MGR Online - คืบหน้ามือปืนยิงประธานบริษัท โซลาร์เซลล์ ดับ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ รอง ผบ.ตร. ยันรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วจับได้แน่หนีไม่รอด พยานเผยคนร้ายขับรถตามมาทัน ก่อนเดินเข้าหาเหยื่อใช้ทูตมรณะ 11 มม. ยิงใส่ แฉปมก่อนตายฟ้องร้องนายจ้างเก่า ก่อนออกมาเปิดกิจการทำธุรกิจเอง
จากกรณีคืนวันที่ 17 พ.ย. 60 ได้มีคนร้ายขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สวมทะเบียน ขับไล่ เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด รถประจำตำแหน่งของ ดร.อัครนันท์ มงคลชลสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ประธาน บริษัท ฟินิกซ์ เวิลด์ เอนเนอจี จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจ ให้บริการระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร มาตามถนนซอยมังกรนาคดี ถึงสะพานข้ามคลองก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้าน ลัลลี่วิลล์ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ผู้ตายพักอาศัยอยู่ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเปิดประตูลงจากรถมาโต้เถียงกันอย่างรุนแรงถึงขั้นชกต่อยกัน โดยพยานระบุว่า ผู้ก่อเหตุวิ่งกลับไปที่รถเอาปืนขนาด 11 มม. มากระหน่ำยิ่งผู้ตายจนเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายและผู้ก่อเหตุอาจมีปัญหาขับรถปาดหน้า และเกิดเฉี่ยวกัน เนื่องจากที่ซุ้มล้อหน้ามีร่องรอยการเฉี่ยวชน แต่หลังจากตรวจสอบโดยละเอียด และสอบถามภรรยาผู้ตาย ทราบว่าร่องรอยดังกล่าวเกิดขึ้นนานแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ด้านตำรวจได้พุ่งเป้าไปที่ปัญหาเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัวของผู้ตาย ส่วนเรื่องขับรถปาดหน้ากัน ตำรวจก็ยังไม่มีการตัดประเด็นดังกล่าวทิ้งแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ตายขับรถเข้ามาในซอยตั้งแต่ช่วงทางเข้าด้านถนนเทพารักษ์ เข้ามาในซอยเพื่อแกะรอยรถและตัวผู้ก่อเหตุ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกลุ่มผู้ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. เนื่องจากอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นกลุ่มอาวุธสงคราม
ความคืบหน้าในวันนี้ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าว โดยได้เข้าตรวจดูสถานที่เกิดเหตุที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ลัลลี่วิลล์ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ใช้เวลาในการตรวจดูสถานที่เกิดเหตุนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางมารับฟังบรรยายสรุปผลความคืบหน้าในการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลแพรกษา โดยมี พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก. พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ เป็นผู้รายงานผลความคืบหน้า
หลังจากนั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า สำหรับความคืบหน้าในคดีนี้ได้สั่งการให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ให้รวบรวมพยานหลักฐานและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ให้เก็บรวบรวมให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบ ในส่วนประเด็นการก่อเหตุในครั้งนี้มีหลายประเด็นทั้งในประเด็นเรื่องส่วนตัวและประเด็นในเรื่องผลประโยชน์ และในส่วนประเด็นอื่นๆ เราก็ยังไม่ทิ้ง
ซึ่งในขณะนี้พอมีข้อมูลของผู้ก่อเหตุบ้างแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้เกรงว่าจะกระทบต่อการสืบสวน และคาดว่า น่าจะใช้เวลาอีกไม่นานน่าจะติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เพราะในขณะนี้มีความคืบหน้าและข้อมูลมากพอสมควร โดยเฉพาะทะเบียนรถของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะมันจะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง และมีความมั่นใจในส่วนของหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่มีอยู่ในขณะนี้ ว่า จะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเร็วๆ นี้ และในส่วนของข้อมูลต่างๆ หากประชาชนท่านใดมีข้อมูลก็สามารถส่งมาให้มาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เพื่อที่จะดำเนินการได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในส่วนที่ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มีการลงมาพูดคุยกับผู้ก่อเหตุนั้น ในเรื่องนี้ก็อยู่ในสำนวนการสอบสวน เราสอบทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้สอบพยานไปแล้วทั้งหมด 5 ปาก ซึ่งทุกคนให้การสอดคล้องกันทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว
ขณะเดียวกัน ข้อมูลในเชิงลึกทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้ทำการฟ้องร้องศาลแรงงานนายจ้างคนเก่าอยู่ในเรื่องที่นายจ้างคนเก่าไม่ยอมจ้างค่าแรงจำนวน 2 เดือนสุดท้าย ก่อนที่ผู้ตายและเพื่อนร่วมงานที่จะออกจากบริษัทเดิมมาพร้อมกับผู้ตาย ก่อนที่ผู้ตายจะมาเปิดบริษัทเป็นของตัวเองเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา และผู้ตายยังเป็นคนชอบยิงปืน และชอบพาลูกสาวไปซ้อมยิงปืนอยู่เป็นประจำ ในส่วนปืนของผู้ตายที่ตรวจสอบอยู่ในรถของผู้ตายนั้นเป็นปืนลูกโม่้ขนาด .38 มม. ขณะตรวจไม่มีลูกกระสุนอยู่ในรังเพลิงแต่อย่างใด
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนออกมาไม่ทัน ออกมาอีกทีคือเห็นผู้ตายนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว แต่มีสองแม่ลูกที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นรถของผู้ตายขับมาจอดที่กลางสะพาน ทางเข้าหมู่บ้าน ส่วนรถผู้ก่อเหตุเมื่อเห็นรถของผู้ตายจอดอยู่กลางสะพาน คนร้ายได้เลี้ยวกลับรถไปจอดอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม และเห็นผู้ตายเดินลงมาจากรถส่วนผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นชายและมีลักษณะคล้ายผ้าปิดบังใบหน้า เปิดประตูลงมาจากรถ ก่อนที่จะกวักมือเรียกผู้ตายให้เดินเข้ามาหา ในขณะที่ผู้ตายเดินลงจากรถมาถึงบริเวณทางขึ้นสะพาน ผู้ก่อเหตุได้เดินข้ามฝั่งมาหาผู้ตายก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ผู้ตายหลายนัดจมผู้ตายฟุบลงไปกองอยู่กับพื้น ผู้ก่อเหตุจึงได้วิ่งข้ามถนนไปขึ้นรถขับหลบหนีออกไป แต่ตรงนี้เป็นข้อมูลที่สองแม่ลูกที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ตนฟัง
