xs
xsm
sm
md
lg

แฉ “ขาใหญ่” ภาค 6 เปิดเซฟเฮ้าส์บนเขาค้อ จัดบัญชีสุดพิเศษแต่งตั้ง-โยกย้าย “สะพัด” รองผบก.รุ่นเดียวกับ “นายพลดอกดิน”รับซื้อ-ขายตำแหน่งไม่อั้น “สะกิด”นายกฯลุงตู่ อย่าไว้ใจคนใก้ลตัวเด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


อึ้ง!!?? รัฐใช้งบประมาณ 4 ล้านผลิตนักเรียนนายร้อยตำรวจต่อคน/ต่อหัว - สถาบันดีจริงหรือ...ไฉนภูมิคุ้มกัน “ผ้าขาว”จึงบกพร่องกลายเป็นด่าง-ดำตกเป็นขี้ปากชาวบ้านตลอด

“พรหมลิขิต ขีดเหี้ย ให้เหี้ยเดิน เหี้ยก็เพลิน เดินตาม ไม่สงสัย เหี้ยกับเหี้ย เจอกัน ก็บรรลัย เหี้ยหนึ่งตาย เหี้ยหนึ่งอยู่ ดูฟ้าดิน”.....สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักพบกับกระผมนาย “บิ๊กเกรียน” อีกตามเคย....ประเดิมด้วยผลงานกรุงเทพมหานคร ด้วยการจัดทีมบุก “จับเหี้ย” ข่าวว่าวงการตัวเงินตัวทองแห่งสวนลุมพินี ต้องป่วนหนักเพราะพลเมือง “เหี้ย” มีมากเกินไป จาก 400 ตัวทั้งเล็กทั้งใหญ่น้องๆ “ไอ้เข้”คุณพี่ “ล็อกเหี้ย”ไปทั้งหมด 40 ตัวท่ามกลางสายตาประชาชีที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย (ประชาธิปไตยครับผม..จับเหี้ยยังต้องเถียงกัน) เที่ยวหน้าแนะนำให้ไปแถวเขาดิน - รัฐสภาฯ ไม่รู้มีใครแอบสำรวจจำนวนพลเมือง “เหี้ย” กันบ้างหรือเปล่า...ที่นี่ไม่ด้อยไปกว่าสวนลุมฯหรอกครับ....บางตัวแลบลิ้นเลียแพล็บๆ เห็นแล้วน่าจับไปปล่อยศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี จริงๆพับผ่า!!??

00000.....ยัง “ติดใจ”คำพูด “มิสเตอร์สมเยส” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีตผบ.ตร.“ลวกเพี่ย”เล่นด่ากราดวงการสื่อก็มี “ตั่วเฮีย”ไม่แพ้วงการ “ตำรวจ”....ประเด็นเด็ด 7 สีคุณพี่ “เหล็กน้ำพี้”กระซวกไปก่อนหน้าแล้วแต่ “คุณน้อง-บิ๊กเกรียน”ยังไม่หายคันขอว่าต่ออีกยก....เอาเรื่องโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ก่อนเลยเพราะเป็นที่มาของความไม่พอใจของบรรดา “ศิษย์เก่า” และ “ศิษย์ใหม่” ทั้งหลาย....ถามว่าตำรวจที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นั้นใช้เวลาเรียนกี่ปี ต้องใช้ทุนหลวงไปเท่าไหร่ และมีความคุ้มค่าในการลงทุนสร้างบุคคลากรหรือไม่....คำตอบคือต้องใช้เวลาเรียน 6 ปีเริ่มจากเตรียมทหาร 2 ปีก่อนแยกเหล่าอีก 4 ปีใช้เงินหลวงสนับสนุนตกหัวละ 3-4 ล้านบาท 1 รุ่นถ้ามี 100 คนก็ตกประมาณ 3-400 ล้านบาท .....ก่อนจะถามเรื่องความคุ้มค่าขอถามต่อไปว่าแล้วที่อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี เป็นตำรวจดีมีอุดมการณ์กันน่ะทำไมพอจบออกมาแล้วจึงมีกติกาว่าใครเกรดดี เรียนดีจะได้รับบรรจุลงพื้นที่ “เกรดเอ”....ถามต่อไปอีกว่ารุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นลุงพอตอบได้ไหมว่า ทำไมภูมิคุ้มกันให้รักษาความดี ยึดมั่นในอุดมการณ์มันจึงหย่อนยาน หรือเกิดอาการเผอเรอเมื่อมีโอกาสทำหน้าที่....บ่อยครั้งมักได้ยินได้ฟังตำรวจ 5 เสือถูกเด้ง ถูกตั้งกรรมการเพราะละเลยต่อหน้าที่ บ่อน-ซ่อง-ของเถื่อน-สถานบริการเปิดเกินเวลา -มั่วสุมยาเสพติด...ขอโทษโดนกันเป็นประจำ...ที่เขาบอกตำรวจไม่รู้หน้าที่ตัวเองก็ตรงนี้แหละ ทำไมต้องให้ฝ่ายปกครองมาจับ ทำไมต้องให้ทหารมาจับ....เอ้าช่วยตอบกันหน่อย !!??

