MGR Online - “ศานิตย์” เผยผลสอบปากคำ “กาบแก้ว” สาวชาวลาว รับหวาดกลัวถูกใช้งานหนักทั้งคืน ก่อนมีจังหวะหนีกลับผ่านทางมุกดาหาร ขณะนี้ถูกถอนหมายจับคดีลักทรัพย์นายจ้างแล้ว ด้าน “นางไก่” อ่วมจ่อโดน 4 ข้อหาหนัก หมิ่นเบื้องสูง-ค้ามนุษย์-รับต่างด้าวเข้าทำงาน-แจ้งความเท็จ หลัง ตร.ไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่นวานนี้
หลังจากที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) เดินทางไปที่ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อสอบปากคำ น.ส.กาบแก้ว สาวชาวลาว อดีตลูกจ้างนางมณตา หยกรัตนกาญา หรือนางไก่ ที่ถูกนางไก่แจ้งความลักทรัพย์ วันนี้ (26 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ น.ส.กาบแก้ว เราก็ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ น.ส.กาบแก้วมาอยู่เมื่อปี 2553 นางไก่ให้เขามาทำงานรับใช้โดยบอกว่าจะให้เงินเดือน 6-8 พัน เขาก็หลงเชื่อ แต่พอมาทำงานก็ไม่ได้ตามนั้น และยังให้ทำงานทั้งวันทั้งคืนได้นอนตี 3 ต้องตื่นเช้ามาทำงานต่อเป็นอย่างนี้ทุกวัน พาสปอร์ตก็ถูกยึด เขาก็เกิดความรู้สึกว่าไม่ไหว ในวันสุดท้ายที่เขาหนีบังเอิญนางไก่ไม่สบายให้เขาไปซื้อยาจึงถือโอกาสหนีโดยใช้ช่องทางที่ จ.มุกดาหาร จากนั้นก็ข้ามฝั่งไปให้ญาติมารับ ก็ทนทุกข์ใจไม่สบายใจมาตลอด
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เวลานี้ได้สั่งถอนหมายจับแล้ว การถอนหมายจับมีผลทางด้านธุรการ ตามกฎหมาย ป.วิอาญา ม.68 หมายจับมีผลสิ้นสุดเมื่อจับตัวผู้ต้องหาได้ หรือคดีหมดอายุความ หรือผู้พิพากษาที่ออกหมายสั่งเพิกถอน กรณีของ น.ส.กาบแก้ว คือหมายจับสิ้นสุดลงเมื่อจับผู้ต้องหาได้เพราะเขามามอบตัว คดีนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสูงสุดสั่งสอบเพิ่มเติม ถ้าปรากฏว่าผลการสอบสวนพบว่าสิ่งที่นางไก่แจ้งความหาว่า น.ส.กาบแก้ว ลักทรัพย์ 2.9 ล้านเป็นเท็จก็ต้องมีการดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ รวมทั้งอาจะมีความผิดฐานรับคนเข้าทำงาน (ต่างด้าว) โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวานนี้ทางสหวิชาชีพ และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาซักถามเหยื่อและมีแนวโน้มว่าเป็นการค้ามนุษย์ และก็มีประเด็นเกี่ยวกับเบื้องสูงอีกด้วย รายละเอียดขอไม่เปิดเผยเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.ประชาชื่น ในข้อหาค้ามนุษย์ และก็หมิ่นเบื้องสูง เอาข้อเท็จจริงตรงนี้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ต้องใช้ความพยายามพอสมควรเพราะว่า น.ส.กาบแก้วอยู่ฝั่งลาว ถ้าเขาไม่มาเราก็ต้องดำเนินการตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าที่จะส่งตัวมาอย่างเป็นทางการ แล้วก็มันไม่ทันต่อเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ แล้วมีการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่เป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษ ทั้งนี้ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี 2551 ได้จัดที่พักอาศัย ฝึกวิชาชีพให้ ดูแลรวมทั้งเยียวยา ซึ่งกฎหมายไทยมี แต่กฎหมายลาวไม่มี ช่วงระหว่างที่เขาเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ กฎหมายฉบับนี้จะให้ความคุ้มครอง