MGR Online - นักธุรกิจส่งเมล็ดกาแฟ สัญชาติออสเตรเลีย มอบหมายทนายร้องกองปราบฯ ถูกหลอกซื้อรถหรูปอร์เช่ผ่านทางเว็บไซต์ ไม่สามารถจดทะเบียนได้ เผยผู้ต้องหารายนี้พัวพันคดีไฟไหม้หรูเมื่อปี 56 อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของทางดีเอสไอ
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.30 น. นายประพันธ์พงศ์ ธรรมชาติ อายุ 42 ปี ทนายความ ได้รับมอบอำนาจจากนายหวัก โคลว สัญชาติออสเตรเลีย นักธุรกิจเมล็ดกาแฟ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีต่อนายนฤนาท ควรสวัสดิ์ หรือบอย อายุ 42 ปี ในฐานความผิดฉ้อโกง หลังหลอกให้ซื้อรถยนต์หรูแต่ปรากฏว่าไม่สามารถจดทะเบียนได้
นายประพันธ์พงศ์กล่าวว่า เมื่อปี 2559 ลูกความของตนได้รู้จักกับนายนฤนาท นักธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ ผ่านทางเว็บไซต์ซื้อขายรถแห่งหนึ่งและได้มีการติดต่อพูดคุยกัน กระทั่งนายนฤนาทได้นำเสนอขายรถยนต์ยี่ห้อ ปอร์เช่ รุ่นคาร์เรรา เทอร์โบ เอส ในราคา 12 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทันทีที่นายหวัก โคลว เห็นก็เกิดความชอบจึงตกลงซื้อรถยนต์คันดังกล่าว โดยได้วางเงินมัดจำจำนวน 2.5 ล้านบาท ต่อมานายนฤนาทได้คืนเงินมัดจำให้แก่นายหวัก แล้วบอกให้นายควักไปประมูลรถคันดังกล่าวที่กรมศุลกากร จนทำการประมูลได้มาในราคา 11.4 ล้านบาท เป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้นายหวักเชื่อใจว่านายนฤนาทมีรถยนต์ที่ถูกกฎหมายมาขายให้จริง
นายประพันธ์พงศ์กล่าวต่อว่า จากนั้นนายนฤนาทได้เสนอขายรถยนต์หรูให้นายควักอีก 8 คัน โดยอ้างว่าเป็นรถที่ถูกต้อง ทางนายควักได้จ่ายเงินมัดจำไว้เป็นจำนวน 19.8 ล้านบาท ภายหลังได้ทวงถามเรื่องการจดทะเบียนรถยนต์และเล่มทะเบียนกับนายนฤนาท ก็กลับถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา นายควักจึงตัดสินใจยกเลิกรถยนต์ที่ซื้อ ซึ่งนายนฤนาทบอกว่าจะนำรถยนต์ทั้งหมดไปจดทะเบียนให้ พร้อมกับให้รถยนต์ปอร์เช่ 991 คาร์เรรา สีฟ้า และเช็คเงินจำนวน 13 ล้านบาทมาให้เป็นหลักประกัน พร้อมระบุว่ารถปอร์เช่ 991 คาร์เรรา คันดังกล่าวเป็นรถที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปรามได้นำหมายค้นและยึดรถยนต์ปอร์เช่ 991 คาร์เรรา สีฟ้า และรถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาร์เรรา 997 จีที 3 สีขาว (รถที่ซื้อมาจากนายนฤนาท และอยู่ระหว่างรอจดทะเบียน) ที่จอดไว้ใต้คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทไปทำการตรวจสอบ โดยทางตำรวจกองปราบปรามได้แจ้งว่ารถทั้งสองคันที่ตรวจยึดเป็นรถที่ไม่ถูกต้อง มีการปลอมแปลงเอกสาร และตัดต่อเลขตัวรถ ทำให้ทราบว่าถูกนายนฤนาทหลอก จึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความ
ด้าน พ.ต.ต.ธนวัฒน์กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ ก่อนทำการสอบปากคำพร้อมตรวจสอบเอกสารการโอนเงิน รวมทั้งทำหนังสือสอบถามรายละเอียดไปยังชุดจับกุมถึงรายละเอียดที่มาดังกล่าว ก่อนประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
มีรายงานว่า นายนฤนาทมีส่วนพัวพันกับคดีไฟไหม้รถยนต์หรูเมื่อปี 2556 โดยครั้งนั้นเกิดเหตุเพลิงไหม้รถหรูระหว่างที่กำลังวิ่งอยู่บนถนนมิตรภาพขาออก มุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา ที่ อ.ปากช่อง กม.30+500 โดยเพลิงลุกไหม้รถยนต์หรูที่บรรทุกมาด้วยจำนวน 4 คัน จาก 6 คัน ได้แก่ รถลัมบอร์กินี ราคาร่วม 40 ล้านบาท, รถเฟอร์รารี ราคาประมาณ 30 ล้านบาท, เบนท์ลีย์ ราคาประมาณ 20 ล้านบาท และบีเอ็มดับเบิลยู กว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการขยายผลชุดสืบสวนได้พบว่านายนฤนาถและพวกมีส่วนเกี่ยวข้องกับที่มาของรถหรูทั้งหมดว่าได้มาไม่ถูกต้อง จึงถูกทางดีเอสไอกล่าวหาในฐานความผิดร่วมกันลักลอบนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระภาษี, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือโดยผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ภายหลังนายนฤนาทได้ติดต่อเข้ามอบตัว ก่อนที่ทางดีเอสไอปล่อยตัวไป และอยู่ระหว่างดำเนินคดี