MGR Online - “บอย ยูนิตี้” เครียดนอนมุ้งสายบัวคืนแรก หลัง ตร.กองปราบฯ ดักรวบตัวคาศาล นำตัวสอบปากคำเพิ่มอีก 4 สำนวนคดี พร้อมนำตัวฝากขังศาลผัดแรก-ค้านประกันตัว ด้านทนายเตรียมหลักทรัพย์ 5 ล้านขอยื่นประกันตัว
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ควบคุมตัวนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 286/60 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2560 ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังจากวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมและสอบปากคำ พร้อมทั้งได้อำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อฝากขังนายอินทระศักดิ์ ขณะที่ทางทนายความของนายอินทระศักดิ์ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราว
ทั้งนี้ มีรายงานว่าหลังจากวานนี้ทางพนักงานสอบสวนและทางอัยการได้ร่วมสอบปากคำนายอินทระศักดิ์ ก่อนควบคุมไปยังห้องควบคุมภายในสำนักงานกองปราบปราม ขณะที่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมานายอินทระศักดิ์มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ด้าน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า สำหรับคดีนั้นทางตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่สืบสวนพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน ประกอบไปด้วย นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” อายุ 36 ปึ, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ, นายยิ่ง ศรีอนันต์ อายุ 42 ปี กรรมการของบริษัท เดอะแกลลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต และ น.ส.กนิษฐา สงวนวงศ์
โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับเลขที่ จ.286-289 ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษ 3 ปีขึ้นไป ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 3 ราย คือ นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอย ยูนิตี้ อายุ 36 ปี, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ, นายยิ่ง ศรีอนันต์ อายุ 42 ปี กรรมการของบริษัท เดอะแกลลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต เหลือเพียง น.ส.กนิษฐา สงวนวงศ์ ที่ยังต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี สำหรับนายบอยนั้นทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันในชั้นสอบสวน โดยหลังจากนี้เป็นขั้นตอนการให้ประกันปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลซึ่งอยู่ที่ดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่
ในส่วนของการจับกุมและแจ้งข้อหาต่อ น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ อายุ 32 ปี น้องสาวนายบอย ยูนิตี้ เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เบื้องต้น น.ส.ฐิติพรรณเป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกันกับนายบอย หลังจับกุมได้สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแล้วได้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์เนื่องจากเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีนี้เป็นกรรมการบริษัทและเป็นผู้ต้องหาร่วม สามารถแจ้งข้อหาและปล่อยตัวได้ จากนั้นจึงจะนัดมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องหาต่อไป แตกต่างจากกรณีนายอินทระศักดิ์ที่ผู้เสียหายแจ้งความระบุชื่อนายอินทระศักดิ์โดยตรงไม่ใช่ในนามบริษัท อย่างไรก็ตาม คดีนี้ชุดสืบสวนพบความเชื่อมโยงว่าผู้ต้องหาทั้งสี่รายมีส่วนพัวพันกันในส่วนของการเป็นนิติบุคคล ทั้งขั้นตอนของการนำเข้า การจัดจำหน่าย และการรับเงิน
ด้านนายธีรสิทธิ์ สุริยันชัยเจริญ ทนายความของนายอินทระศักดิ์ระบุว่า ตนเดินทางมารอนายอินทระศักดิ์ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตั้งแต่เมื่อเวลา 09.00 น. โดยเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 ล้านบาท เพื่อมาขอประกันตัวนายอินทระศักดิ์ต่อศาล อยู่ในดุลพินิจขอศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่
ทั้งนี้ มีรายงานว่าหลังจากวานนี้ทางพนักงานสอบสวนและทางอัยการได้ร่วมสอบปากคำนายอินทระศักดิ์ ก่อนควบคุมไปยังห้องควบคุมภายในสำนักงานกองปราบปราม โดนยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมานายอินทระศักดิ์มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ด้าน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า สำหรับคดีทางตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่สืบสวนพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คนประกอบไปด้วยนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอย ยูนิตี้ อายุ 36 ปี, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ, นายยิ่ง ศรีอนันต์ อายุ 42 ปี กรรมการของบริษัท เดอะแกลลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต และ น.ส.กนิษฐา สงวนวงศ์ โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับเลขที่ จ.286-289 ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษ 3 ปีขึ้นไป ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 3 ราย คือ นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอย ยูนิตี้ อายุ 36 ปี, น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ, นายยิ่ง ศรีอนันต์ อายุ 42 ปี กรรมการของบริษัท เดอะแกลลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต เหลือเพียง น.ส.กนิษฐา สงวนวงศ์ ที่ยังต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี สำหรับนายบอยนั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันในชั้นสอบสวน หลังจากนี้เป็นขั้นตอนการให้ประกันปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล อยู่ที่ดุลพินิจของทางศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่
ในส่วนของการจับกุมและแจ้งข้อหาต่อ น.ส.ฐิติพรรณ เตชธีรสิริ อายุ 32 ปี น้องสาวนายบอย เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เบื้องต้น น.ส.ฐิติพรรณเป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกันกับนายบอย หลังจับกุมได้สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา แล้วก็ได้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์เนื่องจากเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีนี้เป็นกรรมการบริษัทและเป็นผู้ต้องหาร่วม สามารถแจ้งข้อหาและปล่อยตัวได้ จากนั้นจึงจะนัดมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องหาต่อไป แตกต่างกับกรณีนายอินทระศักดิ์ ที่ผู้เสียหายแจ้งความระบุชื่อนายอินทระศักดิ์โดยตรงไม่ใช่ในนามบริษัท อย่างไรก็ตาม คดีนี้ชุดสืบสวนพบความเชื่อมโยงว่าผู้ต้องหาทั้งสี่รายมีส่วนพัวพันกันในส่วนของการเป็นนิติบุคคล ทั้งขั้นตอนของการนำเข้า การจัดจำหน่าย และการรับเงิน
ด้านนายธีรสิทธิ์ สุริยันชัยเจริญ ทนายความของนายอินทระศักดิ์ระบุว่าตนเดินทางมารอนายอินทระศักดิ์ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตั้งแต่เมื่อเวลา 09.00 น. ซึ่งเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 ล้านบาท เพื่อมาขอประกันตัวนายอินทระศักดิ์ต่อศาล อยู่ในดุลพินิจขอศาลว่าจะให้ประกันหรือไม่
สำหรับคดีของนายบอยนั้น ที่ทางกองปราบปรามรับเรื่องดำเนินคดีมีด้วยกันอยู่ 6 คดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนเสร็จสิ้นไปแล้ว 2 คดี เหลืออีก 4 สำนวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งเป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน