ชุดพญาเสือแจ้งจับเจ้าของปางช้างหมิ่นเบื้องสูง หลังเบี้ยวกรมอุทยานฯ นำช้างทัวร์-ผสมพันธุ์ในยุโรป

MGR Online - กรมอุทยานแห่งชาติฯ ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ร้องกองปราบปรามแจ้งจับเจ้าของปางช้างในพื้นที่ภาคกลางฐานกล่าวจาบจ้วงเบื้องสูง หลังผิดสัญญานำช้างไปโชว์ในยุโรป เกรงนำเชื้อไปผสมพันธุ์

วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อายุ 53 ปี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนักธุรกิจเจ้าของปางช้างแห่งหนึ่งในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีนำช้างไทย 5 เชือกไปจัดแสดงโชว์ที่ประเทศในแถบยุโรป โดยมีการนำหลักฐานเป็นเอกสารและคลิปวิดีโอมามอบไว้เป็นหลักฐาน

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า เมื่อปี 2549 มีนักธุรกิจเจ้าของปางช้างดังกล่าวได้มาขออนุญาตกรมอุทยานฯ นำช้าง 5 เชือกไปจัดแสดงโชว์ที่ต่างประเทศ โดยทำข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่ว่านำไปโชว์ได้เพียง 1 ปีแล้วต้องนำช้างกลับมา ขั้นตอนการนำช้างหรือสัตว์ต่างๆ ออกนอกประเทศต้องได้รับอนุญาตกับทางกรมอุทยานฯ โดยวางเงินประกันจำนวน 6 ล้านบาท

นายชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าไม่ได้มีการนำช้างกลับมาเมืองไทยตามที่ตกลงกันไว้ จึงได้มีการจัดแถลงข่าวข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในวันงานดังกล่าวนักธุรกิจคนดังกล่าวได้ปรากฏตัวร่วมงานด้วย ระหว่างนั้นก็ได้มีปากเสียงและใช้ถ้อยคำในลักษณะจาบจ้วงเบื้องสูง ตนจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อเจ้าของปางช้างคนดังกล่าว

นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า จากแนวทางสืบสวนของตนยังพบอีกว่าช้างทั้ง 5 เชือกที่ถูกนำไปแสดงโชว์ที่ต่างประเทศอาจมีการถูกนำเชื้อไปผสมพันธุ์ เนื่องจากพบว่ามีช้างเกิดใหม่กว่า 5 เชือก กรณีนี้ถือเป็นความผิด เนื่องจากตามกฎหมายและข้อตกลงไม่สามารถนำช้างไปผสมพันธุ์นอกราชอาณาจักรได้ ในกรณีนี้สามารถพิสูจน์ได้โดยการที่ให้นำช้างกลับมาตรวจดีเอ็นเอ ส่วนเงินประกัน 6 ล้านบาทก็ยังไม่ยอมให้ทางกรมอุทยานฯ ยึด ในส่วนนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสงสัย

เบื้องต้น พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.ได้ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามสอบปากคำนายชัยวัฒน์อย่างละเอียด ก่อนให้พนักงานสอบสวนประมวลเรื่องเพื่อพิจารณาต่อไป