MGR Online - “ศานิตย์” ลงตรวจ พท. ตึกร้างย่านตลิ่งชัน สางคดีนักท่องเที่ยวออสเตรเลียสาว อ้างโดนโชเฟอร์สามล้อข่มขืน เผยเก็บดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยไว้ตรวจแล้ว คาด ออกภายใน 1 - 2 วันนี้ มั่นเร่งจับคนร้ายให้ได้ก่อนผู้เสียหายบินกลับประเทศ
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ ปัดสำราญ สว.สส.สน.ตลิ่งชัน และ นางพรทิพย์ วัชรินทร์ดิลก ผู้อำนวยการสำนักงานเขตตลิ่งชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณที่อาคารวัฏจักร ถนนบรมราชชนนีนาถขาออก แขวง/เขตตลิ่งชัน กทม. เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีสาวออสเตรเลียอ้างว่าถูกข่มขืน
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ในพื้นที่รกร้างมักก่อให้เกิดเหตุอาชญากรรมได้ โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับเพศ หลายครั้งสถานที่รกร้างเชื่อว่าคนร้ายได้นำสุภาพสตรีมาทำมิดีมิร้ายหลายราย จากการสำรวจบริเวณลานกว้างหน้าอาคารที่ได้เปิดให้เช่าเป็นพื้นที่เพื่อจอดรถแห่งนี้ ก็จะต้องตรวจสอบว่าผู้ที่มาเช่าพื้นที่ทำที่จอดรถนั้น เจ้าของพื้นที่รับรู้หรือไม่ เบื้องต้นจะต้องนำประตูปิดทางเข้าอาคารให้เร็วที่สุด เพื่อปิดโอกาสเกิดเหตุอาชญากรรม หรือเหตุข่มขืน ส่วนการกำชับเจ้าหน้าที่นั้น ตนไม่ได้กำชับแค่พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน แต่ได้สั่งกำชับทุกพื้นที่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้เพิ่มความเข้มในทุกๆ ด้าน หากยังมีเหตุเกิดขึ้น ทำให้การปฏิบัติจะต้องจริงจังมากยิ่งขึ้น และตนจะสุ่มตรวจในแต่ละพื้นที่ในจุดที่อาชญากรรมเกิดขึ้นได้ หากมีเหยื่อ โจร และมีโอกาส ตำรวจจะต้องปรับสภาพให้ดีขึ้น เช่น จัดการในพื้นที่รกร้างในที่มืดเปลี่ยว โจรจะได้ไม่กล้ามากระทำความผิด ถือเป็นปฏิบัติการเชิงรุก ที่ต้องเน้นย้ำในที่ประชุมขับเคลื่อนประจำสัปดาห์อีกครั้ง นอกจากนี้ จะประสานกรุงเทพมหานคร เพื่อขอความร่วมมือในส่วนนี้ด้วย
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าในคดีนั้น พบว่า มีผู้ต้องสงสัยหลายคน โดยเฉพาะโชเฟอร์สามล้อเครื่อง บริเวณถนนข้าวสาร ถนนตะนาว ถนนคอกวัว และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งจะต้องเข้าใจก่อนว่าสามล้อ มีทั้งประจำ และขาจร ดังนั้น คนที่อยู่ประจำก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นใคร แต่พวกขาจรนานๆ จะมาที อาจจะมาสร้างปัญหาในพื้นที่หรือไม่ ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ชี้ตัวผู้ต้องหา แต่ผู้เสียหายบอกว่ามั่นใจแค่ 80% เท่านั้น ตนเลยบอกว่าแค่ 80% ยังไม่เพียงพอที่จะดำเนินคดี ซึ่งสโลแกนที่ว่า “รุก รบ จบเร็ว” ทุกคดีจะต้องจบแบบมีเหตุผล ถูกต้อง ชอบธรรม และจะต้องเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สุดท้ายนี้จะต้องมีการตรวจสอบที่อยู่ จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ในวันเกิดเหตุไม่ได้อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเลย ก็เลยปล่อยตัวไป แต่ก็นำดีเอ็นเอมาตรวจเพิ่มเติม หลังจากนี้ ก็จะต้องรอผลตรวจยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์จากแพทย์ รพ.ศิริราช คาดว่า ผลอย่างไม่เป็นทางการจะออกภายใน 1 - 2 วันนี้ เชื่อว่า คนที่ถูกละเมิดทางเพศจะต้องมีร่องรอย และมีอะไรตกค้างอยู่บ้าง แต่ถ้าผลการตรวจออกมาแล้วว่าเป็นของต่างชาติ ไม่ใช่ชาวเอเชีย เราก็จะต้องให้ความเป็นธรม เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน ยิ่งเกี่ยวข้องกับเพศ กับสตรี ยิ่งต้องให้เกียรติ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าไปตั้งเป้าว่าไม่ใช่ ต้องตั้งเป้าว่าใช่ แล้วก็พิสูจน์ทราบด้วยหลักการ และเหตุผล ทั้งพยานหลักฐาน วัตถุพยาน พยานบุคคล พยานนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน มีเหตุมีผล สามารถทำให้ทุกคนปราศจากข้อสงสัย และในวันนี้เวลา 17.00 น. จะประชุมกับชุดสอบสวนสืบสวน และชุดสืบจากนครบาล เพื่อที่จะถามความคืบหน้าจากการบ้านที่ให้ไปเมื่อวานนี้
ด้าน นางพรทิพย์ กล่าวว่า ทางสำนักงานเขตจะประสานให้เจ้าของพื้นที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทำประตูปิดเปิดทางเข้า - ออก ติดไฟตามจุดต่างๆ และต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาเฝ้าตลอด 24 ชม. เพือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก
ด้าน นายณัฐพล สอนเครือ อายุ 24 ปี บุคคลที่มาขอเช่าพื้นที่บริเวณลานหน้าอาคารวัฏจักร ทำที่จอดรถ กล่าวว่า ตน และ นางอัจฉรา โสภารัตน์ อายุ 55 ปี มาติดต่อขอเช่าพื้นที่ด้านหน้า เพื่อทำเป็นที่จอดรถ ตั้งแต่ปี 56 ซึ่งในแต่ละวันตนจะเข้ามาในช่วงเช้าหรือช่วยสาย โดยจะสลับหน้าที่กับนางอัจฉรา นานๆ ครั้งจะมีกลุ่มนักศึกษามาขอใช้พื้นที่บนอาคาร เพื่อถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ ก็คิดค่าเข้า 50 บาท หรือในกรณีที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ก็จะคิดราคาเหมาจ่าย 200 บาท
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ตนลงมาขับเคลื่อนด้วยตนเอง เพราะถือว่ากระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ว่า ประเทศไทยมีความปลอดภัยสูงสุด อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) ผู้เสียหายสาวชาวออสเตรเลียจะเดินทางไปที่เกาะสมุย และจะเดินทางกลับประเทศในวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค. นี้ ทั้งนี้ ตนจะเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ ก่อนที่ผู้เสียหายจะเดินทางกลับประเทศ