MGR Online - กลุ่มผู้เสียหายจากภาคใต้ร้องดีเอสไอ ถูกหลอกลงทุนเล่นแชร์ลูกโซ่ธุรกิจอาหารแช่แข็ง ความเสียหาย 300 ล้านบาท
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.อาซาย์ อาแว อายุ 24 ปี พร้อมผู้เสียหายประมาณ 20 คน เดินทางยื่นเอกสารร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ ให้เอาผิดต่อกลุ่มบุคคลที่หลอกร่วมลงทุนธุรกิจส่งออกอาหารแช่แข็ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท
น.ส.อาซาย์กล่าวว่า ตนรู้จักกับ น.ส.อัสมา หมีนสุก พิธีกรตามงานอีเวนต์อาหารฮาลาลในจังหวัดทางภาคใต้ จากนั้น น.ส.อัสมาได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจอาหารแช่แข็งผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยซื้อหุ้นขั้นต่ำ 3,000 บาท และได้เงินปันผลสัปดาห์ละ 400 บาท หากลงทุนหลายหุ้นก็จะได้ขึ้นเป็นระดับวีไอพี รวมทั้งมีผลกำไรตอบแทนสูงถึง 70-130 เปอร์เซ็นต์ ตนจึงตัดสินใจร่วมลงทุนเมื่อประมาณปลายปี 2558
“ต่อมาดิฉันได้ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมาเอง 2 กลุ่ม พร้อมชักชวนคนรู้จักให้มาเป็นสมาชิกพร้อมลดราคาหุ้นขั้นต่ำเหลือเพียงหุ้นละ 1,500 บาท ได้เงินปันผลสัปดาห์ละ 200-300 บาท จนมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ 600 คน ที่ผ่านมาสมาชิกทุกคนก็ได้รับเงินปันผลมาโดยตลอด กระทั่งช่วง มี.ค. 2559 เกิดปัญหาขึ้น น.ส.อัสมาอ้างว่าบริษัทขาดทุนและยังไม่ได้จ่ายเงินให้สมาชิก แต่ได้สัญญาว่าจะจ่ายเงินคืนให้ทั้งหมดในวันที่ 30 มิ.ย. 2559 จนขณะนี้สมาชิกก็ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด” น.ส.อาซาย์กล่าว
น.ส.อาซาย์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียหายทั้ง 2 กลุ่มไลน์นั้นได้ไปแจ้งความเอาผิดต่อตนเนื่องจากเป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน จึงทำให้ต้องเดินทางมาดีเอสไอเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจเพราะตนเป็นคนกลางและก็ถูก น.ส.อัสมาหลอกเช่นกัน เนื่องจากเมื่อสมาชิกได้โอนเงินมาเข้าบัญชีของตนแล้วก็ต้องโอนต่อไปให้แก่ น.ส.อัสมา ซึ่งเป็นแม่ข่ายอีกทอดหนึ่ง และตนก็ไม่เคยเห็นผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวอ้างเลย ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหายของตนเองประมาณ 100 ล้านบาท และสมาชิกทั้งหมด 46 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายร่วม 146 ล้านบาท นอกจากนี้เชื่อว่ายังมีอีกหลายกลุ่มที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สงขลา เพื่อเอาผิดต่อ น.ส.อัสมา เรียบร้อยแล้ว
ด้าน พ.ต.ต.สุริยาเปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าประชาชนถูกหลอกเชิญชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจแชร์ลูกโซ่ประเภทอาหารแช่แข็งโดยอ้างกิจกรรมธุรกิจในพื้นที่ รวมทั้งใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ แต่การให้ค่าตอบแทนสมาชิกยังคงเหมือนเดิมจนสร้างความเสียหายร่วม 300 ล้านบาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวกระทำผิดอย่างไรบ้างก่อนให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาดำเนินการต่อไป