xs
xsm
sm
md
lg

10 อันดับข่าวอาชญากรรมปี 2559 (ต่อ) คดี “บอล กฤษณะ” สั่งตื้บลูกนายพล-เบนซ์ดำขยี้ 2 ศพ-DSI งานงอกผูกคอตับแตก-ติดชาร์ตอาชญากรรมเด่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ทีมข่าวอาชญากรรม MGR ออนไลน์ได้รวบรวมคดีอุกอาจสะเทือนขวัญในรอบปี 2559 ที่ผ่านมา และจัด 10 อันดับสุดยอดอาชญากรรมที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุดดังนี้

อันดับที่ 6 “ระเบิด - เผา 7 วินาศกรรมป่วนเมือง” คดีอุกอาจสะเทือนขวัญนี้ มาคล้ายๆ กับบรรยากาศลอบวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก นั่นคือ เหตุการณ์กลุ่มคนร้ายแยกกันปฏิบัติการลอบวางระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ของประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 10 - 12 ส.ค. 2559 แยกเป็นการวางระเบิด 14 จุด และลอบวางเพลิง 5 จุด โดยรายแรกเกิดขึ้นเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 10 ส.ค. 2559 พบระเบิดเพลิง 2 ลูก ย่านการค้าป่าตอง จ.ภูเก็ต วันที่ 11 ส.ค. เวลาบ่ายสามโมง ถัดมาอีกเพียงวันเดียวเกิดระเบิดขึ้นที่ตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ อ.เมือง จ.ตรัง มีผู้เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 6 วันเดียวกันเวลา 22.00 น. ขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังดื่มกินบาร์เบียร์แห่งหนึ่งในเขต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดระเบิดขึ้นมีคนตาย 1 บาดเจ็บอีกกว่า 10 และระเบิดลูกนี้เอง ทำให้ทุกสำนักข่าวแห่ลงไปรายงานเหตุการณ์สร้างความตื่นตระหนกกับสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง

สายวันที่ 12 ส.ค. 2559 หลังเสร็จพิธีทำบุญตักบาตร ณ บริเวณหน้าวัดหัวหิน และหอนาฬิกา ใจกลางเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 ลูก มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ศพบาดเจ็บอีกกว่า 10 ขณะที่มีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ลูกซ้อน ใกล้กับสถานีตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ถัดมาเวลา 10.20 น. พบระเบิดที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และตรวจพบระเบิดบริเวณ หมู่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กับฝั่งตรงข้ามหน้าตลาดนัดบางเนียงอีก 1 จุด เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ทันท่วงที ส่วนเหตุลักลอบวางเพลิงเฉพาะวันที่ 12 ส.ค. 2559 เวลา 02.15 น. บริเวณเพิงขายสินค้านักท่องเที่ยวเขาหลัก จ.พังงา เวลา 03.00 น. เพิงพักหน้าหาดอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เวลา 03.40 น. เพลิงไหม้ห้างลีวิวัฒน์ถาวรค้าส่ง อ.เมือง จ.ตรัง เวลา 03.49 น. เกิดเหตุที่ร้านสินทวีพลาสติก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และ เวลา 05.00 น. ห้างเทสโกโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

หลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง ทยอยออกหมายจับผู้ต้องสงสัยหลายคน รวมทั้ง นายศักรินทร์ คฤหัสถ์ หนุ่มชาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัทรับเหมาแห่งหนึ่งทำงานอยู่แท่นขุดเจาะน้ำมัน บ.เชฟรอน กลางทะเลอ่าวไทย ทั้งนี้ สืบเนื่องจากภาพโทรทัศน์วงจรปิดที่บันทึกไว้ระหว่างนายศักรินทร์ ไปเดินป้วนเปี้ยนในจุดที่เกิดเหตุ แต่หลังนำตัวมาสอบสวน นายศักรินทร์ ให้การว่า แค่เข้าไปซื้อถั่วโก๋แก่เท่านั้น ในที่สุดมีการถอนหมายจับและปล่อยตัว

อันดับที่ 7 คดีเสี่ยทายาท “เลนโซ่กรุ๊ป” ควบเบนซ์ดำขยี้นักศึกษา ป.โท 2 ศพ...ก่อนเป็นข่าวสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ คงต้องยกยอดความดีทั้งหมดให้กับสื่อโซเชียล หลังจากภาพคลิปนาทีมรณะ รถเบนซ์ CLS 63 AMG สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ษง 3333 ขับโดย นายเจนภพ วีรพร นักธุรกิจหนุ่มนำเข้ารถหรู ชนท้ายเก๋งฟอร์ดเฟียตต้า สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ฆย 6911 เหตุเกิดถนนพหลโยธิน กม.52 ใกล้ทางต่างระดับบางปะอิน จนไฟลุกท่วม ทำให้ นายกฤษณะ หรือ โต้ง ถาวร และ น.ส.ธันฐภัทร์ หรือ เบนซ์ ฮ้อแสงชัย สองนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถูกไฟคลอกเสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559

