MGR Online - ผบ.ตร.เผย “ผกก.หนุ่ย” บอดี้การ์ด “ยิ่งลักษณ์” เข้ารายงานตัวแล้ว ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ จ่อเรียก 14 คนใกล้ชิดสอบ หลังนัดเจอ “ยิ่งลักษณ์” ที่โรงแรมเอสซีปาร์คก่อนหายตัว
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง กล่าวถึงการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานหลบหนีไม่เดินทางไปรับฟังคำพิพากษาของศาล ในคดีละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า หลังจากศาลอนุมัติหมายจับ ได้สั่งการ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และผู้บัญชาการศูนย์ปฏบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ สืบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีไปอยู่ที่ใด ยืนยันว่าจากการตรวจสอบไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ไม่พบว่าหลบหนีออกทางช่องทางตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแต่อย่างใด ช่องทาง ตม.อื่นๆ ก็ไม่มี อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่ใด ในประเทศ หรือนอกประเทศ สิ่งเหล่านี้หากไม่มีข้อมูลชัดเจนแล้วพูดออกไปก็จะมีผล ยืนยันดำเนินการอยู่ทุกช่องทาง ทุกมิติ ค่อยๆ ทำไป ขณะนี้เชิญคนใกล้ชิดมาสอบถาม รวมถึง พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผกก.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ที่ทำหน้าที่นายตำรวจติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ติดต่อได้เข้ารายงานตัวแล้ว ให้ข้อมูลแล้วแต่เปิดเผยไม่ได้ ขณะเดียวกันก็กำลังพิจารณาจะเชิญบุคคลที่พบว่ามีการพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่โรงแรมเอสซีปาร์คก่อนหายตัวไป ซึ่งตามข้อมูลมี 14 คนมาพูดคุย แต่คงไม่เชิญทั้งหมดเพราะเชื่อว่าคนเหล่านี้เป็นการพบเจอพูดคุยกันตามปกติ เพราะช่วงดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็อยู่ระหว่างการประกันตัว ไม่มีหมายจับอะไร จึงต้องพิจารณาว่าควรเชิญใครมาสอบถามบ้าง
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ไม่ได้กำชับอะไร เพราะทราบอยู่แล้วว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำอะไร อย่าพยายามดึงท่านเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนไม่ทราบว่าเหตุและผล และไม่ทราบว่ามีใครรู้เห็นช่วยเหลือหรือไม่ เพราะแนวคิดคนเราไม่เหมือนกัน ไปคิดดู เขาก็หนีจะบอกคนเยอะหรือเปล่า ส่วนจะมีศักยภาพในการหนีเพียงลำพังหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะตนไม่ใช่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในส่วนของตำรวจย้ำว่าดำเนินการทุกมิติ ทั้งประกาศสืบจับ ติดตามตัว ตรวจสอบเส้นทางหลบหนี เส้นทางธรรมชาติ เส้นทางโจรตามแนวชายแดนที่พวกนักการเมืองมีสีต่างๆ หนีกันไปก่อนหน้านี้ก็ไปสืบสวนว่าเป็นไปได้หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ทราบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานไปยังตำรวจสากล 190 ประเทศ รวมถึงของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ หรือยูเออีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานผลตอบรับ เหมือนกรณีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ที่สอบถามตำรวจสากลไปเหมือนกัน คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าเจอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จับทันที
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเสนอขอถอนหนังสือเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผบ.ตร.กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ถ้าจะให้ตนทำก็จะประสานให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ดำเนินการ บางหน่วยงานอย่าโยนกันไปโยนกันมา เรื่องพวกนี้ไม่ต้องรอสั่ง มีหน้าที่ก็ทำไปเลย
เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไปร้อง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ ผบ.ตร.และรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ว่าละเลยทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีไปได้นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนเฉยๆ กับเรื่องนี้ เรื่องปกติ ไม่มีอะไร ตนไม่ได้ไปทุจริตอะไร ป.ป.ช.ต้องไปดูว่าตนโกงเงินใครมาหรือเปล่า ตนไม่ได้คอร์รัปชันอะไร คนไทย 60-70 ล้านคน มีตะแบงอยู่คนเดียว ถ้าใครหนีไปต้องถูกดำเนินคดี ม.157 ทุกคนหรือ ตนว่าเรื่องนี้ตะแบงมากกว่า ท่านรองฯ ประวิตร รับผิดชอบความมั่นคงจริง แต่ท่านเกี่ยวอะไร ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ดำเนินคดีกลับต่อนายศรีสุวรรณ ตอนนี้ทำทานบารมีอยู่ ของเหม็นตนไม่อยู่ใกล้อยู่แล้ว
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ตนได้เชิญ พ.ต.อ.วทัญญู หรือ ผกก.หนุ่ย มาพบที่สำนักงาน ชั้น 7 ตร.แล้ว และสอบถามด้วยตนเอง เป็นการคุยกันทั่วไป ก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เป็นเบาะแสในการดำเนินการ แต่บอกไม่ได้ว่า พ.ต.อ.วทัญญูให้ข้อมูลอะไร หรือพบเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เป็นเรื่องของการสืบสวน ไม่ขอตอบ ยืนยันว่าทำตามกระบวนการตามคำสั่ง ผบ.ตร.ทุกอย่าง จากการตรวจสอบ พ.ต.อ.วทัญญูก็ไปช่วยราชการติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามระเบียบถูกต้อง กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หายไป ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนอะไรกับ พ.ต.อ.วทัญญูแล้ว เพราะตนสอบด้วยตนเองอยู่แล้ว
รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า การจะได้ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์มาดำเนินคดีหรือไม่นั้น ต้องขอชี้แจงอย่างนี้ว่าอดีตนายกฯ ได้รับการประกันตัวจากศาล ซึ่งศาลพิจารณาแล้วว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่ไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ก็ตามหลักของ ป.วิอาญาทั่วไป ฉะนั้น ทหารตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง จะไปก้าวล่วงมากก็ไม่เหมาะ และไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่ 2 อดีตนายกฯ ไม่อยู่ที่บ้านนั้น ขณะนั้นหมายจับยังไม่มี คนที่พาหนีก็ยังไม่เข้าข่ายมีความผิด แต่หลังมีหมายจับ ผบ.ตร.กำชับให้ออกประกาศสืบจับอยู่แล้ว ถ้าตอนนี้ตำรวจคนไหนพาหนีก็ผิด ที่สำคัญอีกเรื่องเมื่อศาลให้ประกันตัวก็ไม่ได้สั่งการให้ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หน่วยใดมาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง การที่ศาลให้ประกันก็เป็นดุลพินิจที่ตำรวจก้าวล่วงไม่ได้ และศาลก็ไม่ได้สั่งให้ตำรวจหรือหน่วยใดหน่วยหนึ่ง เราก็ไปก้าวล่วงไม่ได้ตราบใดที่คำตัดสินยังไม่ออกมา ก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนกรณีการเสนอขอถอนหนังสือเดินทางนั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อศาลฯ มีคำพิพากษาออกมาเสียก่อน ซึ่งไม่ทราบว่าศาลจะตัดสินอย่างไร