MGR Online - จับทันควันหนุ่มวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ห้างเพชรทองออโรร่า ภายในโลตัสสาขาคลอง 7 ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อ้างก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ธ.ค. 60 พ.ต.ต.ทัศนะ อุดมพร สารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จากร้านห้างเพชรทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองเจ็ด ลำลูกกา ม.4 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.ลำลูกกา, พ.ต.ท.ชุมพล พิศลกุลพันธ์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.จุมพล รุจิดำรงค์ชัย รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ ชัยบำรุง สวป.สภ.ลำลูกกา และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา จำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุพบประชาชนยืนมุ่งดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก และพนักงานที่อยู่ในร้านทองต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบถาม นางสาวสดใส เกาะกลาง อายุ 36 ปี พนักงานร้านทอง บอกว่า ขณะที่ตนเองยืนรอรับลูกค้าอยู่ที่เคาน์เตอร์หน้าร้าน ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหมวกแก๊ป สวมเสื้อสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ เดินเข้ามาที่ร้านและขอดูสร้อยคอทองคำลายกระดูกมังกรน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น
ตนจึงหยิบออกมาให้ดู และจังหวะที่ตนเอียงตัวจะหันหลังนั้น คนร้ายได้หยิบสร้อยคอทองคำและวิ่งหลบหนีไปทางหน้าห้างสรรพสินค้า ตนจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างให้ช่วยวิ่งไล่จับ
ด้าน พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.ลำลูกกา กล่าวว่า หลังจากคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำจากร้านห้างเพชรทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองเจ็ดลำลูกกา และวิ่งหลบหนีไปโดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีส้ม - ดำ หมายเลขทะเบียน สลล 942 กรุงเทพมหานคร ขับหลบหนีไปทางตลาดนัด ทางเข้าบ้านหมู่บ้านฟ้าปิยะรมย์ แต่รถจักรยานยนต์ไปชนกับเหล็กกั้น คนร้ายจึงทิ้งรถจักรยานยนต์และวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้าข้าง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งพลเมืองดี จึงช่วยกันปิดล้อมและสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายพันแสง นามตะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/225 ซ.พหลโยธิน 54/1แยก 4-30 (ม.มารวย 1) แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลาง เป็นสร้อยทองรูปพรรณ ลายกระดูกมังกร หนัก 2 บาท ราคา 42,480 บาท และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่นมีโอ สี น้ำตาล ขาว ส้ม หมายเลขทะเบียน สลล 942 กรุงเทพฯ ขณะลงมือก่อเหตุที่ร้านทอง AURORA ห้างโลตัสคลอง 7 ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองทำงานเป็นพนักงานขนของ และติดเงินบริษัทอยู่ 160,000 บาท ที่ก่อเหตุไปนั้นเพื่อจะนำเงินไปใช้หนี้บริษัท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “วิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป