ตำรวจ สน.พระโขนง จับ 2 วัยรุ่นติดยาโปรโคดิล โบกแท็กซี่เข้าซอยเปลี่ยว ก่อนใช้คัตเตอร์จี้ชิงทรัพย์ รับทำมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เพิ่งจะมาสำเร็จในครั้งสุดท้าย
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ สน.พระโขนง พ.ต.ท.ณัฏฐ์ พิพัฒน์สวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง นำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง จับกุมตัว นายสิทธิธัช หรือ ขาว หรือ ไอซ์ เรืองขจร อายุ 20 ปี และ นายณัฐวัตร หรือ เต็ม นรสาร อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง ธนบัตร ใบละ 100 บาท จำนวน 5 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และมีดคัตเตอร์ จำนวน 1 อัน โดยสามารถจับกุมตัว นายสิทธิธัช ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 824 ชุมชนหลังวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. เมื่อเวลา 18.10 น. และสามารถจับกุม นายณัฐวัตร ได้ที่ห้องพักเลขที่ 86/49 ซอยอ่อนนุช 17 แยก 16 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องมาจากทางตำรวจ สน.พระโขนง ได้รับแจ้งจาก นายภาคภูมิ จันลาสี อายุ 50 ปี โชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ โตโยต้า อัลติส สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มฉ 4777 กทม. ว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย. เวลาประมาณ 23.50 น. ได้ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 20 - 25 ปี โดยคนแรกมีรูปร่างผอมสูง ผิวดำแดง ผมรองทรงหวีแสกกลาง ใส่เสื้อแขนยาวสีครีม กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน นั่งหน้าคู่คนขับ ส่วนอีกรายมีรูปพรรณทรงผมเหมือนกับคนแรก ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์ นั่งเบาะหลัง ได้เรียกรถแท็กซี่คันที่ผู้เสียหายกำลังขับ
โดยนั่งจากภายในซอยอ่อนนุช 17 แยก 18 พื้นที่ สน.คลองตัน ให้มาส่งในซอยอ่อนนุช 30 ระหว่างที่ขับไปตามทางที่คนร้ายบอก พอถึงหน้าวัดราษฎร์ให้เลี้ยวเข้าไปในซอยพึ่งมี 52 พอเข้าซอยได้ประมาณ 100 เมตร หนึ่งในคนร้ายที่นั่งหน้าใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับเอาเงินสด 500 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อลาวา สีดำ 1 เครื่อง ของผู้เสียหายไป จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถแล้วพากันวิ่งหลบหนีไปทางนิรันดร์คอนโด แล้วหายไปในความมืด ต่อมาทางตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ได้ออกติดตามหาเบาะแสของคนร้ายบริเวณชุมชนใกล้ที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งนำผู้เสียหายไปดูภาพและสเกตช์ภาพคนร้าย เนื่องจากจดจำหน้าคนร้ายที่ใช้คัตเตอร์จี้บังคับได้อย่างแม่นยำ กระทั่งสืบทราบชื่อคนร้ายทั้งสอง จึงออกหมายจับ และลงพื้นที่ติดตามตัว จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ ก่อนนำตัวสอบสวนที่ สน.พระโขนง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ยอมรับสารภาพว่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ประกอบกับติดยาเสพติดชนิดโปรโคดิล จึงเกิดอาการคึกคะนอง ชักชวนกันออกตระเวนโบกรถแท็กซี่ จากนั้นจะพาเหยื่อเข้าทางเปลี่ยว ก่อนชักอาวุธมีดที่พกมาจี้ชิงทรัพย์ และนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ บางส่วนนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ คนร้ายยังรับอีกว่า ก่อนหน้านี้ ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 2 - 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะมาสำเร็จครั้งนี้ นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่า นายสิทธิธัช มีหมายจับคดีชิงทรัพย์ ในท้องที่ สน.ประเวศ เมื่อปี 58 อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรและทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป