“บิ๊กต๊อก” งงอัยการเลื่อนสั่งคดี “ธัมมชโย” หลังเรียกอธิบดีดีเอสไอถามยืนยันประเด็นสำคัญสอบหมดแล้ว มีมูลเพียงพอฟ้องได้ เชื่อไม่ซ้ำรอยอดีตที่อัยการสูงสุดไม่ส่งฟ้อง บอกหากให้กฎหมายเป็นกฎหมายก็ต้องส่งฟ้อง
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่สำนักอัยการสูงสุดมีคำสั่งเลื่อนการสั่งคดีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่าตนไม่ทราบการเลื่อนเพราะไม่จำเป็นต้องรายงานตน แต่ก็เรียกอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาสอบถามว่าทำไมถึงยังสอบสวนไม่จบเสียที เพราะตนเองไม่เข้าใจขั้นตอนในการดำเนินการหรือรายละเอียด ซึ่งดีเอสไอเชื่อมั่นว่าแนวทางที่ทำและประเด็นสำคัญได้สอบทั้งหมดแล้ว รวมถึงมีมูลเพียงพอที่จะฟ้องศาลได้ โดยทั้งหมดนี้เป็นความเห็นของพนักงานสอบสวน โดยประเด็นที่เรียกสอบถามเพิ่มเติมนั้นไม่ใช่หัวใจหลักของคดี ขณะเดียวกันก็ไม่ทราบว่ามุมมองของอัยการคืออะไร ต้องรับฟังทั้งสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการถอนฟ้องเหมือนเมื่อหลายปีก่อน โดยอาจมองว่าจะมีการใช้อำนาจของอัยการสูงสุดในการไม่ส่งฟ้อง พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า สังคมสามารถมองได้ เรื่องนี้ต้องถามทางอัยการสูงสุด เนื่องจากประเด็นที่แล้วไม่ได้ถอนฟ้องในประเด็นที่ไม่มีความผิด แต่เพราะเห็นว่าฟ้องแล้วกลัวเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยซึ่งเป็นการใช้อำนาจเฉพาะตัวของอัยการสูงสุด แต่ที่ศึกษามานั้นไม่ใช่เรื่องของการไม่ฟ้องเพราะไม่มีความผิด แต่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น ต้องไปถามอัยการสูงสุด ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เขาคงรู้ว่าสังคมมองอยู่
ส่วนถ้าส่งฟ้องแล้วจะมีปัญหาตามมาหรือไม่นั้น พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ต้องการให้กฎหมายเป็นกฎหมายหรือไม่ ถ้าจะบอกว่าเหมือนเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปจับกุมตัว และมีประชาชนปิดล้อมไม่ให้เข้านั้น เป็นคนละประเด็นกับการส่งฟ้องศาลของอัยการ ซึ่งศาลอาจจะไม่รับฟ้องก็ได้
“กระบวนการยุติธรรมก็ต้องเดินไปตามกฎหมาย ถ้าเราคิดว่าเรากลัวโน้นนี่แล้ว มันก็จะเป็นคำถามที่ถามว่าจะให้เป็นอย่างนั้นหรือไม่ ก็แสดงว่าพวกเราเองก็ไม่พอใจแบบนั้นใช่หรือไม่ เพราะแบบนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องใช่หรือเปล่า พวกเรากำลังหวั่นใจว่าจะเกิดแบบนี้ใช่หรือไม่ หวั่นใจว่าทำไมไม่ทำกฎหมายออกมา ดังนั้นก็ต้องรอดูกันต่อไป”