MGR Online - ตำรวจแถลงรวบหนุ่มสึกพระมาได้ 30 วัน ชิงทรัพย์ 11 ครั้ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ทีวีช่อง 5 ด้วย เผยมุ่งเป้าเหยื่อสุภาพสตรี ด้าน “บิ๊กหยม” สั่งเพิ่มกำลังสายตรวจ
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รรท.รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ รรท.ผบก.น.1 พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.บก.น.1 พร้อมชุดสืบสวน บก.น.1 และสน.ดินแดง แถลงผลการจับกุม นายบรรพต ถิ่นวงษ์ม่อม หรืออาม อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์หลายพื้นที่กว่า 11 คดี ในช่วงเวลา 30 วัน หนึ่งในจำนวนนี้ก่อเหตุชิงทรัพย์เจ้าหน้าที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนถูกจับกุมที่ตลาดย่านบางซ่อนเมื่อวันที่ 12 พ.ย.
พ.ต.อ.เสนิตกล่าวว่า พฤติกรรมของคนร้ายจะขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนดูลาดเลาเหยื่อที่เป็นสุภาพสตรีที่สะพายกระเป๋าโดยไม่ระมัดระวัง ลงมือก่อเหตุขับรถขึ้นฟุตปาธแล้วกระชากกระเป๋าทันที จากนั้นขับรถหลบหนีไปก่อนนำทรัพย์สินไปขายและนำเงินไปซื้อยาเสพติด จากการตรวจสอบพบว่าก่อเหตุมาแล้ว 11 ครั้ง หลังสึกจากพระภิกษุเมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมาได้เพียง 30 วัน ทั้งนี้ยังตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ สน.พหลโยธิน สน.สุทธิสาร และสน.ลาดพร้าว ส่วนก่อนหน้านี้จะเคยก่อเหตุหรือไม่ อยู่ระหว่างการขยายผล แต่จากการตรวจสอบประวัติเคยต้องโทษคดีตั้งแค่ปี 2551 ทั้งคดียาเสพติด ลักทรัพย์ และชิงทรัพย์ในหลายพื้นที่
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวว่า ได้กำชับไปยังทุกสถานีตำรวจว่าให้รับคำร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีวิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์เพื่อติดตามและขยายผลคนร้ายมาดำเนินคดี อีกทั้งมาตรการป้องกันได้สั่งการในทุกพื้นที่ให้เพิ่มกำลังสายตรวจจักรยานยนต์ และสายตรวจเดินเท้าเพื่อเฝ้าระวังป้องกันเหตุอาชญากรรม
ขณะที่ น.ส.อภิชญา ก้อนแก้ว หรือมิงค์ เจ้าหน้าที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ของตนไปเมื่อคืนวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะตามปกติแล้วจะใช้ทางเท้าเดินทางกลับที่พักอยู่เป็นประจำกว่า 2 ปีไม่เคยพบเหตุลักษณะนี้มาก่อน ยืนยันว่าเส้นทางที่ใช้สัญจรไม่เปลี่ยว มีแสงสว่างเพียงพอ ส่วนพื้นที่ละแวกนั้นจะเคยมีการก่อเหตุมาก่อนหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ จนกระทั่งมาเกิดเหตุกับตัวเอง ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ไป ก่อนจะถึงในงานมงคลสมรสของตัวเองเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลในพิธีมงคลสมรส ถือว่าเรื่องร้ายๆ ได้ผ่านไปแล้ว และช่วงเช้าก็ได้ไปทำบุญพร้อมครอบครัว
ทั้งนี้ น.ส.อภิชญายังฝากเตือนไปยังสุภาพสตรีให้ระมัดระวังการเดินทาง หรือเพิ่มความระมัดระวังเมื่ออยู่ในที่สุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง เช่นเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นที่โดนก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ระบุว่า กระเป๋าสะพายของกลางที่นำมาแถลงข่าวเป็นของตนเอง ส่วนเอกสาร และกระเป๋าใส่สตางค์ใบเล็กไม่พบอยู่ในของกลาง
