xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : เปิดปมฆ่ายกครัว 8 ศพ หักหลังค้ายาหรือโรงโม่?

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2560 ตอน เปิดปมฆ่ายกครัว 8 ศพ หักหลังค้ายาหรือโรงโม่?



เหตุการณ์ฆ่าหมู่ยกครัว 8 ศพ เหยื่อทั้งหมดเป็นครอบครัวของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ที่บ้านกลางอ. อ่าวลึก จ กระบี่ คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศ เนื่องจากเป็นการฆ่าที่เห็นความโหดเหี้ยมอำมหิต คนร้ายลงมือฆ่าหมู่ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงและเด็ก ใช้ปืนกดหัวยิงทีละคนๆอย่างเลือดเย็น

คดีนี้มีคำถามตามมาจากภาพความโหดร้ายที่ปรากฎว่า ต้นเหตุการสังหารหมู่มีปมความขัดแย้งอะไรระหว่างผู้ใหญ่วรยุทธ คนตาย กับกลุ่มคนสั่งฆ่า ถึงต้องเจ็บช้ำชำระแค้นกันอย่างอำมหิตผิดมนุษย์มนา ขนาดที่ต้องฆ่าล้างโคตร ล้างครัวกันขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ที่เห็นจากคดีอีเปรี้ยวฆ่าหั่นศพ ข่าวดังเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นับว่าโหดเลวแล้ว มาเจอคดีนี้เป็นหนังคนละม้วนมวยคนชั้นไปเลย

ตำรวจตั้งปมสั่งตาย5ประเด็น คือ1/ขัดแย้งเรื่องรับเงินดำเนินการโรงโม่หิน 2/ขัดแย้งเรื่องที่ดินสาธารณะ 3/ ปมค้ายาเสพติด หรือธุรกิจใต้ดิน 4/ การเมืองท้องถิ่น 5/ ชู้สาว การสืบสวนผ่านมาก็ตัดประเด็นอื่นออกไป เหลือประเด็นหลักๆอยู่สองปม คือ เรื่องโรงโม่หิน กับปมค้ายา

ความขัดแย้งปมโรงโม่หินมีน้ำหนักมากที่สุดในขณะนี้ เพราะผู้ใหญ่วรยุทธไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจ โดยรับเป็นคนดำเนินการทุกด้านของการเปิดโรงโม่หินที่อ่าวลึก โดยมีนายหัวใหญ่จากหลายจังหวัดในภาคใต้ร่วมหุ้นลงขันกันลงมา ผู้ใหญ่วรยุทธมีหน้าที่เป็นนายหน้ากว้านซื้อที่ดิน และการเคลียร์ปัญหากับทางการและชุมชน คนตายรับเป็นคนจัดการ และรับเงินรับไปหลายสิบล้านบาท แต่ทำไม่สำเร็จเงินก็ไม่เหลือ

จึงคาดการณ์ว่า ก่อนจะมาถึงวันสั่งตาย คงจะมีการเจรจาพูดคุยกันมาแล้ว แต่คงจะตกลงกันไม่ได้ ผู้ใหญ่วรยุทธ์ก็คงบ่าสยเบี่ยงเรื่องคืนเงินให้กับนายหัว ประตูของการเจรจาปิดไปเลยไม่มีทางอื่น จึงจบลงที่เกิดเหตุสยองขึ้น

อีกประเด็นหนึ่งที่การสืบสวนในทางลึกยังไม่ตัดออกไป ก็คือปมการค้ายาเสพติด ปมนี้มีคงความสำคัญ ที่นักสืบมองจากการเกิดเหตุ ที่มีองค์ประกอบและเหตุปัจจัยบ่งชี้ว่า การสังหารทันคล้ายกับวิธีการลงมือเก็บกับเองในขบวนการค้ายาเสพติด เมื่อเกิดการหักหลังหรือเบี้ยวเงิน จะสำเร็จโทษกันอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตเพื่อให้คนที่เหลืออยู่ในขบวนการเห็นผลลัพธ์ของการเป็นคนทรยศจะได้โทษฑัณท์แบบไหน

สรุปแล้วปมเหตุการฆ่าล้างครัวผู้ใหญ่วรยุทธ์และครอบครัว ขมวดปมเหตุมาตากการหักเหลิ่ยมเฉือนคมในเรื่องผลประโยชน์ แต่จะเป็นเหตุจากธุรกิจโรงระเบิดหิน หรือธุรกิจค้ายาเสพติด

การคลี่คลายคดีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องยกเป็นภารกิจที่สำคัญเร่งด่วน ถึงขั้นที่ตัวผบ. ตร. พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ลงใต้ไปคุมการสืบสวนสอบสวนด้วยตัวเอง โดยจะต้องปิดคดีนี้ให้ได้จึงมีการระดมตำรวจนักสืบมือดีทุกระดับไปช่วยกันอย่างเต็มกำลัง อีกไม่กี่วันคดีก็คงจะรู้ สาเหตุอะไรที่เป็นเหตุการฆ่า และใครเป็นคนบงการ

