เผยภารกิจ “บิ๊กวิน”ต้องเป็นแม่งานพระราชพิธีสำคัญต่อเนื่อง เหตุจัดระเบียบจริงจัง มีผลงานเนรมิตรคลองน้ำเน่าเป็นคลองน้ำดีจนชนะใจนายกฯ / แฉ จะจะ ตำรวจ ตม.ด่านชายแดน ทำมาหากินกับบ่อนเพื่อนบ้าน บริการ 24 ชั่วโมงผีพนัน-ผ่านสะดวกขอให้มีเงินเบิกทาง “แซ่ด”เซ็งลี้เก้าอี้ “ทองคำ” 8 หลัก
"จงอย่าลืมว่า ท่านเป็นตำรวจ จงทำตนให้สมกับที่เป็นตำรวจ จงเป็นตำรวจที่ดี...ไม่ว่าจะเป็นตำรวจชั้นใด จะเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรก็ดี ชั้นนายสิบหรือพลตำรวจก็ดี นับเป็นผู้มีเกียรติเสมอเหมือนกันหมด คือเกียรติแห่งลูกผู้ชายที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมืองของตน ให้สมกับคำสัตย์ปฏิญาณที่ได้กล่าวไว้ โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของตัวเอง แต่ให้นึกถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลาย จงตั้งใจปฏิบัติราชการตามหน้าที่ของตนตามตำแหน่งชั้นอย่างเต็มที่ เพื่อชาติบ้านเมืองของเราจะได้ยั่งยืนถาวรเหมือนอย่างบรรพบุรุษของเราได้กระทำมาแต่ก่อน"
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในพิธีพระราชทานธงชัยประจำหน่วยตำรวจ และพิธีสวนสนามเนื่องในวันตำรวจ ณ ลานพระราชวังดุสิต วันที่ 13 ตุลาคม 2495
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รัก.....ก่อนจะเข้าประจำสถานีทำหน้าที่ตามปกติ กระผมนาย “บิ๊กเกรียน”ขออัญเชิญพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมามอบให้กับท่านพ่อแม่พี่น้อง แฟนประจำทุกท่านโดยเฉพาะข้าราชการตำรวจในทุกระดับได้น้อมนำถือปฏิบัติเพื่อเป็นศักดิ์ศรีเกียรติยศแห่งลูกผู้ชาย และเพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านภูมิพลฯ ผู้ที่เป็นพ่อของแผ่นดิน ให้สมกับเป็นตำรวจของพระราชาสืบไปอีกนานเท่านาน...
00000....ฮือฮา !!??....กลายเป็นข่าวสุดเซอร์ไพรซ์เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ออกคำสั่ง “ปลด” มรว.สุขุมพันธ์ บริพัทธ ให้กลายเป็น “อดีต” ผู้ว่าฯกทม.แล้ว พร้อมแต่งตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผู้ว่าฯ กทม.ขึ้นแทนอย่างเต็มตัว แถมคำสั่งฉบับเดียวกันยังให้ “ออฟชั่น”พิเศษสามารถจัดทีม รองผู้ว่าฯ กทม. 4 คนตามแต่จะเห็นเหมาะสม...ข่าวล่ามาเรือเกลือ “เสี่ยติ่ง” พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ที่ปรึกษา กทม.มาเต็ง 1 ตามติดด้วย “เสี่ยย้อย”พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา เพื่อน นรต.30 “คู่ซี้-บิ๊กวิน”...หวยมีสิทธิ์ออกที่ใครก็ได้ระหว่าง 2 พล.ต.ต. กับพล.ต.อ. “เปิดสเปก”รายแรกรู้ใจ และรู้มือ สมัยพล.ต.อ.อัศวิน ไปเป็น ผบก.ภ.เชียงราย “เสี่ยติ่ง”คือนักรบคู่ใจถูกวางตัวให้เป็น ผกก.สภ.อ.แม่สาย หากจำกันได้คดีผู้ใหญ่แดง ผู้กว้างขวางแห่งภาคเหนือมีประวัติโชกโชนทั้งค้าของเถื่อน พัวพันยาบ้า และเป็นหัวคะแนนพรรคการเมืองใหญ่......ข่าวทางลับชี้ชัดขบวนการค้ายาเสพติดกับ “ว้าแดง”ก็มีผู้ใหญ่บ้านคนนี้เป็นตัวการสำคัญ....วันดีคืนดีขณะผู้ใหญ่แดง กำลังขึ้นเวทีฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเจอมือปืนสไนเปอร์ส่องลูกยาวเข้ากลางแสกหน้าหงายท้องตายสนิทคาเวที..... บัดนั้นจนบัดนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้แต่สถานการณ์ค้ายาบ้าถูก “ตัดตอน”ซบเซา เบาบางลงไปเยอะ !!??
