MGR Online - ดีเอสไอหิ้ว “ป๋ากบ” หัวหน้าคนเชียร์แขก “วิคตอเรีย ซีเครท” อาบอบนวด หลังเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นจับกุมค้ากามเด็กสาวพม่า อายุไม่เกิน 15 ปี ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกัน
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.ท.ณัฐพล คูหาเรืองรอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระดับชำนาญการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ควบคุมตัว นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210/7 ซอยนวลจิต แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. หัวหน้าพนักงานเชียร์แขก สถานอาบอบนวดหรูชื่อดัง “วิคตอเรียซีเครท” ย่านถนนพระราม 9 ผู้ต้องหาคดี ร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหาฯ หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็ก อายุไม่เกิน 15 ปี, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และได้กระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมโดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหาฯ หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก อายุไม่เกิน 15 ปี, ร่วมกันรับตัวบุคคลซึ่งตนรู้อยู่ว่ามีผู้จัดหาล่อไป หรือชักพาไปเพื่อการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตามและไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันเป็นความผิดนั้นจะกระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี หรือสนับสนุนในการกระทำดังกล่าว, รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาญาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้าอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยเพื่อให้คนต่างด้าวบนจากการจับกุม, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ รวม 6 ข้อหา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 4, 6, 9, 10, 11, 52 พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 4, 9, 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 282, 310 พ.ร.บ. ตรวจคนเข้าเมือง มาตรา 4, 64 พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 5, 6, 25 มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า สืบเนื่องจากดีเอสไอได้รับหนังสือจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี ขอความช่วยเหลือเด็กผู้หญิงสัญชาติเมียนมา ชื่อ น.ส.เอ๊ะ นามสมมติ อายุ 16 ปี (ปัจจุบัน) ถูกกลุ่มนายหน้าพาไปทำงานขายบริการทางเพศที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อเหยื่อสาวไม่สามารถทนทำงานที่ร้านเจสสิก้าได้ จึงร้องขอให้นายหน้านำตัวเธอกลับไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งกลุ่มนายหน้ามีเงื่อนไขว่า ต้องนำเงินที่อ้างว่า น.ส.เอ๊ะ เหยื่อสาวติดเงินจำนวน 9 หมื่นบาท ไปคืนให้นายหน้า เมื่อญาติตกลงยินยอมจ่ายเงินดังกล่าว ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2560 น.ส.เอ๊ะ ได้ถูกนำกลับจากประเทศมาเลเซีย โดยมีผู้ลักลอบพาเข้ามาประเทศไทย ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา แล้วถูกพาไปไว้ที่โรงแรมสากล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากนั้นเหยื่อสาวดังกล่าวจึงได้รับการช่วยเหลือ ทั้งนี้ จากการสัมภาษณ์เบื้องต้นเพื่อคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ สรุปความเห็นว่า น.ส.เอ๊ะ เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยเมื่อช่วงเดือนก.ค. 2557 ขณะที่เหยื่อสาว เชื้อสายไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมา อยู่ที่ประเทศเมียนมา ได้มี นางสุ หรือ นัน ลุทท์ (NAN LUTT) ชาวเมียนมา และ นายสมชาย มงคลวารไพบูลย์ ชาวไทย ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ชักชวนและพาเหยื่อสาว ข้ามผ่านด่านแม่สาย จ.เชียงราย พาไปเปิดบริสุทธิ์ที่กรุงเทพฯ แล้วพาไปพักอาศัยที่แมนชั่น จากนั้นได้พาไปทำงานขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า ที่สถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ตั้งอยู่ เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถ.พระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2557 - 4 พ.ค. 2559 มาโดยตลอด เมื่อลูกค้ามาใช้บริการทางเพศจะจ่ายเงินค่าบริการทางเพศที่แคชเชียร์ และจะจดรอบการทำงานของ น.ส.เอ๊ะ ไว้ โดย นางสุ และ นายสมชาย เป็นคนไปรับเงินค่าขายบริการทางเพศ ของ น.ส.เอ๊ะ ทุกเดือน ที่สถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ส่วนผู้ต้องหาจะคอยควบคุมสถานบริการอาบอบนวด ในภาพรวม และเป็นคนเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกเรื่อง ต่อมาวันที่ 5 พ.ค. 2559 นางสุ และนายสมชาย ก็ได้ชักชวนและส่งตัว น.ส.เอ๊ะ ไปขายบริการทางเพศต่อ ที่ร้านเจสสิก้า ประเทศมาเลเซีย แต่ต่อมา น.ส.เอ๊ะ ทำงานไม่ไหว จึงขอกลับบ้าน และเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางญาติจึงได้ช่วยชำระหนี้พร้อมประสานเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและรับไปอยู่ในความดูแลของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านเกร็ดตระการ) จ.นนทบุรี เหตุเกิดที่ ประเทศเมียนมา, อ.แม่สาย จ.เชียงราย, สถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท, ด่านตรวจคนเข้าเมืองด่านนอก จ.สงขลา, ประเทศเมียนมา ต่อเนื่องกัน
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า ได้ควบคุมตัวมาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว จะต้องสอบปากคำพยานอีก 22 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง และรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ จึงขออำนาจศาลฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 - 24 ม.ค. 2561 และหากผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับคดีการค้ามนุษย์ด้านการค้าประเวณีของประเทศไทย ในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และหากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาญาติของนายบุญทรัพย์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 5 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีหลายข้อหา เป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกสูง มีการกระทำเป็นองค์กรอาชญากรรมต่อผู้เสียหายที่เป็นเด็ก นับเป็นเรื่องร้ายแรง ทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายบุญทรัพย์ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร