MGR Online - “พล.ต.อ.วิระชัย” แจงคลิปวินจักรยานยนต์รุมสหบาทา-หมวกกันน็อกฟาดนักเรียนอาชีวะ ชนวนเหตุขี่ปาดหน้ากัน ยันดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย แนะ “ส่งยิ้มจากใจจริง-แผ่เมตตา” เชื่อแก้ไขปัญหาได้ แนะผู้โพสต์คลิปเหตุวิวาทดังกล่าวควรลบ ยันมีความผิดด้วยการหมิ่นประมาทโดยโฆษณาด้วยภาพ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
วันนี้ (19 พ.ย.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงกรณีมีผู้เผยแพร่วิดีโอคลิปนักเรียนอาชีวะย่านศรีย่าน ถูกกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างรุมทำร้าย เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้กระแสสังคมรุมประณามกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างว่า จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเนื่องจากในเช้าวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. เด็กนักเรียนที่เห็นในภาพได้ขี่จักรยานยนต์ปาดหน้ามอเตอร์ไซค์รับจ้างคันหนึ่งแล้วเกิดการมองหน้ากัน จากนั้นต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไป จนกระทั่งอีกครู่ต่อมาทั้งสองขี่มอเตอร์ไซค์มาเจอกันอีก ฝ่ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างซึ่งเป็นผู้ใหญ่จึงพูดจาตำหนิเด็กนักเรียนถึงเรื่องมารยาทการขับขี่รถจนเกิดบานปลายกลายเป็นการต่อสู้ชกต่อยกัน ทำให้เพื่อนนักเรียนที่อยู่ในบริเวณนั้นอีก 4 คนเข้ามาช่วยรุมทำร้ายวินมอเตอร์ไซค์จนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก โดยในที่เกิดเหตุนั้นอยู่ห่างจากที่ตั้งของวินมอเตอร์ไซค์เพียง 30 เมตร ทำให้เพื่อนวินมอเตอร์ไซค์กรูกันเข้ามาช่วย เด็กนักเรียนอีก 4 คนต่างพากันวิ่งหลบหนีเข้าโรงเรียนไป เหลือเพียงเด็กนักเรียนที่เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์คันเกิดเหตุเพียงลำพังจึงถูกวินมอเตอร์ไซค์รุมทำร้ายจนมีอาการฟกช้ำไปทั้งตัวตามที่เห็นในภาพ เรื่องนี้เมื่อมีผู้โทรศัพท์แจ้งความมายัง สน.สามเสน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสองฝ่ายมาได้จนครบทุกคน และนำตัวมายัง สน.โดยได้เชิญพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนและ ผอ.โรงเรียนมาร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นพบว่าเป็นการทำร้ายกันทั้งสองฝ่าย โดยวินมอเตอร์ไซค์ผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า แต่เห็นแก่อนาคตของเด็กจึงไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด ส่วนเด็กนักเรียนเองก็สำนึกผิด และต่างฝ่ายยอมขอโทษซึ่งกันและกัน โดยทั้งสองฝ่ายต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ก่อความวุ่นวายใดๆ อีกหลังจากนี้ เพราะต่างก็ให้อภัยกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในทางกฎหมายกรณีนี้ถือเป็นความผิดต่อแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดีต่อทั้งสองฝ่าย โดยต้องแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำร้ายผู้ใหญ่ และผู้ใหญ่ทำร้ายเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตั้งข้อหาต่อนักเรียนได้เนื่องจากได้ส่งตัววินมอเตอร์ไซค์ที่จมูกหักไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลและได้ถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสมิติเวช จึงต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ว่าฝ่ายวินมอเตอร์ไซค์ที่ถูกเด็กนักเรียนทำร้ายนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือรักษาตัวเกิน 20 วันหรือไม่เสียก่อน
“ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า ในการใช้รถใช้ถนนนั้นย่อมต้องเกิดการกระทบกระทั่งกันบ้าง อยากให้ทุกฝ่ายมีสติ และรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน อยากให้ฝึกดู ลองส่งรอยยิ้มจากใจจริงให้คนที่ขับรถปาดหน้าเราดูสิครับ ยิ้มให้เขาจากใจจริง แผ่เมตตา ขอให้เขาถึงบ้านอย่างปลอดภัย อย่าหวังแค่เอาชนะกันบนถนน เพราะคนที่ชนะอย่างแท้จริงคือคนที่ได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวของตนเองที่บ้านอย่างมีความสุข ไม่มีเรื่องคดีความให้ทุกข์ร้อนใจต่างหาก” โฆษก ตร.กล่าว และว่า สำหรับพี่น้องประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์บางทีเราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น การนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวผู้ถูกถ่ายวิดีโอจนทำให้วินมอเตอร์ไซค์ตกเป็นจำเลยสังคม ได้รับความเกลียดชังจากสังคม จนเมื่อความจริงปรากฏภายหลังว่าเป็นอีกอย่าง ดังนี้ สามารถแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่วิดีโอเป็นคนแรก รวมถึงผู้ที่แชร์วิดีโอต่อไปได้ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยภาพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ทั้งคนที่โพสต์วิดีโอและคนที่แชร์วิดีโอ ลบวิดีโอดังกล่าว