MGR Online - ทนายรับมอบอำนาจจาก “พานทองแท้ ชินวัตร” ร้องดีเอสไอ หลังทราบว่าถูกตัดพยานในคดีจาก 18 เหลือ 3 ปาก พร้อมยืนยัน “โอ๊ค” อยู่ประเทศไทย
วันนี้ (24 ม.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความส่วนตัวของนายพานทองแท้ ชินวัตร เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกตั้งข้อหาสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยมี ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง
นายชุมสายกล่าวว่า วันนี้ที่มาเพื่อต้องการขอความเป็นธรรมใน 2 ประเด็น คือ 1. พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ตัดพยานของฝ่ายผู้ต้องหาจาก 18 ปาก เหลือ 3 ปาก ถือว่าเป็นพยานปากสำคัญที่เป็นประโยชน์ในการแสดงความบริสุทธ์ของนายพานทองแท้ และ 2. ขอให้อธิบดีดีเอสไอสั่งการ หรือควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในสำนวนคดีนี้เรื่องความยุติธรรม ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นธรรมต่อผู้ต้องหา เนื่องจากตนสงสัยว่าจะมีการสั่งการแทรกแซงทางคดี และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่านายพานทองแท้ยังอยู่ในประเทศไทย
ด้าน ร.ต.อ.ปิยะเผยว่า เบิ้องต้นดีเอสไอจะส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการสอบสวนในคดีดังกล่าวพิจารณา แต่ว่าจะรับเรื่องที่ร้องขอหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการฯ
วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาในคดีสมคบฟอกเงินกรณีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยให้แก่กลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน อ้างว่ามีการปฏิบัติหน้าที่มีอคติ ไม่เป็นธรรมต่อผู้ต้องหา โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับเรื่อง
นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า ได้รับคำร้องจากนายชุมสายแล้วจะนำเสนอกราบเรียนให้อัยการสูงสุดพิจารณาในวันนี้ ซึ่งแนวนโยบายของอัยการสูงสุดคือการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากมีพยานหลักฐานใดก็นำมายื่นร้องเรียนต่อสำนักงานอัยการสูงสุดได้ ในกรณีนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอัยการสูงสุดว่าจะเชิญนายขจรศักดิ์มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือจะขอพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากฝ่ายผู้ร้องเรียน ทั้งนี้ กระบวนการพิจารณาคงจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง หากทราบผลจะแจ้งให้ฝ่ายผู้ร้องเรียนทราบต่อไป
ด้านนายขจรศักดิ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ถึงกรณีนี้ว่า เป็นสิทธิของนายพานทองแท้ที่จะยื่นเรื่อง ตนสอบสวนตามหลักฐานที่เป็นดุลพินิจของทางพนักงานสอบสวน โดยนายพานทองแท้ได้ยื่นขอให้สอบพยานเพิ่มถึง 20 ปาก คดีใกล้ขาดอายุความ ตนก็พิจารณาให้สอบพยานเพิ่ม 8 ปากแล้ว และเขาเองก็ขอเลื่อนสอบพยานไปเป็นวันที่ 4 ก.พ.นี้ หลังจากสอบพยานเสร็จแล้วต้องรีบส่งสรุปสำนวนต่อไป หากต้องการให้มีการสอบพยานเพิ่มเติมก็สามารถเสนอในชั้นศาลได้ เราต้องให้เวลาพนักงานอัยการพิจารณาสำนวนโดยไม่ใกล้ขาดอายุความ ปล่อยให้ยืดเยื้อก็ไม่เสร็จ พยานหลักฐานในคดีนี้ก็เริ่มต้นมาจากเอกสารทั้งนั้น เราก็ตรวจสอบตามที่ปรากฏ ไม่ได้เอาใครมากลั่นแกล้ง เราให้โอกาสให้ความเป็นธรรมแล้ว ต้องมาพิสูจน์เอง และสู้คดีต่อได้ในศาล