ผู้จัดการรายวัน - ศาลให้ประกัน “บอย ยูนิตี้” คดีฉ้อโกงขายรถหรู ตีหลักทรัพย์ประกันตัว 3 แสนบาท หลังทนายเตรียมหลักทรัพย์ 5 ล้านยื่นประกันตัว รวบเพิ่มอีก1ร่วมแก๊งฉ้อโกงรถหรู
วานนี้ (15 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ควบคุมตัวนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมการบริษัทเอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 286/60 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2560 ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จากกรณีหลอกขายรถยนต์หรู แต่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ ไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฝากขังนายอินทระศักดิ์ หลังจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมและสอบปากคำ ก่อนควบคุมไปยังห้องควบคุมภายใน บก.ป. ขณะที่มีรายงานว่า ตลอดทั้งคืนนายอินทระศักดิ์มีอาการเคร่งเครียดและอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สืบสวนพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน ประกอบไปด้วย นายอินทระศักดิ์, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ, นายยิ่ง ศรีอนันต์ อายุ 42 ปี กรรมการของบริษัท เดอะแกลลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต และ น.ส.กนิษฐา สงวนวงศ์ โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับเลขที่ จ.286-289 ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษ 3 ปี ขึ้นไป ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 3 ราย คือ นายอินทระศักดิ์, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ และนายยิ่ง เหลือเพียง น.ส.กนิษฐา ที่ยังต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี ในส่วนของการจับกุมและแจ้งข้อหาต่อ น.ส.ฐิติพรรณ น้องสาวนายอินทระศักดิ์ ยั้นภายหลังการจะบกุมเมื่อคืนวันที่ 14 มิ.ย.ก็ได้สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและๆด้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ เนื่องจากเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีนี้เป็นกรรมการบริษัทและเป็นผู้ต้องหาร่วม สามารถแจ้งข้อหาและปล่อยตัวได้ จากนั้นจึงจะนัดมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องหาต่อไป แตกต่างจากกรณีนายอินทระศักดิ์ที่ผู้เสียหายแจ้งความระบุชื่อนายอินทระศักดิ์โดยตรงไม่ใช่ในนามบริษัท อย่างไรก็ตาม คดีนี้ชุดสืบสวนพบความเชื่อมโยงว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมีส่วนพัวพันกันในส่วนของการเป็นนิติบุคคล ทั้งขั้นตอนของการนำเข้า การจัดจำหน่าย และการรับเงิน
จนเมื่อเวลา 15.30 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายอินทรศักดิ์ โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท และไม่ได้กำหนดเงื่อนไขแต่อย่างใด ทั้งนี้ ภายหลังศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายอินทรศักดิ์และทนายความได้เดินทางขึ้นรถกลับทันทีโดยไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
วันเดียวกันมีรายงานว่า ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมตัว น.ส.กนิษฐา หรือ น.ส.รัญชยา ชาลีมุ้ย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเดียวกับนายอินทระศักดิ์ ได้ที่บ้านพักภายในซ.สามัคคี จ.นนทบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ บก.ป.
วานนี้ (15 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ควบคุมตัวนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมการบริษัทเอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 286/60 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2560 ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จากกรณีหลอกขายรถยนต์หรู แต่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ ไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฝากขังนายอินทระศักดิ์ หลังจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมและสอบปากคำ ก่อนควบคุมไปยังห้องควบคุมภายใน บก.ป. ขณะที่มีรายงานว่า ตลอดทั้งคืนนายอินทระศักดิ์มีอาการเคร่งเครียดและอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สืบสวนพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน ประกอบไปด้วย นายอินทระศักดิ์, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ, นายยิ่ง ศรีอนันต์ อายุ 42 ปี กรรมการของบริษัท เดอะแกลลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต และ น.ส.กนิษฐา สงวนวงศ์ โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับเลขที่ จ.286-289 ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษ 3 ปี ขึ้นไป ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 3 ราย คือ นายอินทระศักดิ์, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ และนายยิ่ง เหลือเพียง น.ส.กนิษฐา ที่ยังต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี ในส่วนของการจับกุมและแจ้งข้อหาต่อ น.ส.ฐิติพรรณ น้องสาวนายอินทระศักดิ์ ยั้นภายหลังการจะบกุมเมื่อคืนวันที่ 14 มิ.ย.ก็ได้สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและๆด้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ เนื่องจากเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีนี้เป็นกรรมการบริษัทและเป็นผู้ต้องหาร่วม สามารถแจ้งข้อหาและปล่อยตัวได้ จากนั้นจึงจะนัดมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องหาต่อไป แตกต่างจากกรณีนายอินทระศักดิ์ที่ผู้เสียหายแจ้งความระบุชื่อนายอินทระศักดิ์โดยตรงไม่ใช่ในนามบริษัท อย่างไรก็ตาม คดีนี้ชุดสืบสวนพบความเชื่อมโยงว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมีส่วนพัวพันกันในส่วนของการเป็นนิติบุคคล ทั้งขั้นตอนของการนำเข้า การจัดจำหน่าย และการรับเงิน
จนเมื่อเวลา 15.30 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายอินทรศักดิ์ โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท และไม่ได้กำหนดเงื่อนไขแต่อย่างใด ทั้งนี้ ภายหลังศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายอินทรศักดิ์และทนายความได้เดินทางขึ้นรถกลับทันทีโดยไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
วันเดียวกันมีรายงานว่า ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมตัว น.ส.กนิษฐา หรือ น.ส.รัญชยา ชาลีมุ้ย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเดียวกับนายอินทระศักดิ์ ได้ที่บ้านพักภายในซ.สามัคคี จ.นนทบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ บก.ป.
