xs
xsm
sm
md
lg

กูรูภาครัฐ-เอกชน บูมท่องเที่ยวไทยสู่ฮับโลก ท่องเที่ยวไทยใครๆ ก็อิจฉาประตู่สู่เออีซี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เหล่ากูรูวงการท่องเที่ยวไทยร่วมบูมเมืองไทย ทั้งแหล่งท่องเที่ยว-อาหาร-ไอที-โลคอล เอ็กซ์พีเรียน-ท่องเที่ยวชุมชน-ไมซ์ และท่องเที่ยวสีเขียว หวังไทยเป็นฮับอาเซียน มั่นใจปีนี้ได้ยอด 33 ล้านคน พร้อมเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอาเซียน “100 ที่เที่ยว-กิน-พัก สุดฟิน” ภายใต้การสนับสนุนของ 26 องค์กร ร่วมชูไทยและอาเซียนสู่ “ฮับท่องเที่ยวโลก”

เมื่อเร็วๆ นี้ค่ายเลิฟสไตล์แฮปปี้ร่วมกับเคทีซี ได้มีการจัดเสวนาส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอาเซียน ในหัวข้อ “ท่องเที่ยวเมืองไทย ใครๆ ก็อิจฉา” โดยนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และประธานคณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทยและรองประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นางดวงกมล จันสุริยวงศ์ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (ตีต้า)

แล้วต่อด้วยหัวข้อการเสวนา “เที่ยวเมืองไทยดี๊ดี ไปเออีซีก็โดนใจ” โดย น.ส.เจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการสายงานการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนักเขียนทั้ง 2 คน คือ น.ส.สาธิตา โสรัสสะ และดร.สุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล โดยมี ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ เป็นผู้ดำเนินรายการทั้ง 2 ช่วง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือยหรือไร้สาระอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต เป็นปัจจัยที่ 5 มีนักท่องเที่ยวออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกปีละ 1.2 พันล้านคน มีการเดินทางท่องเที่ยวข้ามพรมแดนเข้าไทย 30 ล้านคน การที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้องเตรียมตั้งรับในด้านต่างๆ เราพยายามที่จะหันมาดูเรื่องความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวด้วย

นอกจากนี้ยังส่งเสริมในเรื่องของไอที และล่าสุดคือการใช้เกมโปเกมอนโกมาโปรโมตท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเป็นเทรนด์ของการใช้สมาร์ทโฟนและดิจิตอล ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ส่งทีมไปพูดคุยกับลิขสิทธิ์ว่ามีหนทางใดจะสามารถนำสถานที่ท่องเที่ยวใส่เข้าไปในเกม ขณะเดียวกัน กระทรวงจะมีการเปิดตัวโครงการดิจิตอล ทัวริซึ่ม และร่วมวางแผนการท่องเที่ยวผ่านเว็บอะเมซิ่งไทยแลนด์ของ ททท. เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ความต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นรายบุคคลได้เลย

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และประธานคณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กล่าวว่า เมืองไทยน่าอิจฉา เพราะมีที่เที่ยวครบทุกรสชาติ ในบทบาทของตัวเองที่ดูแลทั้ง 2 หน่วยงานนั้น สำหรับที่อพท. เมื่อเที่ยวแล้ว ต้องส่งเสริมชุมชนชาวบ้านให้ได้ประโยชน์ด้วย ขณะนี้คนชั้นกลางจะออกท่องเที่ยวจำนวนมาก ต้องไปสัมผัสเสน่ห์ของการท่องเที่ยวแบบชุมชน ส่งเสริมมีรายได้และความภาคภูมิใจ ส่วนของ อพท.เราใช้ไบเบิลใหม่ คือ เราต้องการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนเรามีตัวชี้วัดต่างๆ มีต้นแบบจากโมเดลชุมชนพื้นที่พิเศษต่างๆ

สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มประชุมหรือไมซ์ แม้ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเต็มตัวนัก แต่เขาสามารถแปลงกายเป็นนักท่องเที่ยวเอง เพราะเมื่อประชุมเสร็จ เขาจะออกไปเที่ยวใช้เงิน จึงใช้เงินมากกว่านักเดินทางทั่วไป 3 เท่า ปีที่แล้วมีกลุ่มนี้มาไทย 1 ล้านคน ใช้จ่าย 1 แสนล้าน เราอยากให้สูงกว่านี้อีก จึงได้นำเสนอแพกเกจใหม่ของ สสปน.คือ ให้บัตรโดยสารของรถไฟฟ้า และให้ Free Wi-Fi ไปใช้นอกอาคารด้วย ซึ่งปกติผู้มาประชุมจะได้ใช้ Wi-Fi ฟรีจากโรงแรมที่ประชุมอยู่แล้ว แต่เราได้จัดให้คอนเนกต์ต่อไปนอกตึกซึ่งกลุ่มนี้จะส่งภาพถ่ายหรือข้อมูลไปยังระดับเอ็กเซ็กคิวทีฟที่มีกำลังซื้อสูง ไม่ใช่แค่ถ่ายห้องประชุม แต่ส่งภาพท่องเที่ยวไปด้วย ส่วนที่ 2 คือ มีบัตรของรถไฟฟ้าไม่ใช่ใช้แค่ที่โรงแรมและศูนย์ประชุม แต่ได้ไปเที่ยวที่อื่นๆ ด้วย

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เที่ยวเมืองไทยน่าอิจฉาจริงๆ ใครก็อยากมาไทย ยุคสมัยนี้นับได้ว่าเป็นยุคทองของการท่องเที่ยวไทย ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ด้านท่องเที่ยวทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ททท. สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ชุมชน เอกชน มารวมตัวเป็นประชารัฐ เป็นการสามัคคีสร้างพลังเข้มแข็ง นักท่องเที่ยวยังนิยมสัมผัสประสบการณ์โลคัลเอ็กซ์พีเรียนซ์ เช่นตัวอย่างในเกาะหมาก เป็นเกาะเล็กแต่น่าเที่ยวน่าไปสัมผัส และสำหรับแผนของ ททท.ในปี 60 ททท.ก็จะจับตลาดต่างๆ ตามเซกเมนต์ เช่น กลุ่มผู้หญิง ครอบครัว เจนวาย ผู้สูงวัยที่รักการท่องเที่ยวเป็นต้น

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ตอนนี้อาจจะเรียกได้ว่าเครื่องยนต์ที่ติดและขับเคลื่อนประเทศคือเรื่องท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบโลคัลเอ็กซ์พีเรียนซ์ และท่องเที่ยววิถีไทยที่เป็นรากเหง้า ดึงให้นักท่องเที่ยวมาไทยเพื่อสัมผัสวิถีไทย

ตอนนี้ทุกภาคส่วนด้านท่องเที่ยวทำงานกันหนักทุกเซกเตอร์ อาจมีปัญหาอุปสรรคบ้างแต่น้อยมาก ภาคประชารัฐด้านท่องเที่ยวและอาหาร เราเน้นให้กระจายไปชุมชนมากๆ สิ้น ก.ค.เรามีนักท่องเที่ยว 19.7 ล้านคน มีเวลาอีก 5 เดือนจะสามารถทำตัวเลขได้ 33 ล้านคนแน่นอน ถือว่ามีทิศทางดีมาก อยากให้นักท่องเที่ยวไปกินอาหารและผลไม้ไทยให้มากๆ ปีนี้ทุเรียนตก กก.ละ160 บาท ยังไม่เคยเห็นทุเรียนราคาเท่านี้มาก่อน เมื่อก่อน กก.ละ 40 บาท เราอยากให้เงาะ มังคุด ลองกองมีราคามากขึ้น เกษตรกรและชุมชนมีรายได้มากขึ้น

ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทยคือชาวจีนมาไทยเยอะมาก อีก 5 ปีข้างหน้าจะยังเป็นอันดับ 1 ครองตลาดต่อไป เขามีประชากร 1,400 ล้าน แต่การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนก็เป็นผลดี และใน 5 ปี เรากำลังทำเรื่องยุทธศาสตร์โดยมีเป้าหมายให้ไทยเป็นพี่เบิ้มในอาเซียนให้ได้ อาเซียนเป็นอีกส่วนที่ทำให้เราเกิดความมั่นคงได้ โดยมีคู่แข่งสมน้ำสมเนื้ออย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ รวมถึงชาติที่มาแรงเช่นเวียดนาม มีตัวอย่างคือเมืองดานัง และมุยเน่ ที่มาแรงเช่นกัน หรือแม้แต่พม่า แต่ผมเชื่อว่าเรามีดี เราพัฒนาภาคท่องเที่ยวไปอย่างไม่หยุดยั้ง แอตต้าตั้งมา 48 ปี เราคาดว่ามีนักท่องเที่ยวผ่านแอตต้าปีนี้ 7 ล้านคน การที่เรามีคู่แข่งก็ดีเราจะได้พัฒนาไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบลักชัวรี่ให้ได้ ในอีก 5 ปีเราจะเป็นหนึ่งในอาเซียนให้ได้

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทยและรองประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า ตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในปี 58 เรายังมีรายได้การใช้จ่ายจากภาคอาหารไม่สูงนักคือเฉลี่ยวันละ 400 บาท อยากให้หาทางเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เราอยากส่งเสริมให้อาหารไทยมีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน ตัวอย่างเช่นการส่งเสริมเรื่องฟูดฟอร์ฟิวเจอร์ คือ อาหารเชิงสุขภาพ เพื่อแข่งกับญี่ปุ่น เวียดนาม ซึ่งอาหารไทยเป็นอาหารสุขภาพอยู่แล้ว เฉลี่ยนักท่องเที่ยวมา 10 วัน สามารถกินอาหารไทยไม่ซ้ำเมนูได้ การมีทีมอะเมซิ่ง ไทย เทสต์ เพื่อโปรโมตอาหาร ข้าว ผลไม้ไทยจะช่วยส่งเสริมให้รายได้ต่อหัวนักท่องเที่ยวสูงกว่านี้ และทำให้ร้านอาหารไทยได้อานิสงส์ในการโปรโมท ทำให้อาหารของเราเป็นที่รู้จัก เช่น ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน มัสมั่น ต้มข่าไก่ ผัดไทย

นางดวงกมล จันสุริยวงศ์ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (ตีต้า) กล่าวว่า เที่ยวเมืองไทยน่าอิจฉามากโดยเฉพาะหากไปเที่ยวกับตีต้า เพราะเราเป็นสมาคมที่ไม่ใช่เน้นแค่เที่ยว แต่ทำประโยชน์ให้ท้องถิ่นนั้นด้วย เช่นไปบ้านไร่กองขิง ที่เชียงใหม่ เราก็จัดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ไปทำกิจกรรมให้ชุมชนด้วย หรือสอนทำลูกประคบ ไปช่วยทำแนวกันไฟ หรือที่กุยบุรี ประจวบฯ เราไม่ใช่แค่ไปเที่ยวดูช้างป่า แต่ในภาวะ 2 ปีนี้ที่ไทยแล้งหนัก สัตว์ป่าได้รับผลกระทบ ปรากฏว่านักท่องเที่ยวก็ไปช่วยทำกระทะน้ำ สต๊อกน้ำให้สัตว์ มาทำประโยชน์ให้ประเทศไทย ทุกคนเมื่อมาทัวร์พูดว่าจะกลับมาอีก ลักษณะการท่องเที่ยวของเรามีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจถึงชุมชนแน่นอน

อีกตัวอย่างคือการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เช่นที่เกาะหมาก ซึ่งตีต้าร่วมกับ อพท.พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ทุกโปรแกรมทำกิจกรรมกับทุกชุมชน พวกเราเน้นบนเส้นทางทุกซัปพลายเออร์ จะเน้นโลว์คาร์บอน ประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานทางเลือก ร้านอาหาร ชุมชน ตื่นตัวกันมาก กระแสโลว์คาร์บอนเพิ่มขึ้นสูงมาก รวมไปถึงการท่องเที่ยวสีเขียว ตีต้าได้พัฒนามาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เรามีอีโคทัวร์ไกด์ ชุมชนสีเขียว ร้านอาหารสีเขียว เป็นต้น

น.ส.เจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการสายงานการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าวว่า เราเป็นแบรนด์บัตรเครดิต แต่เราแข็งแรงด้านท่องเที่ยวนานแล้ว คอนเทนท์คือทำให้ลูกค้ามีความภักดี คือความเป็นบัตรเองเรามีฐานลูกค้า 2.5 ล้านคน เรามีกิจกรรมต่อเนื่อง ช่วยต่อยอดเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ให้ไปถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงที่สุด และเรามีความภูมิใจที่ได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไปยังเซคเตอร์โรงแรมขนาดกลางและเล็ก เราจัดประกวดสุดยอดโรงแรมบูติค ไทยแลนด์ บูติค อวอร์ดส มา 4 ซีซันส์แล้ว ล่าสุดเราได้คว้ารางวัลพาต้า โกลด์ อวอร์ดส เคทีซีทำให้โรงแรมเหล่านี้ได้ต่อยอดในเชิงธุรกิจได้ชัดเจน

นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นสิ่งสำคัญมากของจังหวัดกาญจนบุรี เรามีพื้นที่ 12 ล้านไร่ มีพื้นที่ป่ามากสุดในไทย เรามีป่า 66 เปอร์เซ็นต์ มีพื้นที่น้ำมากที่สุดมีเขื่อนระดับหมื่นกว่าคิว 2 เขื่อน และระดับพันคิวหลายเขื่อน เรามีพื้นที่ติดต่อชายแดนใกล้ที่สุด ออกจากกทม.เพียง100 กว่ากิโลเมตรก็ติดชายแดนแล้ว มีความหลากหลายของผู้คน มีประชากรคนไทย 8 แสนจากประชากรทั้งจังหวัด 3 ล้านคน และมีพี่น้องติดชายแดน ชาวมอญ กะเหรี่ยง มีประเพณีวัฒนธรรมแปลกๆเหมาะที่จะไปเที่ยวเป็นประตูเชื่อมโยงสู่เออีซีรายได้ของกาญจนบุรี เรามีรายได้รวม 8 หมื่นล้าน เป็นกำไรเข้าสู่ธุรกิจและชุมชน 2 หมื่นล้าน รายได้จากการท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ภายในงานมีการเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอาเซียน “100 ที่เที่ยว-กิน-พัก สุดฟิน” ภายใต้การสนับสนุนของ 26 องค์กร ร่วมชูไทยและอาเซียนสู่ “ฮับท่องเที่ยวโลก” จัดทำโดย 2 สื่อมวลชนผู้มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี เป็นพ็อกเกตบุ๊กเล่มที่ 26 ของทางค่ายเลิฟสไตล์ แฮปปี้

น.ส.สาธิตา โสรัสสะ บรรณาธิการหนังสือและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ณัฐสุรงค์ จำกัด ผู้บริหารค่ายเลิฟสไตล์ แฮปปี้ กล่าวว่า การจัดทำหนังสือดังกล่าวนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอาเซียน โดยรวมสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และที่พักจำนวน 100 แห่ง ที่น่าสนใจของเหล่านักเดินทาง เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวภูมิภาคนี้ที่ถือว่ามีอัตราการเติบโตมากของโลก โดยร่วมกับ ดร.สุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ จัดทำหนังสือเล่มนี้ขึ้น ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นสื่อมวลชนที่อยู่ในวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจยาวนานกว่า 30 ปี

“เราได้ใช้เวลาเลือกเฟ้นสถานที่น่าท่องเที่ยวจากประสบการณ์การเดินทางจากทั่วไทยและอาเซียน เพื่อตอบโจทย์ให้โดนใจคนชอบเที่ยว โดยเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม บางแห่งแฝงด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และมี Story ชวนเที่ยว พร้อมกันนี้ยังได้ช่างภาพฝีมือดีชาธร โชคภัทระ ร่วมถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยวในหนังสือด้วย”

ในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย 58 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย,14 ร้านอาหารดังทั่วไทยแนะนำโดยหยั่นหว่อหยุ่น และสมาคมภัตตาคารไทย, 10 ที่พักแนะนำโดยไทยแลนด์ บูติค อวอร์ดส, 2 กลุ่มแหล่งท่องเที่ยวแบบซอฟท์ แอดเวนเจอร์โดยเคทีซีและมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ, 8 สวนสัตว์ และ 9 แหล่งท่องเที่ยวจากประเทศอาเซียน

ทั้งนี้ การจัดทำหนังสือได้รับการสนับสนุนจาก 26 องค์กร ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, บริษัท ปตท. จำกัด, เอสซีจี, ทิพยประกันภัย, เอไอเอส, หวั่นหว่อหยุ่น, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ, เอไอเอส, บางกอกแอร์เวย์ส, เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, วิทยุการบิน, ซีพีเอฟ, องค์การสวนสัตว์, อินดิโก้เพิร์ล, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน, เคทีซี, มาสเตอร์การ์ด, ไทยแลนด์ บูติค อวอร์ดส, อาร์ท อินสไปร์, เฮ้ อาเซียน, สมาคมภัตตาคารไทย, สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย, จังหวัดกาญจนบุรี, กล่องทิพย์, มีเดียแอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ, ปั้นคำหอม ขนมไทย

ตัวอย่างของสถานที่เที่ยวยอดนิยม เช่น ปาย วัดภูมินทร์ ดอยอินทนนท์ เขาค้อ ลับแล สามเหลี่ยมทองคำ ทีลอซู เชียงคาน ทะเลบัวแดง มอหินขาว พระธาตุพนม สามพันโบก ภูลมโล วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ ทุ่งทานตะวันลพบุรี สวนผึ้ง หัวหิน สังขละบุรี เกาะสีชัง เกาะเสม็ด เกาะช้าง เขาตาปู ทะเลน้อย ภูเก็ตโอลด์ทาวน์ หลีเป๊ะ เกาะพยาม

ส่วนในอาเซียน ได้แก่ ช็อกโกแลต ฮิลส์และอินทรามูรอส ฟิลิปปินส์, ปีนังและมะละกา มาเลเซีย, บาหลีและงานเทศกาล Carnival ชวาตะวันออก อินโดนีเซีย, ซาปาและฮานอย เวียดนาม, เนปิดอว์และเกาะสองในพม่า, หมู่บ้านลอยน้ำ กำปงไอเยอร์ และพิพิธภัณฑ์กษัตริย์ บรูไน, วัดภูและวังเวียง ลาว, เซนโตซา และสวนพฤกษศาสตร์ การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ สิงคโปร์, นครวัดและพระตะบอง กัมพูชา


กำลังโหลดความคิดเห็น