MGR Online - ญาติเรียกร้อง ตร.ชดใช้ค่าเสียหาย 7.5 ล้าน คดี “พล.ต.ต.รณพงษ์” กับพวกอุ้มทรมานให้รับผิด คดียิง อบต.บางริ้น
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.ปิยวดี คชสิงห์ น.ส.อังสุมารินร์ สุวรรณี และ ด.ญ.รัตาวดี สุวรรณี ภรรยาและบุตรสาว ของนายวิโรจน์ สุวรรณี ที่ถูก พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว อดีตรอง ผบช.กมค.และพวกรวม 14 คน อุ้มซ้อมทรมานให้รับผิดในคดีฆ่าคนตาย พร้อมนายบุญเรือง อุทัยรัตน์ ทนายความเดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ภายหลังศาลฎีกาพิพากษาจำคุก พล.ต.ต.รณพงษ์ และพ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ อดีตรอง ผบก.สส.บช.ภ.8 คนละ 15 ปี
นายบุญเรืองกล่าวว่า คดีนี้นายวิโรจน์ถูก พล.ต.ต.รณพงษ์ ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สส.บช.ภ.8 และพวกอุ้มไปซ้อมทรมานด้วยการช็อตไฟฟ้าให้ลงชื่อรับสารภาพในคดียิงนายเกษม ตงคุก สมาชิก อบต.บางริ้น จ.ระนอง เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2545 เป็นเหตุให้นายวิโรจน์ กับพวกรวม 4 คน ถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาของศาล ทั้งนี้ หลังศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทางนายวิโรจน์จึงได้ยื่นฟ้องตำรวจชุดจับกุมทั้งหมด มีการสู้คดีจนถึงชั้นศาลฎีกา จนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 ศาลมีคำพิพากษาลงโทษ พล.ต.ต.รณพงษ์ กับพวกดังกล่าว
“ขอให้ท่าน ผบ.ตร.พิจารณากำหนดค่าสินไหมทดแทนและค่าความเสียหายต่างๆ เป็นเงินจำนวน 7,500,000 บาท ให้แก่ผู้เสียหายภายใน 15 วัน หากไม่ดำเนินการทางฝ่ายผู้เสียหายก็มีความจำเป็นต้องฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” นายบุญเรืองระบุ
นายบุญเรืองกล่าวว่า สำหรับคดีที่นายวิโรจน์ตกเป็นจำเลยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2548 ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ประหารชีวิตนายวิโรจน์ แต่ให้การเป็นประโยชน์ศาลจึงลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง ล่าสุดทางญาติอยู่ระหว่างการเตรียมพยานหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องขอรื้อฟื้นคดีต่อศาลต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนติดตามตัว พล.ต.ต.รณพงษ์ และพ.ต.อ.อนุชน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี นายบุญเรือง กล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ ทางญาติผู้เสียหายขอให้ ผบ.ตร.ดำเนินการในส่วนของการเยียวยาความเสียหาย และการให้ความเป็นธรรมในทางคดีมากกว่า
ด้าน น.ส.อังสุมารินทร์กล่าวว่า หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ทำให้ตนเองและครอบครัวมีความหวังอีกครั้ง หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นคำร้องขอรื้อฟื้นคดีต่อศาล ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแม้จะเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มผู้ต้องหาเพราะทั้งหมดเป็นข้าราชการตำรวจ แต่ก็ไม่เคยถูกข่มขู่คุกคามแต่อย่างใด