ยังไม่หยุด “ปู” โอ่ ถ้าเป็นรัฐบาลจะซื้อข้าวชาวนาทุกเม็ด

MGR Online - “ยิ่งลักษณ์” ไปศาลฟังไต่สวนพยานจำเลยคดีจำนำข้าว ชาวนาอุบลฯ เหมารถบัสมอบรวงข้าวประกอบฉาก อ้างถ้าเป็นรัฐบาลจะซื้อข้าวชาวนาทั้งหมด ตามคำท้า “พล.อ.ประวิตร” ขณะที่ศาลเลื่อนนัดไต่สวน เหตุมารดา “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ป่วยหนัก

วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีจำนำข้าวเดินทางมาศาลเพื่อร่วมฟังการไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 6 ซึ่งวันนี้ทนายความเตรียมนำนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้าไต่สวน 1 ปาก

โดยวันนี้มีกลุ่มชาวนาจากจังหวัดอุบลราชธานีเดินทางมา 3 คันรถบัส พร้อมนำต้นข้าวออกรวงแล้วใส่กระเช้าตะกร้าห่อด้วยผ้าข้าวม้ามาร่วมให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังจากที่เมื่อวาน (3 พ.ย.) ลงพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อรับฟังปัญหาชาวนาที่ข้าวราคาตกต่ำและได้นำเงินส่วนตัวซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ขณะเดียวกันยังมีประชาชนกลุ่มอื่นเดินทางมาให้กำลังใจรวมประมาณ 800 คน

โดยก่อนเข้าห้องพิจารณา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการจำนำยุ้งฉางของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการช่วยเหลือแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำขณะนี้ว่าคงจะไม่กล่าวลงไปในรายละเอียด แต่มองด้วยหลักการก็ไม่ต่างจากการจำนำข้าว และที่สำคัญรัฐบาลก็มุ่งจะช่วยเหลือชาวนาโดยไม่หวังผลกำไร ขาดทุน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงพื้นที่พบกับชาวนาที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จากการที่ได้ไปสัมผัสกับชาวนายืนยันว่าชาวนาลำบากจริงๆ จากราคาข้าวสารที่ตกต่ำแล้วก็ยังมีปัญหาหนี้สิน ชาวนาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องขายข้าวออกไปทำให้ขาดทุน จึงน่าเป็นห่วงก็อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมกันช่วยเหลือชาวนา

เมื่อถามถึง การถูกมองว่าเป็นเรื่องดรามาที่ร้องไห้ในการรับซื้อข้าวชาวนา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน รู้ซึ้งถึงบุญคุณพี่น้องประชาชน วันนี้ประชาชนชาวนามีความเดือดร้อน แม้ว่าวันนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ตนก็ทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เห็นใจช่วยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะชาวนาที่ลำบากเดือดร้อน จึงลงพื้นที่ไปไม่ได้มุ่งหวังเรื่องการเมืองแต่อย่างใด เป็นเรื่องของประชาชนคนหนึ่งที่จะทำงาน

เมื่อถามว่าจะแนะนำมาตรการช่วยเหลือชาวนากับรัฐบาลอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องให้รัฐบาลมองภาพรวมทั้งระบบและมองข้างหน้าด้วย โดยเฉพาะในเร็วๆ นี้ที่จะมีข้าวที่ชาวนากำลังจะเก็บเกี่ยวเข้ามาอีกดังนั้นต้องมองทั้งระบบ ตนไม่สามารถก้าวล่วงไปแนะนำรัฐบาลได้ จะต้องมีทีมเศรษฐกิจที่เป็นมืออาชีพในการคิดแก้ปัญหา โดยวันนี้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว ขออยากให้รัฐบาลมองว่างานนี้เป็นงานที่รัฐบาลจะต้องเข้ามาแก้ไขให้แก่ชาวนาและประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อยากให้รับซื้อข้าวทั้งหมดหากต้องการช่วยเหลือชาวนาจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ถ้าดิฉันเป็นรัฐบาล ดิฉันจะทำอย่างนั้นค่ะ แต่วันนี้ดิฉันเป็นประชาชนคนหนึ่ง ดิฉันทำเท่าที่กำลังมี นอกจากภาระที่ดิฉันต้องใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ภาระดิฉันยังต้องต่อสู้ในชั้นศาลอีก แต่ดิฉันคิดว่าน้ำใจต่างหากที่ชาวนาอยากได้รับ อยากเห็นทุกคนลงมาทุ่มเทในการที่จะใช้ทุกกำลังความสามารถช่วยเหลือชาวนา จะได้มากได้น้อย แต่ในส่วนของคนที่เป็นรัฐบาลนั้นใครที่มาช่วยเหลือก็น่าจะยินดีและเปิดรับทุกคน”

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา 09.30 น. นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ได้ออกนั่งบัลลังก์ในนัดไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 6 คดีโครงการรับจำนำข้าว หมายเลขดำที่ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท แต่ปรากฏว่า นายชีพ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนได้แจ้งต่อคู่ความว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง พยานที่จะมาไต่สวนในวันนี้ได้ทำหนังสือแจ้งต่อทนายความจำเลยขอเลื่อนการไต่สวนออกไปก่อน เนื่องจากมารดาป่วยอยู่ในขั้นวิกฤต จึงขอเวลาดูแลมารดาที่โรงพยาบาลก่อน

ศาลสอบถามอัยการโจทก์แล้วไม่คัดค้านจึงให้เลื่อนการไต่สวนพยานปากนายกิตติรัตน์ออกไปก่อน ส่วนนัดไต่สวนพยานในวันที่ 18 พ.ย.นี้ก็ยังคงนัดไว้ ซึ่งทนายความจำเลยจะนำนายอำพน กิตติอำพน อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.คลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์มาไต่สวน

ขณะที่ศาลอนุญาตให้เพิ่มวันไต่สวนพยานจำเลยอีก 2 นัด ในวันที่ 7 กรกฎาคม และ 21 กรกฎาคม 2560 เวลา 09.30 น.