MGR Online - ชาวบ้านรอบเหมืองทอง และกลุ่มปฏิรูปทรัพยากรจังหวัดพิจิตร ทวงถามติดตามความคืบหน้าคดี หลังดีเอสไอรับเรื่องเป็นคดีพิเศษแล้วตั้งแต่ปี 59 หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะชาวบ้านไม่รู้กฎหมาย
วันนี้ (20 พ.ย.) เวลา 14.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ รองประธานกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ พร้อมตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อทวงถามความคืบหน้าขอให้เร่งรัดและดำเนินคดีเกี่ยวกับตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ทำเหมืองทองคำใน จ.พิจิตร จำนวน 1.5 หมื่นไร่ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้ลงมารับเรื่อง
นางวันเพ็ญ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ดีเอสไอ ได้รับคดีเรื่องที่ดินของการทำเหมือง การออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ การทำเหมืองนอกประทานบัตร และการทำเหมืองในที่สาธารณะไว้เป็นคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปี 2559 พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพยานหลักฐานแต่คดียังไม่มีความชัดเจน จึงเดินทางมาทวงถามความคืบหน้าและขั้นตอนในการดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวข้องระหว่างประเทศ ชาวบ้านทุกคนไม่ทราบข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เกรงว่า จะหมดอายุความก่อนจะมีการดำเนินคดี รวมทั้งขอให้ดีเอสไอรับเรื่องของน้ำและสิ่งแวดล้อมเป็นคดีพิเศษด้วย ช่วยพิจารณาเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ชาวบ้าน นอกจากนี้ อยากให้ดีเอสไอตรวจสอบเรื่องการฟอกเงินของบริษัทดังกล่าวด้วย เนื่องจากอยู่ในอำนาจ
“คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติจะเป็นผู้กำหนดแหล่งแร่เพื่อพัฒนาแหล่งแร่นั้นและต้องไม่ประกาศเขตพัฒนาแหล่งแร่ทับที่ทำกินของประชาชน เพราะจะทำเกิดผลกระทบต่อชีวิตเป็นอย่างมากและการทำเหมืองแร่ ก็ไม่สามารถใช้ที่ดินทำกินนั้นได้อีกเลย ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมทั้งประชาชนรอบเหมืองทองคำ บริษัท อัคราฯ ยังไม่ได้รับการรับรองว่าไม่มีสิ่งปนเปื้อนออกมาสู่ภายนอกแต่อย่างใด ดังนั้น ควรดำเนินการแก้ไขให้หายเสียก่อน นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับ บริษัท อัคราฯ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น การอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงผังโครงการ การย้ายบ่อกากแร่ใกล้ชุมชน เป็นต้น”
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า ดีเอสไอ ได้รับเรื่องเป็นคดีพิเศษไว้ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 2559 ซึ่งหากสอบสวนพบว่ามีความผิดจะทำการขยายผลและจะแจ้งผลให้ทราบทันที แต่ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใครทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม วันนี้ดีเอสไอจะรับเรื่องน้ำเสียไว้เพิ่มเติม ส่วนคดีสิ่งแวดล้อมหากพยานหลักฐานไปถึงก็จะรับไว้ เบื้องต้นวางแผนกรอบเวลาดำเนินคดีให้เสร็จภายใน 31 มี.ค. 2561