“ศานิตย์” ร่วมประชุมเร่งล่าคนร้ายข่มขืนหญิงออสเตรเลีย

น.1 ร่วมประชุมติดตามคดีคนร้ายข่มขืนหญิงชาวออสเตรเลีย เผย ตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยหลายราย แต่ไม่ขอเปิดรายละเอียด สั่งการชุดสืบสวนไล่หาเบาะแส พร้อมตามตัวเพื่อนชายชาวต่างชาติที่พบกันในร้าน คาด 1-3 วันคืบหน้ากว่าเดิม

วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ สน.ตลิ่งชัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก.สน.ตลิ่งชัน และฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. และ บก.สส.บก.น.1-9 เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีข่มขืนหญิงชาวออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. เวลาประมาณ 04.00 น.ที่ผ่านมา โดยใช้ในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ก็มีความคืบหน้าไปอีกนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลที่สาวไปถึงตัวผู้ต้องสงสัย จึงมอบหมายงานเพิ่มเติม โดยเน้นย้ำให้เพิ่มความเข้ม และขยายผลออกไป โดยให้สถานีตำรวจที่ใกล้เคียงช่วยกันหาเบาะแส เพราะจะให้ชุดสืบสวนนครบาล 7 ดำเนินการอยู่ฝ่ายเดียวคงไม่เป็นผลเท่าที่ควร จึงมอบหมายให้สถานีตำรวจใกล้เคียงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และทำการขยายผล โดยทุกฝ่ายจะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และแสดงความคิดเห็นถึงความเป็นไปได้ในทุกๆ มุมมอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือ การระดมสมองว่าแต่ละฝ่ายจะมีวิธีการ หรือแนวความคิดอย่างไรบ้าง และในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) เวลา 17.00 น.ก็จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า ส่วนรายละเอียดต่างๆ เป็นเรื่องของเทคนิค ทั้งสอบสวน สืบสวน ผลสอบสวนเป็นอย่างไร ก็จะประสานส่งข้อมูลให้ฝ่ายสืบสวนไปดำเนินการต่อ ถ้าสืบกับสอบไม่สัมพันธ์กัน ไม่มีการส่งมอบข้อมูลให้กัน คือ ต่างคนต่างทำงาน นี้ก็เป็นอีกส่วนที่นำมาชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งตนมีหน้าที่มาแนะนำ เติมเต็มบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น ส่วนคนขับรถสามล้อเครื่องที่รับผู้เสียหายมา แล้วมากระทำชำเรานั้น ทางตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว ถ้าเชื่อมั่นว่าเป็นโชเฟอร์ขับรถสามล้อก็ขอให้มาแสดงตัว หนีไม่พ้นหรอก ถ้าในวันเกิดเหตุมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด คิดร้ายอะไร ก็ขอให้มาแสดงตัวว่าช่วงเวลา 04.00 น.ของวันที่ 5 ธ.ค. ได้รับผู้โดยสารชาวต่างชาติมาหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ต้องวินิจฉัยให้กว้างๆ ก่อน แต่ 80% เชื่อว่าเป็นรถสามล้อ โดยผู้ต้องสงสัยที่นำมาสอบสวน และชี้ตัวเมื่อวาน (10 ธ.ค.) นั้น จะต้องอธิบายก่อนว่าเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นจะต้องนำเรื่องราวต่างๆ มาวิเคาระห์ว่าจะต้องให้ความสำคัญเรื่องใดเป็นพิเศษ ถ้าเราได้ข้อมูลว่าโชเฟอร์รถสามล้อ แล้วไปเอาตัวโชเฟอร์แท็กซี่มา เท่ากับว่ามันคนละประเด็นกัน ตามหลักการแล้วเราจะต้องวิเคราะห์โดยนำกลุ่มที่หากินบริเวณถนนข้าวสารมาสอบสวนก่อนทั้ง 50 เจ้า และนำมาสกรีนหาบุคคลที่น่าสงสัย ก่อนจะนำตัวมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ก็มีผู้ต้องสงสัยหลายราย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปหาข้อมูลมาก่อน โดยไล่หาเบาะแสจากทุกพื้นที่ใน บก.น.1 - 9 ส่วนเพื่อนชายที่เป็นชาวต่างชาติที่พบกันในร้านแห่งหนึ่ง ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนไปติดตามเช่นกัน คาดว่า 1-3 วันนี้จะมีความคืบหน้ามากกว่าเดิม

เบื้องต้นเชื่อว่า ไม่ว่าใครที่มีบุคคลแปลกหน้าเข้ามาคุยด้วย อย่างแรกที่ต้องถามคือชื่ออะไร มาจากไหนแน่นอน ถ้าเรารู้ชื่อรู้ประเทศ ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเข้าประเทศมาตั้งแต่เมื่อใด บางทีพนักงานสอบสวนอาจจะลืมประเด็นการสอบนี้ไป ก็ได้สั่งให้สอบเพิ่มแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องสอบสวนให้ชัดเจน จะมาสอบลวกๆ หรือสอบปากคำสั้นๆ มันไม่ได้ พนักงานสอบสวนจะต้องละเอียด รวมๆ แล้วคำให้การของผู้เสียหายกับหลักฐานที่มียังไม่สอดคล้องกันบ้าง ซึ่งจะต้องพิสูจน์ทราบกันอีกครั้ง

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า ส่วนผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากแพทย์โรงพยาบาลศิริราชนั้น คาดว่าจะได้ผลตรวจที่ชัดเจนภายในวันที่ 13 ธ.ค.นี้