MGR Online - ตำรวจ สน.สุทธิสาร ตามจับสองวัยรุ่นชิงทรัพย์ “ตาต้า” อดีตผู้เข้าประกวดดิเอ็กซ์แฟกเตอร์ไทยแลนด์ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ หน้าปากซอยลาดพร้าว 42 สารภาพดื่มสุราจนมึนเมา คึกคะนองอยากทำร้ายร่างเพื่อระบายอารมณ์ แต่กลับเปลี่ยนชิงทรัพย์แทน
วันนี้ (11 ธ.ค.) เวลา 14.30 น. ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ร่วมกันแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาเยาวชน 2 ราย อายุ 17 ปี หลังร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์นายภาคิน เดชชาญชัยยุทธ หรือตาต้า ผู้เข้าประกวดดิเอ็กซ์แฟกเตอร์ไทยแลนด์ ได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าผ้าภายในมีเงินสดประมาณ 3,000 บาท พร้อมบัตรเอกสารสำคัญต่างๆ เพาเวอร์แบงก์ สายชาร์จโทรศัพท์ โดยเหตุเกิดระหว่างปากซอยลาดพร้าว 40-42 เขตลาดพร้าว เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ นายภาคินได้เลิกร้องเพลงที่ย่านเลียบทางด่วนและกำลังเดินทางกลับบ้าน ก่อนจะเข้าบ้านรู้สึกหิวจึงแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยลาดพร้าว 42 ก่อนจะเดินกลับบ้านจนใกล้ถึงปากซอยลาดพร้าว 40 สังเกตเห็นมีจักรยานยนต์พร้อมคนขี่อยู่ก็ระวังตัว เพราะเคยทราบข่าวว่าแถวนี้มีคนโดนจี้เยอะ จังหวะที่เดินไม่ทันระวังตัว มีคนร้ายอีก 1 คนเดินเข้ามาประกบทางด้านหลัง และกระชากกระเป๋าไป ยังไม่พอกลับถูกคนร้ายเข้ามาถามว่ามีทรัพย์สินอะไรอีกไหม ก่อนจะค้นเอาโทรศัพท์ไป จึงบอกไปว่าขอซิมในมือถือก่อนได้มั้ยเพราะมันสำคัญมาก แต่ถอดซิมไม่ออกจนคนร้ายหลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและตรวจสอบเส้นทางของคนร้าย ตำหนิรูปพรรรณของคนร้าย จนสามารถติดตามจับกุม 2 คนร้ายได้ที่บ้านพักย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ก่อนนำตัวมาทำการสอบสวน จากนั้นได้ประสานงานให้นายภาคิน ผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุมาจากความคึกคะนอง ก่อนเกิดเหตุได้นั่งกินเหล้ากันอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ย่านลำลูกกา จากนั้นได้ขับรถเล่นจนมาถึงที่เกิดเหตุเจอผู้เสียหายอยากระบายอารมณ์จะเข้าไปทำร้าย แต่เกิดเปลี่ยนใจเข้าไปชิงทรัพย์ก่อนจะหลบหนี และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ จากนั้นนำตัวไปส่งสถานพินิจ โดยหนึ่งในผู้ต้องหายังมีประวัติร่วมกันปล้นทรัพย์เมื่อปี 2558 ในเขตพื้นที่ สน.สายไหมด้วย