MGR Online - ศาลอนุญาตรวมสำนวน “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” กับสำนวน “วันเพ็ญ ยอดดี” พร้อมนัดสอบคำให้การ 20 ก.พ. ปีหน้า ขณะที่ทนายแจงถอนฟ้องอุทธรณ์คดียักยอกทรัพย์ทำได้ก่อนคดีถึงที่สุด พร้อมขอศาลนัดไกล่เกลี่ย 12 ม.ค. ปีหน้า
ที่ห้องพิจารณาคดี 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ (19 ธ.ค.) ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำที่ อ.3339/2559 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 11 ราย ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 และขอให้จำเลยทั้ง 11 ราย ร่วมกันคืนเงินให้ผู้ต้องหารวม 2,254 ราย
โจทก์ฟ้องระบุความผิด สรุปว่า ระหว่างเดือนมกราคม 51 - ธันวาคม 2555 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดเจน จำเลยร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ โดยจำเลยทั้งหมดได้ร่วมกันทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับสมาชิกสมทบ ซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ จำนวน 28 ราย รวมเงินสัญญากู้ยืม 11,858,440,000 บาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ ซึ่งการทำสัญญากู้ยืมเพื่อปกปิดการทุจริตหรือการเบิกจ่ายเงินทดรองจ่ายที่ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับระเบียบของสหกรณ์ หรือนำมาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อตกแต่งบัญชีสหกรณ์ฯ ให้เป็นเท็จว่าผลประกอบการของสหกรณ์มีกำไรสุทธิ ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วผลการดำเนินงานของสหกรณ์ฯ ขาดทุนสุทธิจำนวนมากมาตลอด เหตุเกิดที่แขวงคลองจั่น บางกะปิ กทม.
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นางศรัณยา มานหมัด จำเลยที่ 7 มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง แต่ไม่ได้เบิกตัว นายศุภชัย จำเลยที่ 1 และ นางทองพิน กันล้อม จำเลยที่ 4 มาจากเรือนจำ สำหรับจำเลยอื่นที่เหลือได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาลเช่นกัน
ขณะเดียวกัน จำเลยที่ 2 และ 6 แถลงต่อศาลว่ายังไม่มีทนายทนายความ จึงขอเลื่อนนัดออกไปก่อน เพื่อรอแต่งตั้งทนายความเอง ต่อมาศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยที่ 3, 5, 7 - 11 ฟัง ซึ่งจำเลยทั้ง 7 คนให้การปฎิเสธขอต่อสู้คดี
ขณะที่อัยการโจทก์แถลงว่า คดีนี้มีข้อเท็จจริงที่จะนำสืบพยานชุดเดียวกับคดีหมายเลขดำ อ. 3734/2559 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นางวันเพ็ญ ยอดดี เป็นจำเลย ซึ่งมีพยานเอกสารเป็นจำนวนมาก หากรวมคดีเข้าด้วยกันจะทำให้การพิจารณาสะดวกและรวดเร็วกับทุกฝ่าย ซึ่งในส่วนคดีของนางวันเพ็ญศาลอาญาได้นัดสอบคำให้การในวันที่ 20 ก.พ. 2560 จึงขออนุญาตให้ศาลรวมคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกันและเลื่อนนัดออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. 2560
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายศุภชัย จำเลยที่ 1 และ นางทองพิน 4 ไม่ได้ถูกเบิกตัวมาศาล เนื่องจากไม่พบหมายเบิกตัว ส่วนจำเลยที่ 2 และ 6 ยังไม่มีทนายความ ขณะที่สำนวนคดีนี้และสำนวนคดีหมายเลขดำ อ. 3734/2559 เป็นความผิดร่วมกัน ซึ่งมีมูลเหตุและพยานชุดเดียวกัน ถ้ารวมสำนวนจะทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้น จึงอนุญาตให้รวมคดีไว้เป็นสำนวนเดียวกัน และให้นัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 20 ก.พ. เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับให้เบิกตัวจำเลยที่อยู่ในเรือนจำมาตามนัด
ภายหลัง นายวันชัย บุนนาค ทนายความของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร กล่าวถึงกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยื่นถอนฟ้องอุทธรณ์นายศุภชัย คดียักยอกทรัพย์หมายเลขดำ อ.1739/2558 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายศุภชัย 14 ปี 24 เดือนว่า ตามหลักกฎหมายแล้วการถอนฟ้องคดีสามารถทำได้ในคดีที่เป็นความผิดที่ยอมความได้ และจะต้องกระทำก่อนที่จะมีคำพิพากษาถึงที่สิ้นสุด แม้คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพและศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว แต่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คดีจึงยังไม่ถึงที่สิ้นสุด ทั้งนี้ คดีนี้ตนได้เสนอให้มีการเจรจากันก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาหลายครั้ง แต่ขณะนั้นยังไม่สามารถรวบรวมเงินชดใช้คืนให้สหกรณ์ฯ ได้ ภายหลังเมื่อรวบรวมเงินได้จากแหล่งเงิน 4 - 5 ราย นายศุภชัยได้มอบให้ตนไปเจรจากับทางสหกรณ์ฯ อีกหลายรอบจนกระทั่ง ในวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนทำหนังสืออย่างเป็นทางการเสนอต่อที่ประชุมสหกรณ์ฯ ซึ่งที่ประชุมยินดีที่จะเจรจาและรับเงินชดเชยรวมดอกเบี้ยจำนวน 34,752,150 บาท ตนจึงได้นำผลการประชุมแนบคำร้องยื่นต่ออัยการเพื่อแจ้งให้ทราบ และยื่นต่อศาลอุทธรณ์ขอให้มีคำสั่งถอนฟ้องคดีนี้ต่อไป ซึ่งหากศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ โทษจำคุก 14 ปี 24 เดือนของ นายศุภชัย ก็จะถูกถอนไปโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ทราบว่า นายทะเบียนของสหกรณ์มายื่นคัดค้านการถอนฟ้อง ตนจึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลกำหนดวันนัดไกล่เกลี่ยสมานฉันท์ ในวันที่ 12 ม.ค. 60 ด้วย ซึ่งขณะนี้รอคำสั่งศาล