ผลของภาพเหตุการณ์น่าสลดใจเผยแพร่ออกไป เกิดปฏิกิริยากับสังคมไทยอย่างรุนแรง และเมื่อ พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา ให้สัมภาษณ์สดผ่านรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ด้วยแนวคิดเดิมๆของตำรวจ คือ ไม่ทันท่วงทีต่อเหตุการณ์ รวมทั้งหลังเกิดเหตุเป็นเวลานานถึง 3 วัน ยังไม่มีการตรวจยาเสพติด หรือแอลกอฮอล์ กับผู้ต้องหา จนในที่สุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดรนทนไม่ไหว พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 ในขณะนั้น ถูกคำสั่งให้ลงมาควบคุมคดี และย้าย พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา เป็นการด่วน เพื่อตัดกระแสความไม่พอใจของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินคดีแก่ นายเจนภพ วีรพร แม้จะมีมุมมองว่าการใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 257 กม./ชม. และพุ่งบดขยี้รถเก๋งฟอร์ดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เป็นการประสงค์ต่อชีวิต แบบหวังผลหรือไม่ ที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่แจ้ง 8 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ขับรถโดยประมาทมาททำให้มีผู้เสียชีวิต 2. ขับรถขณะหย่อนยานความสามารถ 3. ขับรถขณะเมาสุรา 4. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 5. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 6. ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน 7. เสพยาเสพติดระหว่างขับรถ 8. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานกรณีขอตรวจสารเสพติด

อันดับที่ 8 ขบวนการข้ามชาติ-พาสปอร์ตปลอม-ฆ่าหั่นศพ!!??..เรื่องราวชวนสยองขวัญสั่นประสาทครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.40 น. ของวันที่ 23 ก.ย. 2559 เสียงวิทยุขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ระหว่างปิดล้อมตึกแถว 5 ชั้นแห่งหนึ่งภายในซอยสุขุมวิท 56 เขตพระโขนง กทม. เต็มไปด้วยความละล่ำละลักจับใจความได้ว่า มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงบาดเจ็บ กำลังปิดล้อม 3 คนร้ายชาวต่างชาติ ที่มีอาวุธปืนกันครบมือ

แน่นอนว่า นี่คือ เหตุด่วนเหตุร้ายอันเป็นนาทีฉุกเฉินอย่างที่สุด กำลังตำรวจ สน.พระโขนง ทั้งในและนอกเครื่องแบบต่างรีบรุดไปปิดล้อม และนำ จ.ส.ต.กัญจนพงษ์ เชเดช ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งถูกยิงเข้าชายโครงกับลิ้นปี่ 2 แห่งอาการสาหัสส่งโรงพยาบาล ขณะที่คนร้ายทั้งหมด 5 คน ถูกควบคุมไว้ได้ คือ นายปีเตอร์ วิลเลียม จอห์นสัน หรือ ชาลี เอ็ดเวิร์ด ไตเติล อายุ 66 ปี นายเจมส์ ดักลาส อีเกอร์ อายุ 63 ปี และ นายแอรอน เอโด อายุ 40 ปี ทั้งหมดมีสัญชาติอเมริกัน ส่วนอีก 2 คนเป็นลูกจ้างผัว - เมีย ชาวพม่า เมื่อสอบสวนแล้วไม่เกี่ยวข้องจึงปล่อยตัวไป

