รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2560 ตอน "บิ๊กตู่"ปืนลั่นใส่ตัวเอง กม.ต่างด้าวโหดเกินพิกัด
เรื่องพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทำปืนลั่นใส่ตัวเอง จากกรณีที่ออกกฎหมายบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ด้วยที่หวังจะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แต่แค่ขยับใช้ก็ต้องพับไว้ก่อน เพราะไม่มีใครเห็นด้วย มีแต่เสียงค้านดังระงม
เพราะว่ากฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับประยุทธ์ เนื้อหามันรุนแรงเกินไป หวังผลเลิศเกินไป โดยมองไม่เห็นคิดไม่ถึงกับความเสียหายที่จะเกิดตามมา เข็นกฎหมายออกมาก็เพียงต้องการแค่สภาพบังคับที่เด็ดขาด รุนแรง รวดเร็วอย่างเดียว
และคิดไม่ถึงว่าการให้ลงโทษคนฝ่าฝืนโดยให้ปรับหนักขั้นต่ำหัวละ4แสนบาทสูงสุด8แสนบาท สำหรับแรงงานเถื่อนหนึ่งคน ทำให้เกิดความเดือดร้อนมาก กลายเป็นจะแก้ปัญหาเก่าก็แก้ไม่ได้ ยังก่อให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก
ล่าสุดก็นายกฯประยุทธ์ต้องรีบกลับลำยับยั้งกฎหมายแรงงานต่างด้าว ที่รัฐบาลคสช. ประกาศไม่กี่วันก็ต้องผ่อนผันการบังคับใช้ไป120วันก่อน เพราะคนกลัวจนหัวหดจนเลิกจ้างแรงงานต่างด้าว เลิกการผลิต เลิกทำธุรกิจด้วยที่ผวามาตรการลงโทษ ที่มีบทลงโทษทั้งจำทั้งปรับรุนแรงเกินกว่าจะรับกันได้
เรียกว่ากฎหมายส่งผลสะเทือนไปทั่ว นอกจากนายจ้างแล้ว ชาวแรงงานต่างด้าว ทั้งเมียนมา ลาว เขมร ถอยทัพกลับบ้านทันที ขืนอยู่ต่อไป มีหวังไม่ติดคุก5ปีก็โดนปรับเงินเกือบครึ่งล้านบาท เลยบอกลาเมืองไทยไปเสียก่อนดีกว่า
ถ้ายังปล่อยกฎหมายบังคับใช้ต่อไป ไม่รู้จะเกิดความเสียหายต่อสังคม และเศรษฐกิจของประเทศมากมายมหาศาลขนาดไหน เรื่องของเรื่อง การรีบประกาศใช้พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฯเพราะรัฐบาลประยุทธ์มีความหวังว่า คงจะทำให้สหรัฐอเมริกาปลื้ม ได้รับการลดระดับเรื่องปัญหาค้ามนุษย์ให้อยู่ในอันดับที่ดีกว่าเดิม
จนแล้วจนรอด อุตส่าห์ประกาศกฎหมายหวังแก้ภาพลักษณ์การค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ก่อนอเมริกกาประกาศผลไม่กี่ชั่วโมง ในแบบลัดขั้นตอนทั้งเรื่องรับฟังประชาพิจารณ์ และกระบวนการออกกฎหมายของสนช.แล้ว ก็กลับยังถูกหักอกจนเจ็บกระดองใจอยู่ดี
เพราะไทยยังถูกจัดอันดับอยู่เทียร์ 2 เฝ้าระวังตามเดิม หรือเรียกง่ายๆว่าย่ำอยู่กับที่ ถูกจัดไปอยู่ชนชั้นเดียวกันกับเพื่อนบ้านอย่าง พม่า และลาว เป็น 3 หน่อเน่ารั้งท้ายในอาเซียน
กฎหมายแรงงานต่างด้าวกลับทำให้ปัญหาหนักขึ้น ทั้งที่รัฐบาลมีความตั้งใจดี ต้องการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ใช้หลักการเดิมๆ คือกำหนดโทษให้เข้มมาก และพยายามต้อนให้ใช้ช่องทางเอ็มโอยูระหว่างประะทศเท่านั้น
ทั้งที่ช่องทางเอ็มโอยูนั้น ถึงแม้เขียนไว้อย่างสวยหรู ในทางปฏิบัติ มีข้อจำกัดมากมาย โดยเฉพาะเมียนมาจะระวังในการออกพาสปอร์ตให้แก่ชาวเมียนมา เพื่อป้องกันมิให้ชนกลุ่มน้อยออกมาเคลื่อนไหวนอกประเทศ ช่องทางการผ่านเอ็มโอยู จึงแคบมากเกินไป จนแรงงานต้องใช้วิธีลักลอบแทน
การออกพระราชกำหนดให้โทษเข้มขึ้น จึงจะไม่ประสบความสำเร็จในการต้อนแรงงาน ไปเข้าช่องทางการเอ็มโอยูได้จริงจัง แต่กลับจะเป็นเครื่องมือให้ข้าราชการรีดไถ ทั้งแรงงาน และนายจ้าง
วิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า คือแก้ไขกฎระเบียบ เพื่อทำให้การลงทะเบียนแรงงานในไทยง่ายขึ้นโดยยกเลิกเงื่อนไขที่บีบห้ามแรงงานย้ายงาน เปลี่ยนหลักการเป็นให้สิทธิแรงงานต่างด้าวมากขึ้น
โดยยกเว้นบุคคลที่มาทำงานแม่บ้านซึ่งนับวันมีจำนวนมาก และจะกระทบอย่างกว้างขวาง และควรเจรจากับรัฐบาลเพื่อนบ้าน ให้ผ่อนคลายกติกาการออกนอกประเทศผ่านช่องเอ็มโอยูมากขึ้น
การยกเลิกสภาพบังคับที่ทำให้แรงงานถูกรีดไถ และเปิดให้ใช้ช่องทางการเอ็มโอยูที่สะดวกมากขึ้นจริงๆ
จึงจะลดการค้ามนุษย์ ในส่วนของแรงงานปกติ
เมื่อแก้ปัญหาถูกจุด ทุกส่วนงานเจ้าหน้าที่จะได้ทุ่มทรัพยากร ไปในเรื่องการปราบปรามการค้ามนุษย์เกี่ยวกับทางเพศและอื่นๆ อย่างเต็มที่ จึงจะเป็นการยับยั้งการค้ามนุษย์ได้อย่างแท้จริง
