MGR ONline - นักศึกษาชาวเวียดนาม วัย 24 ปี ถูกจับกุมหลังก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ รับสารภาพก่อเหตุมาแล้วสองครั้ง โทรศัพท์ที่ได้มานำไปขายเอาเงินมาใช้จ่ายชีวิตประจำวัน
วานนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 22.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี่เป็นภาพนาทีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.สุวรรณภูมิ ในการร่วมกันวางแผนจับกุมตัว นาย ฟาม ดัง เขืองไท แอง อายุ 24 ปี ชาวเวียดนาม และเป็นนักศึกษาปี 4 มหาลัยเอกชนชื่อดังย่านบางนา ที่ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือของผู้โดยสารที่วางเสียบสายชาร์จไว้ที่ตู้ชาร์จไฟภายในอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สำหรับการเข้าจับกุม สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 59 เวลา 05.10 น. มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า โทรศัพท์ที่ได้เสียบชาร์จไว้ที่จุดให้บริการชาร์จโทรศัพท์มือถือ บริเวณชั้น 1 ประตู 3 - 4 หาย เมื่อได้รับแจ้ง จนท.ตร.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนท.ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ทอท. ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบชายต้องสงสัยที่ก่อเหตุ จนท.ทสภ. จึงได้ลงพื้นที่ติดตามชายต้องสงสัยดังกล่าว
กระทั่งพบกับผู้ต้องหาที่เดินวนเวียนอยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่จึงวางแผนด้วยการนำเอาโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่วางเสียบสายชาร์จทิ้งไว้ จนกระทั่งเวลา 04.30 น. ของวันที่ 23 ก.ย. 59 ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือซัมซุง เอส 4 สีขาว ของผู้ใช้บริการท่าอากาศยานที่เสียบชาร์จไว้ในจุดให้บริการ จนท.ทสภ. จึงเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ Mr.Pham Dang Vuong Tai อายุ 24 ปี สัญชาติเวียดนาม จึงควบคุมตัวมาที่ สน.สุวรรณภูมิ เพื่อสวบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยความผิดในข้อหา ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี หรือปรับ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยทำมาแล้วสองครั้งในสนามบิน ซึ่งจะนำโทรศัพท์ที่ลักได้ไปขายต่อนำเงินมาไว้ใช้จ่ายประจำวัน ซึ่งตนเองนอกจากจะเป็นนักศึกษาและยังยึดอาชีพครูสอนภาษาพิเศษตามสถานสอนภาษาต่าง ๆ แต่รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมต่อดำเนิคดีตามกฎหมายต่อไป