00000.....ส่วน “เสี่ยย้อย”เพื่อน (ซี้)ร่วมรุ่น นรต.30 นอกจากสัมพันธ์ส่วนตัวความ “ลึกซึ้ง”น่าจะอยู่ที่สมัย “ทักษิณ”เรืองอำนาจก็ได้คนชื่อ “วรพงษ์ ชิวปรีชา”นี่แหละคอยรับบท “บังซ้าย-บังขวา” ให้ แต่ถ้าคิดจะ “หัก”พรรคประชาธิปัตย์ และกำนันสุเทพ ก็ขอให้ตั้งคนนี้เข้ามารับตำแหน่ง รองผู้ว่าฯกทม.คาดว่าเสียงก่นด่า -สาปแช่งของกลุ่มนกหวีดคงปริ๊ดปี้ปริ๊ดกันจนหูอื้อแน่..เพราะฉะนั้น “เสี่ยย้อย”อาจไม่ผ่านด่าน “นกหวีด”ไปได้ง่ายๆเว้นแต่ว่า “บิ๊กวิน”ต้องการจะ “หัก”คุณพี่กำนันสุเทพ จริงๆ.”ตัดฉับ”รองผู้ว่าฯกทม.สายตำรวจแว่บมาสายพลเรือน...ข่าวว่าเพื่อไม่ “หัก”ประชาธิปัตย์จนเกินไปชื่อ “ผุสดี ตามไท” คงไม่หายไปไหน แต่ที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งเสี่ยจุมพล สำเภาพล ได้เวลา “สำเภารั่ว”จำต้องหลุดอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะ “พัวพัน”ข่าวคราวทุจริตในกรุงเทพมหานครอยู่หลายเรื่อง.....หลังวิเคราะห์เจาะลึกถึงตัวบุคคลลองมาฟังเหตุผล...ทำไม “บิ๊กตู่”จึงใช้โอกาสนี้ออกคำสั่งแต่งตั้งผู้ว่าฯกทม.ด้วยมาตรา 44 .....ข้อแรกคือกรุงเทพมหานคร คือเมืองหลวงอันเปรียบเสมือน “หัวใจ”ของประเทศไทย เมื่อตำแหน่งต้องว่างลงภารกิจต่างๆหากยังใช้บริการ “ตัวสำรอง”อาจไม่เป็นผลดีจึงให้มี “ตัวจริง”ให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความชัดเจนทั้งในฐานะผู้รับผิด-ชอบ และเพิ่มประสิทธิภาพ-ประสิทธิผล และผลงานอันเป็นที่”เข้าตา”นายกฯลุงตู่มากที่สุดก็คือการจัดระเบียบต่างๆ รวมทั้งคลองลาดพร้าว คลองประเวศ คลองแสนแสบและคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งผู้บริหารจากพรรคการเมืองทำไม่ได้....ข้อต่อมาคืองานระดับชาติที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ล้วนแต่เป็นภาระกิจสำคัญ...กรุงเทพมหานคร...ในฐานะเจ้าของพื้นที่จึงสมควรเป็นแม่งาน เป็นตัวหลักในการจัดความเตรียมพร้อมในพระราชพิธีต่างๆที่จะตามมาเป็นระยะหากยัง “ขาดหัว”การบังคับบัญชา-สั่งงานอาจมีข้อจำกัดได้....ข้อต่อมาสำคัญมากและมีคนถามกันมาก....ทำไมต้องเป็น “อัศวิน”...คำตอบน่าจะอยู่ตรงที่ประวัติความเป็นมาของพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง คือนายตำรวจที่ยืนอยู่กึ่งกลาง ไม่ซ้ายไม่ขวา ไม่เหลืองไม่แดง (อาจมีแอบนิดหน่อย 5555) ไม่ฝักไฝ่พรรคการเมืองแม้ดูเหมือนว่าเติบโตมาจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่จุดเด่นคือมีความรับผิดชอบ มีความเด็ดขาดเป็นที่ยอมรับ การเข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับ “คุณชายหมู”ไม่มีข้อแม้ใดๆ...พูดง่ายๆถ้าไม่เก่ง ไม่เจ๋ง ปชป.คงไม่เทียบเชิญให้เข้ามาร่วมงาน.....เมื่อมีข้อตกลง “ล้างเนื้องล้างตัว”จากค่ายการเมืองเรียบร้อย “นายกฯลุงตู่”จึงออกคำสั่งให้เป็น “ผู้ว่าฯกทม.”คนใหม่อย่างสายฟ้าแล่บ (แป๊บๆๆๆๆ)
00000.....ถาม-ตอบหลายประเด็นแต่ถ้าไม่วนเข้าการเมืองดูกระไรอยู่.....คำสั่งกระบองยักษ์ ม.44 เที่ยวนี้ “นายกฯลุงตู่ -กินเรียบ”ไม่กินแบ่ง...ทั้งคะแนนบวกด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสถานการณ์ถูกที่ถูกเวลา และถูกตัวบุคคล....นับแต่วันนี้แม้จะมีเยื่อกับพรรคประชาธิปัตย์ อยู่บ้างแต่นักการเมืองค่ายแม่พระธรณีมวยผมจะหวัง “บุญเก่า”คงไม่พอ....ค่าย “เพื่อไทย”สายสีแดงไม่ต้องพูดถึง “อำนาจรัฐ”ล็อกหลายชั้น ทั้ง “บนดิน -ใต้ดิน” ทุกสีไม่เว้น “สีเทา”บ่อนเล็ก บ่อนใหญ่ บ่อน ส.สมหมาย ตู้ปลา ตู้ม้า ไฮโลว์-โปปั่น ที่เคยเป็นท่อน้ำเลี้ยงสีโน่น-นี่-นั่นทุกสาย - ทุกสี ต้องพับเพียบ-เรียบร้อย ถูกจัดระเบียบกันหมด....อีกภาพหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือความเป็น “พี่ใหญ่”เหนือเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ “อัศวิน ขวัญเมือง”ยังเป็นบิ๊กเบิ้มที่น้องๆวงการสีกากีให้การยอมรับ...... ไม่เชื่อใครเจอหน้า “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ลองถามท่านดู......
00000.....”ข่าวเน่า” ยุคสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. อันถือเป็น “ยุคทอง”เรื่องผลงานแต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้.....เก้าอี้ ผกก.-สารวัตร ประจำด่านชายแดน เฉพาะตะเข็บที่มีบ่อนพนันกลายเป็นเก้าอี้ “ทองคำ”ซื้อ-ขาย กัน 8 หลัก ด่านสระแก้ว โรงเกลือติดชายแดนเพื่อนบ้าน ซึ่งรู้กันดีว่ามีบ่อนกาสิโน “วงใน”ลือกันให้แซ่ดจาก 10 ล้านเป็น 20 ล้านไม่รู้ใครเป็นคนซื้อ-คนขาย ด่านแม่สอด จ.ตาก ด่านผักกาด จ.จันทบุรี ด่านแม่สาย จ.เชียงราย และทุกด่านกลายเป็นแหล่งผลประโยชน์บริการ “ผีพนัน”แบบสะใจ-ถึงใจ ยิ่งกว่า “สะดวกซื้อ” 7-11 “อยากเสี่ยงโชคเมื่อไหร่ให้นึกถึงด่าน ตม.” 24 ชั่วโมงทั้งเดินเท้า-นั่งเรือ-นั่งรถ จะมีบัตรประชาชนหรือไม่มีขอให้ “มีตังค์”เป็นใช้ได้....เฉพาะด่านแ ม่สอด บ่อนพนันขนาดใหญ่ที่คนไทยหลายจังหวัดภาคเหนือตอนต้นต้องฉิบหาย-ขายตน พิษณุโลก-พิจิตร-อุตรดิตถ์-กำแพงเพชร-สุโขทัย-เพชรบูรณ์ แห่กันไปใช้บริการมืดฟ้ามัวดินทุกวัน.....ตำรวจภาค 6 นำโดย “รองต๊ะ”ประสาน ตม.ทำมาหากินกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ถ้าผู้มีอำนาจแห่งซอยสวนพลู ไม่รู้เห็น-เป็นใจจะเป็นงี้หรือ....เขียนเตือนท่าน “ณัฐธร”ด้วยรักและห่วงใย“ผลงาน”ที่เคยทำอาจ “ติดลบ”เพราะใช้คนไม่ถูกงาน !!??
00000.....นี่ก็ข่าวเก่าจากสัปดาห์ก่อน....กรณีตำรวจใหม่ไร้ที่อยู่ร้องเรียนเรื่องแฟลตที่พักส่วนกลางโดยเฉพาะแฟลตตำรวจอุดมสุข หรือรามคำแหง 2 ซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล สตช. “บิ๊กเกรียน”ขอร้องเรียน “สื่อตรง”ไปยังท่านนายกรัฐมนตรี....ข้อเท็จจริงบางประการที่ควรทราบคือแนวคิดที่ให้แฟลตตำรวจสร้างอยู่หลังโรงพัก หรือสถานีตำรวจต่างๆนั้น คือ "ความเพี้ยน”ที่ยึดเป็นแนวปฏิบัติกันมาช้านาน...ตำรวจชั้นผู้ใหญ่โดยเฉพาะระดับบริหารมักอ้างว่าเพื่อความสะดวก-รวดเร็วในการระดมพลหรือเข้าเวรยาม เพราะเป็นภารกิจพิเศษ แต่ในความเป็นจริงนี่คือ “ปัญหา”ซ้อน “ปัญหา”เพราะรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยต้องใช้งบประมาณมหาศาลมาใช้ในการนี้...”ความจริง”ตำรวจส่วนใหญ่มีบ้านพักเป็นของตัวเองแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าตำรวจใหม่หรือตำรวจเก่า อาจจะมีบางรายที่ไม่มีแต่ขอย้ำว่า “ส่วนใหญ่”มีบ้านพักกันหมด...ปัญหาที่แท้จริงคือการเกลี่ย หรือจัดกำลังพลเช่นให้คนอยู่ภาคอีสานไกปรับราชการภาคใต้ หรือ กทม. คนอยู่ภาคใต้ให้ไปรับราชการภาคเหนือ เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องแก้ไขในเรื่องการจัดกำลังพลเป็นอันดับแรก....การแก้ไขปัญหาที่พักอาศัยของตำรวจต่อไปคือต้องมีการตรวจสอบข้าราชการตำรวจที่ยื่นของ “ใช้สิทธิ์-ใช้แฟลต”แบบรีแซท “ใหม่หมด”.....หลักคือผู้ขอใช้สิทธิ์พักอาศัยอยู่จริงหรือไม่ หรือแอบให้กิ๊กอยู่-เมียน้อยอยู่-ให้พี่น้องอยู่-ให้ชาวบ้านเช่า(เก็บเงินเข้ากระเป๋า-กรณีตำรวจถูกไล่ออกแต่ดื้อด้าน และอีกสารพัด.....กองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ...ไล่เบี้ยกันทุกแฟลต ไม่ว่าจะเป็นแฟลตส่วนกลางอุดมสุข ที่มีการร้องเรียนมากที่สุดและที่อื่นๆ ถ้าไม่แก้ไขในแนวนี้ “คำตอบ”สุดท้ายก็คือท่านผู้มีอำนาจต้องการผลาญงบประมาณแผ่นดิน...หรือไม่เช่นนั้นก็คือหย่อนยานประสิทธิภาพ-ปล่อยปละละเลย.... พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.สก. ไม่ทำอะไรปล่อยให้ตำรวจเห็นแก่ตัวบางคน “ยักยอก”ของหลวงแบบนี้ไม่สนุกนะขอรับ!!??
00000.....ตบท้าย...เรื่องแปลกแต่จริง “นิทาน-นินทา”ข้าราชการพลเรือน-ทหาร-ตำรวจ ทุกจังหวัดต้องจัดประชุมเพื่อสนองนโยบายรัฐบาลอย่างเร่งรัดโดยเฉพาะการจัดระเบียบ...หลายจังหวัดตำรวจ “เกาเหลา” ฝ่ายปกครอง “พ่อเมือง”เรียกประชุมตำรวจส่งระดับ รองผบก.ไปรับหน้า...นายอำเภอเรียกประชุม ผกก.ส่งระดับรอง ผกก.หรือสารวัตร ไปรับหน้า... “5555 - หื่อๆๆ” หัวร่อมิออก ร้องให้บ่ได้...”ความจริง”คือฝ่ายตำรวจมักมีปัญหาไม่สามารถสนองความต้องการของสังคมได้...บ่อน-ซ่อง-สถานบริการผิดกฎหมาย ยังมีให้เห็น...ผู้ว่าฯถามไป ผู้การฯแบ๊ะๆๆๆ- นายอำเภอถามไป ผู้กำกับฯแบ๊ะๆๆๆๆ จึงเป็นที่มาของ “นิทาน-นินทา” เจ้านายอยู่ห้อง ลูกน้องเป็นหนังหน้า ให้เป็นขี้ปากหน่วยงานอื่นๆ...ว่าด้วยใจเป็นธรรม หลายจังหวัดตำรวจดีๆก็มีแต่ “ดีน้อย”ส่วนใหญ่มีปัญหา ทั้งเรื่องตั้งด่าน ปรับจริง ปรับไถ ปรับเอาเปอร์เซ็นส่วนแบ่ง ไม่เว้นพวกรีดไถจับลิขสิทธิ์ อย่าว่าคนไทยเหม็นขี้หน้าเลย “พม่า-เขมร-ลาว-เวียตนาม”ไม่ใช่แค่เหม็นขี้หน้า แต่เกลียดกลัวยิ่งกว่า “ขี้” เพราะมีบัตรก็ไถ ไม่มีก็ไถ....เข้าใจ-เห็นใจ “บิ๊กแป๊ะ”วันตำรวจฯที่ผ่านอุตส่าห์ขอความเห็นใจพี่น้องประชาชนอย่าเกลียดตำรวจ แต่ดูจากสังคมออนไลน์ ทั้งคลิปด่า -คลิปจับผิด เกิดขึ้นถี่ยิบ ปรากฏการณ์แบบนี้สงสัย “เอาไม่อยู่” หนทางรอดแสน “ริบหรี่”แต่พอมีแสงสว่างปลายอุโมงค์หากการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพัน”ให้โอกาสคนดี-มีฝีมือลงบริหารพื้นที่สำคัญ....แต่ที่สุดหนีไม่พ้นความจริง...ไงตำรวจก็ต้องปฏิรูปเพราะ “มันตัน -มันไปไม่ไหว” “แป๊ะ 10 ทิศ” ต่อให้มี 10 หน้า 10 หัว 10 มือ 10 เท้า ถ้ารอบตัว ยังเป็นแบบนี้....หรือในบรรยากาศอย่างนี้-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังทำแค่ขัดส้วม หาที่จอดรถแล้วมาคุยว่านี่คือการปฏิรูปทั้งที่จริงคือการ “ปฏิลวง-ถ่วงเวลา” ก็คงต้องเหนื่อยกันอีกนานแสนนาน