MGR Online - “บิ๊กต๊อก” เผยดีเอสไอมีหมายจับ “ธัมมชโย” แต่รออัยการพิจารณาก่อน 30 พ.ย.นี้ ส่วนข้าราชการดีเอสไอ 2 คนรับเงินสหกรณ์ฯ คลองจั่น 40 ล้านบาท สั่งสอบเชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง
วันนี้ (21 พ.ย.) กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มีหมายจับของตำรวจ 2 หมาย และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อีก 1 หมายว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้ชี้แจ้งแล้วบอกให้รอทาง อัยการในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ต้องดูว่าเห็นด้วยกับทางพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องคดีหรือไม่ โดยดีเอสไอมีหมายจับอยู่แล้ว แต่หากดำเนินการติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโยและอัยการไม่สั่งฟ้องก็ไม่มีประโยชน์ ควรรอทีเดียวในปลายเดือนนี้
“ที่ผ่านมาดีเอสไอเคยขอหมายค้นเข้าไปที่วัดพระธรรมกาย แต่สุดท้ายไม่ได้ตัว และคดีดังกล่าวไม่ได้จบที่ พนักงานสอบสวน ต้องส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาต่อ หากอัยการเห็นสั่งฟ้อง ศาล เจ้าหน้าที่ก็พร้อมดำเนินการ ส่วนหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องไปถามหน่วยงานที่รับผิดชอบ” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีข้าราชการดีเอสไอ 2 คน เชื่อมโยงรับเงินสหกรณ์ฯ คลองจั่น จำนวนเงิน 40 ล้านบาท ด้าน พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนตนมารับตำแหน่งและคดีค้างกว่า 2-3 ปี หลังจากนั้นตนมาเร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้ทำงานเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะดีเอสไอเองด้วยเนื่องจากมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องและมีหลักฐานชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ 2 รายนี้ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงกับคดีดังกล่าวแต่ได้มีเงินเข้าบัญชีจำนวน 40 ล้านบาทตามข้อกล่าวหา
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลหรืออาจถูกสั่งมาอีกทีจึงอยากให้ดีเอสไอเร่งรัดสอบสวนให้เสร็จสิ้นและชัดเจนเพื่อพิสูจน์องค์กร โดยไม่ต้องรอถึง 30 วัน เพราะคดีนี้เกิดก่อนตนมาและน่าจะมีข้อมูลกันมานานแล้ว เพียงหาความเชื่อมโยงให้ได้ว่าเป็นมาอย่างไร ตนไม่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ 2 คนทำเองเพราะไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เลย รวมทั้งคนที่โอนเงินมาให้จำเป็นต้องจ่ายให้ 2 คนนี้หรือไม่ เพราะไม่เกี่ยวกันเลย และตำแหน่งหน้าที่ไม่ได้ใหญ่โตขนาดสามารถสั่งการอะไรได้ หรือมีใครอยู่เบื้องหลังสั่งการ