00000.....อีกสารพัด สารเพ “วิชานอกหลักสูตร” อุ้ม ฆ่า รีด ไถ....รุ่นเดียวกันต้องช่วยกัน..รักพี่เชื่อฟังรุ่นพี่แล้วดีเอง ปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ไปจนถึงพฤติกรรมวิ่งเต้น ประจบประแจงผู้มีอำนาจเพื่อความเจริญก้าวหน้าไม่เคยมีสอนในหลักสูตรโรงเรียนนายร้อยตำรวจ....แต่.....ทำไมถนัดกันจริงเก่งกันจัง...ทำกันมารุ่นต่อรุ่น หนักหน่อยคือซื้อขายเก้าอี้ บางสมัยซื้อ-ขายกันด้วยพระเครื่อง บางยุคว่ากันด้วยเป็นสมาชิกสนามกอล์ฟ ต่อมาซัดกันด้วยเงินสดๆ สุดแท้แต่จะกำหนดไม่มีตายตัว...ถามว่าทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็ล้วนแต่ “นอกหลักสูตร”ไม่มีอาจารย์คนไหนเคยสอน....คำตอบถ้าค้นกันจริงๆ บรรดา นรต.ทั้งหลายกล้าไหมที่จะตอบว่าก็เรียนรู้จากรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นลุง กันทั้งนั้น....ที่ว่าสอนกันดี อบรมกันดี “ผ้าขาว”ผืนนี้กลับไม่มีภูมิคุ้มกัน...จบมาก็วิ่งเต้นกันแล้ว...ใครจะไปไหน โรงพักอะไร รายได้เท่าไหร่ ทำไงโตเร็วไปทางลัด...พวกมีโอกาส เส้นสายดีกระโดดเกาะสายนายเวรฯวันๆไม่ทำห่านอะไรคอยหิ้วกระเป๋ารับโทรศัพท์เป็นขี้ข้าเจ้านาย...เผลอแผ็บเดียวติดสารวัตร ติดผู้กำกับ ติดผู้การ “นำรุ่น”ไปแล้ว.....เหมือนใครคนหนึ่ง “มิสเตอร์สมเยส”ลองหลับตาถึงใครก็ไม่รู้ คนที่คอยเดินตามตูดนักการเมือง(ขี้โกง)...ตลอดชีวิตการเป็นตำรวจ “ทำห่าน”อะไรเป็นบ้าง....จับพลัดจับพลูวันหนึ่งเผือกได้ดีเป็นใหญ่เป็นโตในกรมปทุมวันมันน่าเศร้าหรือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับองค์กรนี้ !!??

00000.....ฉายอีกตัวอย่างวันก่อน “ผู้กอง”ลูกพล.ต.อ.แห่ง สน.ทองหล่อ จับกระทาชายคนหนึ่งฐานพกพาอาวุธปืน แล้วอ้างมีพ่อเป็นทหารยศพล.อ. “ผู้กอง”โพสต์เฟสบุ๊ก “เอาดัง”ทำนองเอ็งลูกนายพล “ทหาร” กรูคนจับก็มีพ่อเป็น “พลเอกตำรวจ” เกทับไม่กี่วัน “ของจริง” ท. ทหารปูพรหมลงเต็มพื้นที่ กวาดจับสถานบริการเปิดเกินเวลา - มั่วยา ในท้องที่ สน.ทองหล่อ เล่นเอา “ใบ้กิน”ทั้งโรงพัก...อ้าวไม่เห็นศีรษะ “ผู้กอง” ลูกพลเอกตำรวจ โผล่มาซักแว้บบ...ยังไม่พอผับเพื่อชีวิตย่านเลียบด่วน เกษตร-นวมินทร์ ทหารผนึกกำลังฝ่ายปกครองกวาดจับทั้งร้านสภาดิน - โรงนาอีสาน เจอวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 เจอพวกอัพยาฉี่สีม่วง ก่อนดำเนินคดีข้อหาไม่มีใบอนุญาต ปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่ากฏหมายกำหนดเข้าใช้บริการ สั่งปิดทันที 5 ปี ส่วน 5 เสือหนาวๆร้อนๆ....เอ้า...อีกเรื่องเป็นของแถม....กรณีซ่องอาบ อบ นาบ “นาตารี” ท้องที่ สน.ห้วยขวาง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่โต “ฉาวโฉ่ -เหม็นฉึ่ง”ไปทั้งวงการตำรวจเนื่องจากพบบัญชีส่วย “รับทาน” กันพร้อมหน้าถึง 4 กองบัญชาการหลักคือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง....บัดนี้การสอบสวนของคณะกรรมการไปถึงไหน...ได้ตัวตำรวจ “กินส่วย-น้ำกาม”กันหรือยัง.....ไหนๆก็ว่ากันมาเยอะแล้ว “ขุด”ให้เห็นปัญหาของตำรวจเผ่าพันธุ์ “นรต.”กันให้แจ่มๆ จะๆไปเลย.....ตำรวจที่จบจากโรงเรียนนายร้อยฯมานั้นยังมีคุณสมบัติสืบทอดมาอีกอย่างคือการถือรุ่น และการให้ความเคารพ-เชื่อฟังรุ่นพี่.....จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ได้เพราะเหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ....ข้อดี “บิ๊กเกรียน”ขออนุญาตไม่พูดถึงเพราะมันดีแค่คนไม่กี่คนแต่ข้อเสียดูเหมือนจะเยอะกว่าถ้ากล้ายอมรับความจริง เพราะมันคือเป็นแบบฉบับของระบบอุปถัมภ์....

00000.....ที่น่าเศร้าเคยเห็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ออก ไล่ออก ปลดออก “นายพล”ที่ทำชั่ว ทำผิดกันบ้างหรือไม่...ในรอบหลายสิบปีมีเพียงกรณี “บิ๊กกิ๊ก”พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก.กับพวกเท่านั้นแต่อื่นๆไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินข่าว...ต่างกับวงการยุติธรรม ทุกๆปีจะเห็นคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มีมติไล่ออก ปลดออก ให้ออก กันตลอด...ปรากฏการณ์แบบนี้สะท้อนอะไร...มิใช่วงการยุติธรรม จะมีคนชั่วมากกว่าตำรวจ แต่มาตรฐานจริยธรรมเขาสูงกว่า...ผิดว่าตามผิด หากศาล-อัยการ เป็นอย่างตำรวจ...ถือรุ่น-เชื่อพี่-ช่วยน้อง สังคมไทยจะอยู่ได้อย่างไร....นี่ไงสถาบันโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จึงต้องเปิดใจกว้าง มองดูโลกอย่างเข้าใจ หรือถ้า “ดีพอ”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.จะออกคำสั่งที่ 54/2559 เรื่องแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจโดยให้ปรับปรุงการบริหารงานของ นรต.ให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับนโยบายและแนวทางในการปฏิรูปตำรวจ

00000.....เละเทะ-เน่าเหม็น แต่ก็แปลกที่ “คนไหน”ไม่รู้สึก-มองไม่เห็น.....วันหนึ่งพอถูกวิจารณ์ วิญญาณ นรต.เดือดพล่าน ด่าพ่อล่อแม่แถมด้วย “เหี้ย-ห่า”...แน่นอนว่าทุกวงการย่อมมีทั้งคนดีคนเลว เว้นแต่ว่าคนที่รับบทบาทเป็นผู้รักษากติกาสังคม รักษากฎหมาย ถ้า “เหี้ย”แม้แต่คนเดียว (ความจริงก็มากอยู่)ความวิบัติจะเกิดกับใคร.....ส่วนพวกนักข่าว นักหนังสือพิมพ์ถ้าเขา “เหี้ย”รับรองว่าไม่มีใครไปอ่านใครไปอุดหนุน...นักข่าวอุ้มฆ่า รีดไถ ใครไม่ได้ ยิ่งเป็นนักข่าวสายออนไลน์หากเสร่อทำตัวเป็นขี้ข้า “เหี้ย” เขียนรับใช้ เขียนปกป้อง “เหี้ย” รับรองว่าคุณจะถูกตรวจสอบจากประชาชนคนอ่านในทันที...สำคัญที่สุดอาชีพสื่ออิสระ หรือสื่อมีเจ้าสำนักมิได้กินเงินเดือนรัฐ ไม่ได้เอาภาษีชาวบ้านมาเลี้ยงชีพ แถมตอนเรียนก็มิได้มีงบประมาณอุดหนุนกันหัวละ 3-4 ล้านบาท.....แฮ่มมม “มิสเตอร์สมเยส” โปรดสงวน “พันธ์เหี้ย”ไว้ในวงจำกัดเถิด !!??

00000.....เรื่อง “เหี้ย”ยังไม่จบ!!??.....ฤดูการแต่งตั้ง-โยกย้าย สีกากีกำลังเข้มข้น...เรื่องวิ่ง-เต้น -ซื้อ-ขาย-ตำแหน่ง มี “เข้าหู”ตลอด...ล่าสุดสายัณห์ “มาแปลก”ข่าวลึก -ประเด็นลับ รายงานมาว่า “ขาใหญ่”ภาค 6 กำลังขะมักเขม้น “จัดโผ”กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงขนาดดอดไปเปิด “เซฟเฮ้าส์”แถวแคมป์สน-เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์....”นายหน้า”เซ็งลี้เก้าอี้เป็นนายตำรวจระดับ รองผบก. รุ่นเดียวกับ “นายพลดอกดิน”ประกาศรับประกัน “ความชัวร์”ใครกล้าจ่าย -เรากล้าให้......”บิ๊กเกรียน” คนหาข่าวมาขายขอรายงานตรง “นายกฯลุงตู่” โปรดอย่างไว้ใจใคร แม้กระทั่งคนใก้ลตัว....ไอ้ที่ฝาก-ฝัง อ้างเป็นคนดี สอบถามให้แน่ใจไป “รับตังค์”ใครมาหรือเปล่า....ขบวนการซื้อ-ขาย ตำแหน่ง-ตำรวจ “มีจริง”พิสูจน์ได้จากคดีรอง สวป.สน.บางรัก....แม้วันนี้จะพลิกแพลง ใช้อำนาจ “เล่นกล” กลายเป็นความเข้าใจผิด แต่ “ความจริง”เป็นอย่างไรถ้านายกฯลุงตู่ ไม่รู้ อันนี้เสียเหลี่ยม “ลูกกำนัน”เป็นที่สุด....ตำรวจก็คือตำรวจ...วิธีคิด-วิธีปฏิบัติยังไงก็ต่างกับทหาร...ตำรวจยึดติดกับอำนาจ-เงินตรา ชีวิตนี้กูขาด 2 อย่างนี้ไม่ได้ แถมระบบ “ลูกน้องเลี้ยงเจ้านาย”เลิกกันไม่ได้ซักที...คอยดู...อีกไม่ช้าไม่นานหลังแต่งตั้ง-โยกย้าย...บ่อน-ซ่อง ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดแน่...ไม่มีของฟรีในโลก-การลงทุนมีความเสี่ยง...จ่ายไปแล้วก็ต้องเอาคืน!!??

0000.....อ้าว...ไหงทำกันแบบนี้ล่ะ....นักข่าวภาคสนามเขาฟ้องมาว่าทีมงานประชาสัมพันธ์ตำรวจท่องเที่ยว ชอบทำเลอะเทอะ-เฟอะฟะ...วันก่อนแจ้งนักข่าวแถลงผลงานจับแก๊งชาวจีนรูดบัตรเครดิตปลอม...นัดนักข่าวสายอาชญากรรมอย่างดิบดีที่ สน.ลุมพินี เริ่มเวลา 09.00 น.แต่คุณพี่หัวขบวน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว ติดภารกิจต้องเลื่อนเวลาเป็น 09.30 น. ทว่าถึงเวลาพระเอกก็ยังไม่มาจึงขอเลื่อนเวลาแถลงข่าวเป็น 14.00 น.และขยับไปเรื่อยๆจนที่สุด “เสี่ยโจ๊ก หวานเจี๊ยบ”แจ้งมาว่าติดธุระด่วนไม่สามารถมาแถลงด้วยตนเองได้ต้องปล่อยหน้าที่ ผกก.สน.ลุมพินี ว่ากันเอง......บ่นกันไปตามประสา...ฐานะรุ่นพี่ “บิ๊กเกรียน”แนะน้องๆว่าต่อไปเวลาตำรวจจะแถลงข่าวอะไรอย่า”ตามแห่”เป็นเครื่องมือเขา...ใช้ระบบส่งตัวแทนไปคนสองคนก็พอ ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าโอเลี้ยง-กาแฟ แถมข่าว “โหลยโท่ย”จะได้ลงหรือเปล่าก็ไม่รู้...ใช้วิธีลอกข่าวกันก็ได้.....ข่าวแถลงก็คือข่าว “ยัดเยียด” ข่าวประชาสัมพันธ์...ยิ่งตอนพิจารณาความดีความชอบตำรวจบางประเภทยิ่งชอบ “เสนอหน้า” อย่าไปให้ราคา(มัน) เพราะ “ข่าวแกล้งดี”ไม่มีใครอ่าน....คิดใหม่-ทำใหม่ลอง “ข่าวเจาะ”ตำรวจท่องเที่ยวทำมาหารับทานกันที่ไหน - ใครตัวการซื้อขายตำแหน่ง..รับรองวิ่งกันตีนขวิด!!??
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น