก๊งโรแมนซ์สแกม พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง บัตรเอทีเอ็ม 5 ใบ อุปกรณ์โทเค่นสำหรับทำธุรกรรมการเงิน 3 อัน สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม สมุดบันทึก 1 เล่ม ได้ที่ห้องพักย่านพระราม 9

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จับกุม นายชินวาดู ชิอาโว (Mr.Chinwedu Chiavoghi) สัญชาติไนจีเรีย บริเวณหน้าตู้ฝากเงิน ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ในข้อหาใช้หรือมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็มจำนวน 3 ใบ นำส่ง สน.ลาดกระบัง ดำเนินคดี จากนั้นได้ขยายผลสืบสวนจนทราบว่า นายชินวาดู เป็นเครือข่ายโรแมนซ์สแกม ใช้วิธีการสร้างโปรไฟล์เป็นชาวตะวันตกผิวขาว พูดคุยให้ผู้เสียหายเกิดความหลงรักและเชื่อใจ จากนั้นก็จะออกอุบายหลอกให้โอนเงินให้คนร้าย โดยอ้างว่าจะส่งสิ่งของเป็นของมีค่า สินค้าจำพวกปลาแห้ง ฯลฯ เพื่อจะมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศไทย ซึ่งมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว ว่า ถูกหลอกลวงให้โอนเงินมูลค่าความเสียหาย 469,800 บาท ได้ขอให้ศาลอาญาออกหมายจับแก๊งโรแมนซ์สแกม ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ประกอบด้วย 1. นายชินวาดู ชิอาโว (Mr.Chinwedu Chiavoghi) อายุ 53 ปี สัญชาติไนจีเรีย ทำหน้าที่พูดคุยผ่านสื่อออนไลน์กับผู้เสียหายและหลอกให้โอนเงิน 2. น.ส.โสรญา ประสวนศรี อายุ 34 ปี ซึ่งทำหน้าที่โอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย 3. นายคิงส์ลี่ ชุควูดัม (Mr.Kingsley Chukwudum) อายุ 35 ปี สัญชาติไนจีเรีย เป็นหัวหน้าแก๊งมีหน้าที่แบ่งงานให้เครือข่าย และรวบรวมเงินที่ได้จากผู้เสียหาย และ 4. นางลักษิกา ใอใบเบ็กบูนาม อายุ 31 ปี สัญชาติไทย ทำหน้าที่โอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม น.ส.วโสรญา นางลักษิกา และได้อายัดตัว นายชินวาดู จากเรือนจำมีนบุรีไปแล้วก่อนหน้านี้

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการต่อไปได้ประสาน ปปง. ดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน หาเส้นทางการเงิน ซึ่งหากดำเนินคดีอาญาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ก็จะดำเนินการผลักดันกลับประเทศต่อไป ทั้งนี้จะพูดคุยหารือกับทาง กสทช. เกี่ยวกับการเช่าช่วงทำ VOIP ให้มีมาตรการเข้มข้นขึ้น จะเห็นได้ว่าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะไม่พบเบอร์โทร.จาก VOIP โทร.เข้ามาหลอกลวงผู้เสียหายเลย เนื่องจากทาง กสทช. ได้ทำการบล็อกเบอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทร.เข้ามาจากต่างประเทศไว้แล้ว รวมถึงจะหารือเรื่องซิมโทรศัพท์เกี่ยวกับผู้ให้บริการ หรือดีลเลอร์ในการจดทะเบียนซิมโทรศัพท์ นอกจากนี้ จะประสานข้อมูลการทำธุรกรรมผ่านตลาดเงินดิจิทัลกับกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล หรือ บิตคอยน์ ทั้ง 5 บริษัท เพื่อยับยั้งและติดตามเงินของผู้เสียหายคืนมา

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะคืนเงินให้กับผู้เสียหายในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 16 ราย มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการปิดล้อมตรวจค้นชาวต่างชาติผิวสีย่านนานา ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อมาจัดทำฐานข้อมูลไว้ หากชาวต่างชาติผิวสีเดินทางกลับไปยังประเทศไทย และหากเข้ามาในประเทศไทยใหม่ด้วยการเปลี่ยนชื่อ เพื่อมาก่ออาชญากรรมก็ไม่สามารถที่จะทำได้

ด้าน นางลักษิกา ให้การว่า ตนทำงานอยู่บริษัทคาร์โก้ย่านประตูน้ำ ซึ่งสามีของตนเป็นชาวไนจีเรีย และได้รู้จักกับ นายคิงส์ลี่ โดยตนมีส่วนเกี่ยวข้องแค่บัญชีในส่วนที่นายคิงส์ลี่โอนเงินเข้ามา ทั้งนี้ รถยนต์ของนายคิงส์ลี่ เป็นชื่อของตน เนื่องจากว่านายคิงส์ลี่ไม่สามารถซื้อได้

ส่วน นายคิงส์ลี่ ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย และทำการหลอกลวงคนไทยโดยใช้วีธีการโรแมนซ์สแกม นำรูปบุคคลมาแอบอ้างเป็นตนเอง ทำให้ผู้อื่นหลงรักและอ้างว่าส่งของมาให้แต่ของติดอยู่ที่ศุลกากร ไม่สามารถนำออกมาได้จะต้องโอนเงินไปเพื่อเสียค่าภาษีก่อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นกับนายคิงส์ลี่ ก่อนนำตัวส่งพงส.สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น