จากการสอบสวนทีมตำรวจท่องเที่ยวเบื้องต้น ทราบว่า กำลังปฏิบัติภารกิจสืบหาต้นตอหนังสือเดินทางปลอม ซึ่งพบระบาดมากแถวถนนข้าวสาร จนตามดมกลิ่นมาถึงตึกแถวดังกล่าว แต่กลุ่มคนร้ายเกิดไหวตัว จึงเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ ในระหว่างการตรวจค้นตึกแถวดังกล่าวอย่างละเอียด พบตู้แช่ขนาดกว้าง 2 เมตร สูง 1.80 เมตร ตั้งอยู่ด้านหลังชั้นล่าง เมื่อเปิดออกดูมีถุงดำจำนวนมากเรียงซ่อนเป็นชั้นๆ แต่เมื่อเปิดออกมาทุกคนถึงกับผงะเมื่อพบชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์แยกเป็นลำตัว แขนขา และอื่นๆ รวม 6 ชิ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ชักไม่แน่ใจว่าคนร้ายเป็นเพียงแก๊งทำพาสปอร์ตปลอม น่าจะเป็นเครือข่ายแก๊งยาเสพติด หรือมาเฟียสำคัญที่หลบหนีมากบดานในเมืองไทยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนอย่างเคร่งเครียด นายปีเตอร์ ให้การว่า คนตายคือคู่รักแบบชายรักชาย เกิดป่วยตายด้วยความรัก จึงหั่นศพแช่ไว้ดูต่างหน้า แต่เหตุผลจะพอมีน้ำหนักน่าเชื่อถือหรือไม่ คงขึ้นอยู่ที่ความรับผิดชอบ และขีดความสามารถของตำรวจไทยที่จะสืบค้นต่อไปว่าคนตายคือใคร และกลุ่มผู้ต้องหาคือใคร มีความโยงใยกับขบวนการผิดกฎหมายข้ามชาติใดหรือไม่ ซึ่งจนบัดนี้ยังไม่มีความกระจ่างชัดและยังคงเป็นปริศนาต่อไป

อันดับที่ 9 คดี DSI งานเข้า-ฆาตกรรมซ่อนเงื่อนพนักงานที่ดินพังงา...คดีสะเทือนยุติธรรมไทยจนเกิดวาทกรรมทำลายสังคม “มีผู้อื่นทำให้ตายแต่ไม่ใช่ฆาตกรรม” สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2559 ชุดสืบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ถือหมายจับศาลอาญาที่ 1165/2559 วันที่ 24 มิ.ย. 2559 ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทุจริตออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจับกุม นายธวัชชัย อนุกุล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงา สาขาท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา บริเวณหน้าร้านตัดผม เลขที่ 61/55 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จากนั้นจึงนำตัวไปควบคุมยังชั้น 6 อาคารทำการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ต่อมากลางดึกวันที่ 30 ส.ค. 2559 เจ้าหน้าที่ รปภ. ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้โทรศัพท์แจ้งขอรถพยาบาลฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อช่วยเหลือนายธวัชชัย โดยระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นลมหมดสติ แต่ต่อมาเมื่อถึงมือแพทย์เพียงไม่กี่นาที อดีตพนักงานที่ดินพังงา ได้เสียชีวิต และผลการชันสูตรศพพบว่า มีเลือดไหลในช่องท้อง ตับแตก ญาติจึงนำความไม่ชอบมาพากลมาเปิดเผย รวมทั้งแถลงการณ์ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่ระบุอย่างชัดเจนว่า สาเหตุการตายมาจากถูกทำร้าย อีกทั้งยังระบุกว้างๆ ว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งนี้ สาเหตุน่าจะมาจากก่อนหน้ามีข่าวระบุว่า อาการบาดเจ็บของนายธวัชชัย จนเสียชีวิตนั้น เกิดจากการช่วยเหลือปั๊มหัวใจของทีมแพทย์ ในฐานะผู้บริหารโรงพยาบาล จึงออกมาตอบโต้

คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เมื่อกระแสสังคมกดดันมากขึ้น จึงมีการนำภาพวงจรปิดมาเปิดเผย แต่กลับเป็นช่วงเข็นนายธวัชชัย ในสภาพหมดสติออกจากลิฟต์ ส่วนภาพในห้องคุมขัง ทางดีเอสไออ้างว่ากล้องขัดข้อง จุดนี้เองแทนที่จะเกิดผลดีกลับยิ่งเพิ่มความเคลือบแคลงหนักขึ้นไปอีก ขั้นต่อไปทางดีเอสไอจึงพาสื่อมวลชนทัวร์ห้องควบคุม ซึ่งมีการแสดงภาพถ่ายถุงเท้าห้องเกิดเหตุเฉพาะบานพับประตูที่ผู้ตายใช้แขวนคอ แต่ไม่สามารถฟื้นความเชื่อจากประชาชนได้แม้แต่น้อย

บทสรุปที่ยังไม่สรุปแต่เป็นการตอกย้ำพิรุธ เมื่อฝ่ายตำรวจซึ่งเข้าร่วมสอบสวนคู่ขนานกับคณะกรรมการในส่วนของกระทรวงยุติธรรม โดย พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดแถลงอ้างอิงถึงผลการชันสูตรศพของสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า..... “ตลอดระยะเวลา 21 - 22 วันที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ หรือบ่งชี้ให้เห็นว่า มีผู้อาจทำให้ นายธวัชชัย เสียชีวิต...แต่ขอย้ำว่า ไม่ใช่การฆาตกรรม”....คดีที่สังคมกำลังจับตามอง และหวังว่า ทุกฝ่ายจะสามารถร่วมกันคลี่คลายให้เกิดความกระจ่างชัดได้กลับอึมครึมมัวซัวลงอีก จนเกิดวาทกรรมทำลายสังคมที่ว่า “มีผู้อื่นทำให้ตาย แต่ไม่ใช่ฆาตกรรม!!??”

การจบชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงา จึงเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งให้สังคมไทยรับรู้ ว่า สำหรับประเทศนี้อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ นายธวัชชัย ถือเป็นอดีตข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่ดินมโหฬารที่สุดคนหนึ่ง มีการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบถึง 700 แปลง แต่ละแปลงกระจายอยู่ใน จ.ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ บริเวณเขาหน้ายักษ์ ออกโฉนดทับซ้อนที่อุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง - เขาลำปี จำนวน 500 ไร่ ราคาไร่ละ 21 ล้านบาท รวมมูลค่า 10,500 ล้านบาท เจ้าของเป็นคหบดีชื่อดังในปื้นที่ จ.พังงา และ ภูเก็ต

อันดับที่ 10 “ผัวดารา-สั่งการ์ดรุมตื้บลูกนายพล” .....คดีดังปิดท้าย 10 อันดับข่าวอาชญากรรมแห่งปี หากไม่ยกให้กรณี “บอล กฤษณะ อมิตรสูญ” เจ้าของวลีเด็ด “กูรวย กูมีเมียดารา” ให้ติดท็อปเทนก็คงกระไรอยู่...25 พ.ย. 2559 ขณะที่ นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือ น้องเจมส์บอนด์ หนุ่มน้อยหน้ามน ที่เข้าไปเที่ยวดื่มกินในผับมารินสกาย จ.เชียงใหม่ กำลังเดินเข้าห้องน้ำชายเพื่อปลดทุกข์ พลันได้ยินเสียงเข้มของกลุ่มการ์ดดาราชาย - หญิง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกิจการตะโกนห้ามไม่ให้เข้า เนื่องจากมีลูกค้าระดับวีไอพี กำลังใช้งานอยู่ หนุ่มน้อยเจมส์บอนด์ จึงเข้าไปใช้ห้องน้ำหญิง ก่อนเดินออกมาและถูกกลุ่มการ์ด พร้อมเด็กเสิร์ฟ ทราบต่อมา คือ นายถนอมศักดิ์ พิพัฒน์กิจการ นายฐานันดร หมื่นแสวง นายอดิศักดิ์ เพ็งเหล็ง และ นายอภิวัฒน์ ณ ลำพูน ช่วยกันรุมสกรัมจนสลบเหมือด

หลังตกเป็นข่าวโดยทราบต่อมาว่า หนุ่มน้อยเจมส์บอนด์ หรือ นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ ไม่ใช่นักเที่ยวลูกชาวบ้านธรรมดาๆ แต่เป็นบุตรชายคนเดียวของ พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 กับ นางปุณยวัจนา วรรคาวิสันต์ ประเด็นจึงเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เริ่มจากการหลบหน้าหลบตาของ บอล กฤษณะ รวมทั้งการออกมาแถลงด่วนของทายาท “โค้วยุฮะ” ว่า บอล ไม่ใช่เจ้าของโรงแรมเดอะ คอร์ท และไม่เกี่ยวข้องกับโครงการเดอะเชียงใหม่ คอมเพล็กซ์ เพียงแค่เป็นลูกจ้างที่ให้มาบริหารงานเท่านั้น และหลังจากเกิดเหตุได้ยกสัญญาเลิกจ้างไปแล้ว

ฐานะของ บอล กฤษณะ ขาโจ๋ขวัญใจ อุ้ม ลักขณา จึงโดดเดี่ยว กลายเป็นต้องหลบฉาก หนีหน้าจากวงการราตรีไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ที่สุดแล้วหลังตำรวจเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ซึ่งล้วนเป็นดาราดัง อาทิ อุ้ม ลักขณา หมาก ปริญ แต้ว ณฐพร มิว นิษฐา บอล กฤษณะ ก็โผล่เข้ามอบตัวในฐานะผู้ต้องหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส คดีนี้สร้างความเกรียวกราวให้กับสังคมไทยมาก โดยเฉพาะคอบันเทิงที่รู้สึกหมั่นไส้ บอล กฤษณะ เป็นทุนอยู่แล้ว ผลของการเสนอข่าวยังกระเพื่อมถึงบรรดาโรงแรม ผับ บาร์ ที่กระทำผิดกฎหมาย เฉพาะร้านมารินสกาย “ต้นเรื่อง - ยำลูกนายพล” เจ้าของตัดสินใจรื้อทิ้งทันทีหลังเกิดเรื่องขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น