การสืบสวนคดีจะต้องติดตามด้วยความระทึกใจ จากที่เกิดเหตุที่คนร้ายจำนวน6-7 คน เป็นชายฉกรรจ์แต่งชุดลายพรางทหารบุกเข้าจับคนในบ้านตั้งแต่ค่ำวันเกิดเหตุ เวลาสองทุ่มโดยประมาณผู้ใหญ่วรยุทธ์เป้าหมายก็เดินทางกลับมา แล้วโดนจับกุมตัวไว้ แต่การยิงทุกคนในบ้านเกิดขึ้นประมาณเวลา4ทุ่มเรื่อยไปถึงเที่ยงคืน คนร้ายจึงหลบหนีไปพร้อมกับรถยนต์ของเหยื่อหนึ่งคัน

สภาพที่เกิดเหตุบอกเบาะแสหลายอย่างได้เป็นอย่างดีคดีนี้กลุ่มคนร้ายมีการนำที่ดี หัวหน้าชุดสังหารต้องเป็นนักฆ่ามืออาชีพ เพราะมีการสั่ง ควบคุมทีมฆ่าได้อย่างดี เสร็จงานก็มีการเก็บพยานหลักฐานที่จะสาวไปถึงหมดจด แต่อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอย สัญญาณการใช้งานทางโทรศัพท์จะเป็นเบาะแสที่จะควานหาตัวคนร้ายได้ กับสิ่งที่ถูกทิ้งไว้อย่างก้นบุหรี่ ขวดน้ำดื่มหรือของอื่นก็จะเป็นพยานหลักฐานระบุถึงคนร้ายต่อไป

ขณะนี้แนวคิดของนักสืบยังถกเถียงกันว่า คนร้ายตั้งใจมาฆ่าล้างครัว หรือว่าไม่ได้ตั้งใจ ฝ่ายที่เห็นว่าคนร้ายไม่ได้ตั้งใจมาฆ่า มีเหตุผลอธิบายว่าถ้าคนร้ายมีแผนตั้งใจฆ่ามาก่อนจะไม่มีใครรอดชีวิตเลย แต่คดีนี้มีเหยื่อโชคดีรอดตายมาสามคน

แสดงว่าการฆ่าล้างครัวเกิดจากการตัดสินใจในขณะนั้น เพราะอาจจะมีเหตุควบคุมไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อฆ่าไปคนหนึ่ง คนทั้งหมดจที่อยู่ในบ้านก็ต้องภูกฆ่าเพื่อปิดปาก แต่เป็นการฆ่าที่ทำอย่างรีบเร่ง คนร้ายแบ่งกันสังหารเหยื่อจึงมีคนรอดตาย เพราะคนร้ายแต่ละคนมีฝีมือยิงไม่เท่ากัน และที่ต้องแบ่งกันยิงให้ทุกคนยิง เพราะคนร้ายป้องกันคนทรยศให้การซัดทอดในภายหลัง เลยต้องให้ทุกคนยิง

ส่วนแนวทางการสืบสวนไปถึงกลุ่มคนร้าย ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งจากปมประเด็นที่สันนิษฐานในคดีนี้ต่างกัน คือปมโรงระเบิดหินกับยาเสพติด สองเรื่องนี้ต่างกันก็ทำให้มีแนวทางการสืบสวนที่ต่างกัน ถ้าสืบในเรื่องปมโรงโม่หิน ก็หาร่องรอยจากที่เกิดเหตุกับการเชื่อมโยงสภาพก่อนเกิดเหตุ ซึ่งถ้าเป็นแนวนี้การสืบสวนไม่ยากเท่ากับปมยาเสพติด

แต่ถ้าปมสังหารมาจากยาเสพติด นักสืบก็จะเน้นไปที่การข่าวของขบวนการที่จะต้องตรวจสอบทุกความเคลื่อนไหว โดยใช้บริการของ"ซีไอ"รหัสลับที่เรียก "สายข่าว"ในวงการนักสืบที่ส่งไปหรือเลี้ยงไว้ให้แฝงตัวในขบวนการค้ายาเสพติด ตำรวจจะให้ซีไอเช็กความเคลื่อนไหวของ "สเปรโต" รหัสเรียกตัวหัวหน้าขบวนการยา ว่ามีการส่งทีมสังหารไปเด็ดหัวใครหรือไม่ การตรวจสอบนี้จะใช้เวลาช่วงหนึ่งจึงจะรู้

เรื่องปมยาเสพติดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่นักสืบไม่กล้าทิ้งปมนี้ไปง่ายๆเพราะภาพสยองจากการฆ่านั้น มันเป็นสิ่งที่ขบวนการค้ายาทำแบบนี้ และอีกอย่างหนึ่ง นะกสืบได้ให้น้ำหนักไปที่การที่คนร้ายเอารถยนต์โตโยต้า ยาริสของเหยื่อไปด้วย ทำให้เกิดปมที่สงสัยว่า มีอะไรซุกอยู่ในรถหรือไม่ ?

คดีนี้มีการคาดกันว่า ถ้าหากจับกุมตัวชุดฆ่าและผู้บงการไม่ได้ภายใน15 วัน การคลี่คลายคดีจะยากขึ้นมา นี่ก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วแต่ตำรวจก็ยังมั่นใจในการทำคดี ตะได้ตัวคนร้ายแน่ จึงต้องรอดูกันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น