ดีเอสไอส่งสำนวนสั่งฟ้อง “ศุภชัย” อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นพร้อมพวก ฟอกเงินเอ็ม-โฮม

MGR Online - ดีเอสไอส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง “ศุภชัย” อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่น และพวกรวม 9 คน ฟอกเงินเอ็ม-โฮม เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ให้อัยการสั่งคดีฟ้องหรือไม่

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (29 พ.ย.) พ.ต.ท.ศันสนะ แก้วทับทิม รองผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 99/2558 จำนวน 6 แฟ้ม พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น, นายลภัส โสมคำ อดีตเลขานุการสหกรณ์ฯ, น.ส.ศรันยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ฯ, นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความ ซึ่งมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด เมื่อปี 2552, นายจำลอง ทับสุวรรณ์ มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทเอ็ม-โฮมฯ เมื่อปี 2552, นายบันลือ กองไชย มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทเอ็ม-โฮมฯ เมื่อปี 2552 และ 2556, นายธวัชกิตตน์ ธนานันท์ตระกูล, นายกรณ์ฐธัน ธนานันท์ตระกูล ซึ่งทั้งสองเป็นพ่อลูกกันและเป็นกรรมการ บริษัทเอ็ม-โฮมฯ เมื่อปี 2556 และบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9 และ 60-61 มาส่งมอบให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษพิจารณาสั่งคดี โดยอัยการนัดฟังคำสั่งครั้งแรกในวันที่ 10 ม.ค. 2560 เวลา 10.00 น.

ภายหลังส่งมอบสำนวนแล้ว พ.ต.ท.ศันสนะ รอง ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แยกดำเนินคดีอาญาเป็นอีกคดีหนึ่ง และได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางการสอบสวนมีพยานหลักฐานพอรับฟังได้ ดีเอสไอจึงได้สรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 9 ราย เป็นบุคคล 8 ราย และนิติบุคคลอีก 1 ราย ในความผิดฐานฟอกเงินซึ่งเป็นไปตามมูลฐานความผิดฟอกเงินที่ 66/2557 กรณีที่นายศุภชัยกับพวก ร่วมมือกันซื้อหุ้น บ.เอ็ม-โฮมฯ แล้วส่งคนเข้าไปบริหาร จากนั้นได้นำเงินของสหกรณ์ฯ ซื้อที่ดินย่านตลาดไท จำนวน 3 แปลง มูลค่ากว่า 321 ล้านบาท ของ บ.เอ็ม-โฮมฯ เพื่อจะเปลี่ยนแปลงสภาพเงินที่ได้เป็นที่ดินและทรัพย์สิน หลังจากนั้นจึงโอนเงินวางมัดจำ 280 ล้านบาท เข้าบัญชีนายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 และจากการสอบสวนของดีเอสไอ พบว่านายศุภชัยกับพวกผู้กระทำผิดที่เป็นกรรมการสหกรณ์ฯ ได้นำเงินดังกล่าวออกมาโดยไม่ผ่านมติที่ประชุมแต่อย่างใด

ขณะที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้กล่าวถึงการยื่นฟ้องคดีนายศุภชัย กับ น.ส.ศรันยา และนางทองพิน กันล้อม รวม 3 คนในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินที่มี พระธัมมชโย ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมฐานฟอกเงินและรับของโจรว่า ตามที่คณะทำงานอัยการมีคำสั่งฟ้องนายศุภชัยกับพวกรวม 3 คน ขณะนี้รอตัวผู้ต้องหาหญิง 2 รายที่ได้รับการประกันตัวมาพบอัยการในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาพร้อมกับนายศุภชัย ปัจจุบันตัวอยู่ในอำนาจควบคุมของศาลแล้วที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ โดยคณะทำงานของอัยการก็เตรียมพร้อมร่างคำฟ้องไว้เรียบร้อยแล้ว หากผู้ต้องหายังไม่เดินทางมาพบอัยการในวันพรุ่งนี้ก็ต้องพิจารณาถึงเหตุขัดข้อง และกระบวนการยื่นฟ้องนายศุภชัยกับพวกก็อาจจำเป็นต้องเลื่อนเวลาออกไปก่อน ส่วนพระธัมมชโยกับพวกอีก 1 รายที่คณะทำงานมีความเห็นควรสั่งฟ้องไว้ก่อนแล้วนั้นจะได้ตัวมาฟ้องในวันพรุ่งนี้ด้วยหรือไม่ ก็เป็นการดำเนินการของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะติดตามตัวมาให้อัยการ ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบรายละเอียดได้