พ.ต.อ.พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ 700 คน “ว่างจัด” กลายเป็นนักขายตรงระดับเพชร-พลอย หลัง “ยุบแท่ง”พนักงานสอบสวน / จับตาข่าวก่อวินาศกรรม กทม. “คาร์บอมส์” ฮอนด้าAccord -มิซูฯไททัน พาหนะมฤตยู “ของจริง”หรือแค่ “กลบข่าว”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในวันนี้ ขอแสดงความชื่นชมกับทุกๆคนที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ สำเร็จการศึกษาทุกคนกำลังจะได้เข้ารับราชการเป็นตำรวจ คงจะทราบหน้าที่และความรับผิดชอบของตนแล้วว่าคือการปราบปรามผู้กระทำความผิด และรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย เพื่อป้องกันคุ้มครองประชาชนและสังคมประเทศชาติให้บังเกิดความร่มเย็นสงบสุข
ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าจึงขอฝากข้อเตือนใจแก่ทุกคนว่า การะจะทำงานในหน้าที่ดังกล่าวให้สำเร็จผลที่ดีนั้น แต่ละคนจำเป็นต้องกระทำตนให้เป็นที่น่าศรัทธาเชื่อถือ ทั้งในด้านความประพฤติและการปฏิบัติเสียก่อน กล่าวคือ ตำรวจต้องระมัดระวังความประพฤติของตน ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูด ให้เหมาะสม ถูกต้อง สุภาพอ่อนโยน และมีความเป็นมิตรไมตรีอยู่เสมอ ทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรงเป็นธรรม ไม่มีอคติ ไม่ลุแก่อำนาจ พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองป้องกันภยันตรายให้แก่ประชาชนทุกคน ด้วยความอดทนเข้มแข็ง และความสุจริต การสร้างความศรัทธาเชื่อถือนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ตำรวจได้รับความร่วมมือและความไว้วางใจจากประชาชน อันจะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ทั้งปวงดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ทุกคนคำนึงถึงข้อนี้ให้มาก แล้วตั้งใจประพฤติตนปฏิบัติงานให้ดี ให้เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของประชาชนทั้งมวลได้อย่างแท้จริง ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้นายตำรวจใหม่ทุกคนและผู้มานร่วมในพิธีนี้ทุกท่าน มีกำลังกายกำลังใจที่สมบูรณ์พร้อม และประสบแต่ความสุขความเจริญโดยทั่วกัน
พระราโชวาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา 2558 ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จังหวัดนครปฐม วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559
00000.....”บิ๊กเกรียน”ขออัญเชิญพระราโชวาทอันสุดประเสริฐ ใส่เกล้าใส่กระหม่อม นรต.จบใหม่และตำรวจไทยทุกคนให้น้อมรับเป็นแนวทางไปปฏิบัติ...ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลและทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาแม้ตำรวจไทยทำได้เพียงครึ่งหนึ่งก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมอย่างมหาศาลแล้ว...ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
00000.....บรรยากาศปลายฝนต้นหนาวอีกไม่กี่วันจะเข้าเทศกาลออกพรรษา ตามด้วยลอยกระทง แต่ “หนาวนี้”คนไทยทำท่าจะ “หนาวแน่”เพราะภัยก่อการร้ายคุกคาม...เปล่า!!?? กระผมนาย “บิ๊กเกรียน”มิได้ตีฆ้องร้องป่าวเอง คนที่ออกมาให้ข่าวคือ “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง...ระบุชัดเจนได้ข้อมูลจากนายพอล โฟลีย์ เอกอัคราชฑูตด้านต่อต้านการก่อการร้ายสหพันธ์ออสเตรเลีย....ตำรวจไทยเตรียมพร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยเป็นหูเป็นตา....เป้าหมาย 3 จุดใหญ่ ....กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลช่วงระหว่างวันที่ 25 -30 ตุลาคม นี้ความเข้มระดับ “สีแดง”สถานที่ “ล่อแหลม”แบ่งเป็น 3 ส่วนคือแหล่งการค้า-เศรษฐกิจและท่องเที่ยว สถานที่ราชการสำคัญ กับสถานที่อันเป็นสัญญาลักษณ์.....”ออกข่าว”ตื่นกันทั้งเมืองมีทั้ง “บวก-ลบ” ด้านดีคือคนไทยหลายล้านทำหน้าที่ “พลเมืองดี”ช่วยกันสอดส่อง...เห็นอะไรผิดสังเกตแจ้งตำรวจทันที...ข้อมูลสำคัญรถกระบะสีดำตอนเดียว ยี่ห้อมิซูฯรุ่นไทรทัน ทะเบียน บต.ยะลา 3597....คันที่สองรถเก๋งฮอนด้า Accord สีดำ ทะเบียน วฐ 1563 กทม. อื่ม...แล้วอย่าลืมอีกด้านนะท่าน..ร้องป่าวซะขนาดนี้บรรยากาศท่องเที่ยวดูไม่จืดแน่..ทั้งไทย-เทศ ถ้ากระเพาะมันหิว “อันตราย”อาจจะมากกว่า “คาร์บอมบ์”ก็เป็นได้นะจ๊ะ จะบอกให้!!??
00000.....ตำรวจน้อยใหญ่ระดมสรรพกำลังกันเต็มที่ ทั้งนครบาล สอบสวนกลาง สำนักตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการภาค 1-2-7 กลายเป็น “ข่าวใหญ่”กลบ “เที่ยวบินปู่ป้อม-ฮาวาย”จนแทบมิด....ประสบการณ์-ทางข่าว จับทิศทางลมได้ว่า “จริง หรือโม้”ไม่ประมาทไว้ดีที่สุด...ลงทุนขนาดนี้ถ้าไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ไม่ว่ากันเพราะ “ความมั่นคง”ของชาติก็คือความมั่นคงของเรา....ว่าแต่ว่าหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งศาลท่านท้าวมหาพรหมเอราวัณ หรือกรณี 7 จังหวัดท่องเที่ยวภาคใต้ระหว่างวันที่ 11 -12 ส.ค.ที่ผ่านมา วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา “บิ๊กปู”ยังโชว์ฟอร์มไม่เข้าตานัก....ก็เข้าใจว่าคดีแบบนี้มันไม่ง่าย....แต่ปัญหาของท่านรองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง อยู่ตรงไหน....อยู่ตรงที่ “ความร่วมมือ”ของลูกน้องหรือเปล่า....ประสา “คนหาข่าว” ได้ยินจากปากผู้หลักผู้ใหญ่ “ทำไม”กระแสว่าที่ ผบ.ตร.คนต่อจาก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อาจไม่ใช่ “ปู”แต่จะเป็น “สายตรง” (อีกคน) รหัส นรต.33....”จุดอ่อน”ต้องรีบกำจัดคือ “พระเดช”ที่ล้นกว่า “พระคุณ” ข้อดี “ถึงลูกถึงคน”อาจกลายเป็น “ข้อเสีย”เพราะคนมีอำนาจเกรงว่าจะ “เอาไม่อยู่”....ได้ยินมาแบบนี้ถ่ายทอดกันชัดๆด้วยเกรงว่าการทุ่มเททั้งกายทั้งใจทีผ่านมาอาจจะ “เหนื่อยฟรี”
00000.....มาข่าวฮา(ไม่ออก)ที่ยังไม่อยากให้ตกกระแส....”แฟชั่น”อาบน้ำ “ปลักควาย”กลางถนนยังฮิตไม่เลิก....ขนาดนายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ฉุนขาด”ฉะนักข่าว “คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า”เพราะ “ริอ่าน”เผยแพร่-เสนอข่าวออกไปทั่วโลก....”บิ๊กเกรียน” เขยบ้านนอก ออกชนบทบ่อยๆ อยากกราบเรียนให้นายกฯลุงตู่ ใจเย็นๆเพราะ “เรื่องจริง”มันเป็นอย่างที่ท่านเห็นนั่นแหละ....ว่าไปนี่แค่ “หนังตัวอย่าง” ของแท้ทั่วประเทศอย่าแค่นายกฯลุงตู่ “ขู่”จะปล่อย “ให้เละ”แต่อาจ “เป็นลม”คาเก้าอี้...เฮ้ย!!?? มันเนแบบนี้ได้ยังไง.....บ้านเมืองเรามีทั้งถนนหลัก ถนนรอง ถนนซอย ถนนซอก ถนนลูกรัง ถนนโลกพระจันทร์ “ยัน”ดาวอังคาร....ถนนแทบทุกสาย ผู้รับเหมากับคนจ้าง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยไหน อบต. อบจ. หรือหน่วยงานราชการ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ “แ - ก”กันทั้งนั้น.....สร้างเสร็จแล้วทิ้ง เหมือน “ไอ้ตูบ”ขี้แล้วก็ไป.....