MGR Online - กลุ่มสมาชิกขายตรงเครื่องสำอางฯ แจ้งความกองปราบฯ จับหนุ่มวัย 31 ปี ข้อหาฉ้อโกงประชาชน เก็บค่าตั๋วเครื่องบินและค่าทำวีซ่าหัวละ 4 หมื่น ไปสหรัฐอเมริกาก่อนโดนเท เชิดเงินหนีกว่า 7 ล้านบาท
วันนี้ (6 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. นายสมบูรณ์ เจริญสุข อายุ 50 ปี ชาว จ.พะเยา พร้อมด้วยกลุ่มสมาชิกขายตรงเครื่องสำอางบริษัทหนึ่งจำนวน 88 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายเศรษฐพิชชญ์ สุนทราวาส อายุ 31 ปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังถูกหลอกให้จ่ายเงินค่าดำเนินการจัดทำวีซ่าและค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปยังเมืองออร์แลนโด (Orlando) รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 7 ล้านบาท
นายสมบูรณ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนและกลุ่มสมาชิกตัวแทนขายตรงเครื่องสำอางของบริษัทแห่งหนึ่งสาขาประเทศไทย จำนวน 115 คน มีกำหนดเดินทางไปร่วมงานสัมมนาหารือกับกลุ่มตัวแทนสมาชิกขายตรงเครื่องสำอางบริษัทดังกล่าวที่มาจากทั่วโลกซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 4-14 ต.ค. ที่เมืองออร์แลนโด สหรัฐอเมริกา แต่ระหว่างนั้นนายเศรษฐพิชชญ์ซึ่งรู้จักกับสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มได้ติดต่อเข้ามาขอเป็นผู้รับดำเนินการจัดซื้อตั๋วเดินทางให้สมาชิกทั้งหมด รวมถึงรับจัดทำวีซ่าให้ผู้ที่ยังไม่มีวีซ่า โดยเรียกเก็บค่าดำเนินการคนละ 4 หมื่นบาท กำหนดเดินทางวันที่ 3 ต.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อถึงกำหนดเดินทาง ตนและเพื่อนสมาชิกจำนวนรวม 88 คนกลับไม่สามารถขึ้นเครื่องเดินทางไปยังเมืองออร์แลนโดได้ มีเพียงสมาชิกที่ไม่ได้ให้นายเศรษฐพิชชญ์ทำวีซ่าให้จำนวน 27 คนเท่านั้นที่สามารถขึ้นเครื่องเดินทางไปยังเมืองดังกล่าวได้
นายสมบูรณ์กล่าวต่อว่า เมื่อสอบถามไปยังนายเศรษฐพิชชญ์ กลับอ้างว่ามีสมาชิกบางรายติดปัญหาเรื่องวีซ่า ตนและกลุ่มสมาชิกรายอื่นจึงช่วยกันตรวจสอบจนทราบว่านายเศรษฐพิชชญ์นั้นไม่ได้มีการดำเนินการขอวีซ่าให้แก่พวกตนแต่อย่างใด มีเจตนาเข้าข่ายการฉ้อโกง พวกตนจึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังนายเศรษฐพิชชญ์อีกครั้งก่อนจะนัดแนะให้มาพบเพื่อเจรจาพูดคุยกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวช่วยควบคุมตัว พร้อมกับนำตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีในวันนี้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รับเรื่องไว้ พร้อมทำการสอบปากคำผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ก่อนจะทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้เสียหาย ผู้ถูกกล่าวหาและแนวทางการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดได้โอนเงินค่าดำเนินการไปให้กับนายณัฏฐพล และนางฐาปนีย์ พงษ์จิรังกาล สองสามีภรรยา ก่อนจะติดต่อผ่านนางศศิธร วรรณมโนมัย แล้วโอนเงินดังกล่าวส่งต่อไปให้กับ นายเศรษฐพิชชญ์ เพื่อนำเงินดังกล่าวไปดำเนินการจัดทำวีซ่าและตั๋วเครื่องบินเดินทางไปยังต่างประเทศดังกล่าว
