ยังไม่ชัด สองคนขับสามล้อลวงสาวออสซีข่มขืน รอผลตรวจดีเอ็นเอยืนยัน

สืบสวนสอบปากคำสองคนขับสามล้อ ผู้ต้องสงสัยข่มขืนสาวออสเตรเลีย พบขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ต้องรอความชัดเจนจากผลการตรวจผลดีเอ็นเอ

จากกรณี น.ส.เบลล่า (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหายชาวออสเตรเลีย เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ว่า ขณะที่ตัวเองอยู่ในอาการมึนเมาหลังเที่ยวร้านในถนนข้าวสาร ทำให้เดินทางกลับที่พักย่านถนนตานีไม่ถูก จึงให้เรียกรถสามล้อเครื่องให้ช่วยพาไปส่ง แต่กลับถูกโชเฟอร์รถสามล้อเครื่องคันดังกล่าว พาไปข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับคนร้ายชายอีกคนหนึ่ง ที่บริเวณพงหญ้าด้านหลังอาคารวัฏจักร ถนนบรมราชชนนีขาออก แขวงและเขตตลิ่งชัน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายร่วมกันลงพื้นที่ เพื่อคลี่คลายคดี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผบช.น. เรียก พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ณัฐนันท์ นานาสมบัติ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ปัดสำราญ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และ เจ้าหน้าที่ บก.ทท. ได้เชิญผู้ต้องสงสัยที่ขับรถสามล้อในย่านถนนข้าวสารจำนวน 2 ราย มาสอบปากคำ พร้อมกันนี้ ได้เชิญตัวผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ต้องสงสัยด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจผลดีเอ็นเอจาก รพ.ตำรวจ เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง

ต่อมาเวลา 21.40 น. หลังจากนำตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน มาสอบปากคำนานกว่า 3 ชม. พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยให้การว่า ขณะที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบก็พบว่า ทั้งสองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุจริง ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบความรู้สึกและเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ดังนั้น อาจจะมีการคลาดเคลื่อนไปบ้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงต้องลงพื้นที่หาหลักฐานในส่วนอื่นมาประกอบด้วย รวมไปถึงตรวจสอบถิ่นที่อยู่อาศัย หากอยู่ใกล้ก็อาจจะมีแนวโน้มในการก่อเหตุได้ และนอกจากนี้ ก็ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบด้วย ซึ่งจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น