ชาวบ้านหน้าบานไม่กี่วัน “ถนนพัง”เพราะมันไม่ได้สเปก.....ถนนดีๆกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ จากเดือนเป็นปี จากปีเป็นหลายปี แจ้งอบต. ท่านบอกว่าไม่มีงบ แจ้งไปจังหวัดท่าน “เงียบ”ไม่มีใครไปซ่อม....แล้วใครเดือดร้อนถ้าไม่ใช่ชาวบ้านจะให้เขาทำกันยังไง....ท่านนายกฯลุงตู่ ควรรู้อีกว่าสาเหตุถนนพังไม่เพียงขบวนการทุจริตของการก่อสร้างเท่านั้นแต่ยังมีพฤติการณ์ของตำรวจหลายหน่วย-หลายคน ที่มีผลประโยชน์กับบรรดารถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฏหมายกำหนด หรือ”แก๊งส่วย-สติ๊กเกอร์”....ท่านต้องไป “ว๊าก”ไป “โวย”กับไอ้พวกนั้น ไม่ใช่ “จวก”นักข่าวหรือแม้แต่ชาวบ้านที่เขาไม่รู้จะหาทางออกให้กับชีวิตอย่างไร....ไม่ซ่อม...ไม่ทำ...ไม่รับผิดชอบ...ก็ประจานกันไปแบบนี้แหละ!!??
00000....ข้อมูลร้องเรียนผ่านไปยัง ผบ.ตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง....เรื่องแรกตำรวจใหม่ไม่มีที่ซุกหัวนอนให้ข้อมูลมาว่าได้บรรจุในสถานีตำรวจนครบาล แห่งหนึ่งและเคยยืนเรื่องต่อกองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล เพื่อขอแฟลตที่พักแต่ปรากฏว่าจนป่านนี้ผ่านไปปีกว่าแล้วยังไม่ได้รับคำตอบ....ข้อมูล “ตำรวจใหม่ไม่มีที่ซุกหัวนอน”น่าสนใจมาก....เขาระบุว่าแฟลตตำรวจต่างๆใน กทม.หากนับจำนวนห้องจริงๆน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นห้อง แม้จะยังไม่พอต่อความต้องการแต่น่าจะหมุนเวียนเนื่องจากมีตำรวจเกษียณอายุฯกันอยู่ทุกปี รวมทั้งตำรวจที่มีความสามารถไปซื้อบ้านเอกชนเป็นต้น....คราวนี้มาดูสาเหตุทำไมแฟลตที่พักจึงเต็มตลอด เหตุผลคือ 1.มีการ “กั๊ก”ใช้สิทธิ์ทั้งๆที่ “หมดสิทธิ์” เช่นมีบ้านอยู่แล้วแต่ยังเห็นแก่ตัวยื่นหลักฐานเท็จ -บางกรณีเคยอยู่แฟลตแต่พอไปซื้อบ้านเกิดเสียดายไม่ยอมย้ายออกเป็นต้น 2.จากเหตุผลข้อที่ 1. ตำรวจบางนายเปิดให้คนนอกเข้าเช่าเก็บเงินเป็นรายเดือน(แฟลตส่วนกลางอุดมสุข) 3.มีตำรวจที่ทำผิดร้ายแรงโดนปลดออก ไล่ออก แต่ยังดื้อแพ่งไม่ยอมย้าย(แฟลตส่วนกลางอุดมสุข) 4.ผู้รับผิดชอบแฟลตต่างๆหย่อนยานความสามารถ และมีพฤติการณ์ร่วมแสวงหาประโยชน์ จึงเป็นที่มาของความเดือดร้อน “ตำรวจใหม่”ไม่สามารถเข้าไปพักอาศัยได้....”บิ๊กเกรียน”ฝากนำข้อมูลเหล่านี้เสนอต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนให้กับตำรวจใหม่ และสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้อง..ขอรับกระผม
00000.....นี่ก็เรื่องใหญ่แต่ไม่เคยเป็นข่าว.....ข้อมูลจากตำรวจฝ่ายธุรการฟ้องมาที่ “บิ๊กเกรียน”ว่ามีขบวนการเบิกเงินล่วงเวลาเท็จ “กินงบหลวง”ปีหนึ่งๆนับพันล้านบาทมาเป็นเวลานานแล้วโดยไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ จึงอยากให้กระพ๊มนำเสนอผ่านไปยังท่านนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ให้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเชิงรุก อย่างจริงจังเพราะการทำงานแค่ตรวจเอกสารนั้นท่านไม่มีทางรู้ได้เลยว่า “ของจริง”เขาทำกันอย่างไร เขาแหกตาท่าน กินเงินหลวง ฟาดเงินแผ่นดินกันต่อเนื่องยาวนานมานับสิบปีนั้นเขาทำกันอย่างไร....ข้อสังเกตแรกให้ดูจากบัญชีเบิกตำรวจฝ่ายธุรการจะมีเงินค่าโอที.หรือล่วงเวลาตกเดือนละ 3-4 พันบาททุกคน โดยหลักการจะต้องทำงานตั้งแต่ 17.00 น.จนถึง 20.00 น. ทั้งในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการ -กองบังคับการ....แต่ท่านลองโผล่ไปดูที่ไหนก็ได้...ข้อเท็จจริงคือ 4 โมงเย็นเริ่มทยอยกลับ พอ 6 โมงเผ่นแน่บไม่มีเหลือนอกจาก รปภ.หรือเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน..... 1 ทุ่มหลายอาคารปิดไฟมืด มีเพียงบางส่วนที่จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาจริงๆแต่ไม่ใช่ทั้งหมด.....ชี้โพรงให้กระรอกขนาดนี้ คุณพี่พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง....หยิบเรื่องนี้ให้เป็นผลงานสักเรื่องจะได้ไหม!!??
00000.....บาปเคราะห์ผลงาน “ยุบแท่ง”สอบสวนยังไม่หมด....700 พ.ต.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ อันเสมือน “เสี้ยน”ตำหัวใจ ผกก.โรงพัก ต้องกลายเป็นสัมภเวสี ล่องลอยไปตามกองบัญชาการ โดยไม่มีที่สิงสถิต....บ่องตง “บิ๊กเกรียน”เสียดายคุณค่า...ฟาดเงินเดือนฟรีๆ 5-6 หมื่นแทนที่จะลงมาช่วยน้องๆตามสถานีตำรวจแต่ “ผู้บังคับบัญชา”จับยัดให้อยู่ประจำกองบัญชาการ วันๆไม่มี “ห่าน”อะไรให้ทำ....ทำ “วิกฤติให้เป็นโอกาส”ตอนนี้ท่านผู้ทรงคุณวุฒิ บางคนกลายเป็นนักขายตรงระดับเพชร ระดับพลอย บางคนขายประกัน เอากันให้มันไปข้าง...บ้าก็บ้าวะยุค “คนดี”แต่คิดผิดปกติ...สงสารก็แต่พนักงานสอบสวนประจำสถานี...งานท่วมหัว ต้องสนองนโยบายผู้มีอำนาจ บ้าบอคอแตก ขัดส้วม จัดที่จอดรถ ร้อยเวรปฏิบัติหน้าที่ 2 คนต่อผลัด ส่วนใหญ่ “นอนแฝด”เพราะหลายท้องที่ทั้งปีทั้งชาติไม่เคยมีคดี....วิกฤติต่อไปคือหลายคนกำลัง “ถอดใจ” ยังไงอย่าให้กระทบถึงชาวบ้านละกันท่านนายกฯลุงตู่- ผู้รู้ “ทุกเรื่อง”แต่ไม่เคยรู้อะไรจริงในเรื่องตำรวจเลย