xs
xsm
sm
md
lg

“กาบแก้ว” สาวลาวอดีตคนใช้เปิดปากซัด “นางไก่” เบี้ยวค่าจ้าง ก่อนโดนลวงซ้ำ-แจ้งจับลักทรัพย์อีก (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - “กาบแก้ว” สาวลาวอดีตคนรับใช้ในบ้าน “นางไก่” เปิดหมดเปลือก ถูกเบี้ยวค่าจ้าง บอกจะให้ 2-8 พันบาท/เดือน สุดท้ายได้แค่ครั้งละ 500-1,000 บาท จนต้องหนีกลับบ้าน พอกลับมาทำงานรอบสองเจอหลอกซ้ำ แถมถูกแจ้งความว่าลักทรัพย์เกือบ 3 ล้าน จนน้ำตาร่วงคาด่านฯ หนองคายมาแล้ว

วันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.กาบแก้ว อายุ 24 ปี อดีตคนรับใช้ในบ้านที่ถูกนายจ้าง คือ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ แจ้งความในข้อหาลักทรัพย์มูลค่ากว่า 2.9 ล้านบาท แต่เจ้าตัวได้หลบหนีข้ามฝั่ง สปป.ลาว ได้เดินทางข้ามมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.น.) ได้พระสานให้ น.ส.กาบแก้วมาให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีอื่นๆ ของนางไก่ หลังจากมีการตั้งข้อสังเกตุว่า น.ส.กาบแก้วอาจถูกปรักปรำ ขณะที่นางมณตาเองกลับกลายเป็นผู้ที่ถูกตั้งข้อหาในหลายคดี พร้อมกับนำเงินจากองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จำนวน 100,000 บาท มาประกันตัว น.ส.กาบแก้ว ที่ถูกนางไก่แจ้งดำเนินคดีด้วย

ทั้งนี้ เหตุที่ขอให้ น.ส.กาบแก้วมาให้ปากคำโดยมีการนำเงินจากองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จำนวน 100,000 บาท ไปช่วยประกันตัวในคดีเก่าดังกล่าวเพื่อจะได้สอบปากคำและสอบถามข้อมูลประกอบเรื่องราวต่างๆ ขณะที่เคยเกี่ยวข้องกับนางมณตาด้วยนั้น

น.ส.กาบแก้วระบุว่า ตนเป็นชาวเมืองหลวงน้ำทา แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว และเมื่อตนอายุได้ราว 18 ปีก็ได้รับการติดต่อให้เข้ามาทำงานที่ประเทศไทย ผ่านทางนครเวียงจันทน์ และเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยทาง จ.หนองคาย ซึ่งทางนางไก่ หรือหญิงไก่ บอกว่าจะให้เงินเดือนราว 2,000-8,000 บาท เพื่อทำงานรับใช้ที่บ้าน แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไปตนกลับไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ โดยได้รับเพียงครั้งละ 500-1,000 บาทเท่านั้น กระทั่งตนทำงานอยู่ได้นานราว 1 ปี ต้องออกไปต่อวีซ่าที่นครเวียงจันทน์โดยเดินทางไปพร้อมกับคนลาวด้วยกัน ตนจึงไม่กลับมาประเทศไทยอีก

อย่างไรก็ตาม อีกราว 1 เดือนต่อมา ตนอยากกลับมาทำงานที่ประเทศไทยอีกจึงติดต่อไปยัง “หญิงไก่” ซึ่งตอนนั้นหญิงไก่ก็ปลอบว่าที่ผ่านมาไม่เคยให้เงินจึงจะโอนเงินค่าเดินทางให้ และให้ไปหาที่ จ.หนองคาย ซึ่งตนก็ไม่โกรธและได้เดินทางไปหาหญิงไก่

“แต่เมื่อเดินทางข้ามฝั่งเข้าเขตหนองคายรอบใหม่ ก็ได้รับแจ้งว่าจะถูกจับแล้วเพราะไปลักทรัพย์ พร้อมกับมีการสอบถามว่านำทรัพย์สินเหล่านั้นไปไว้ที่ไหนด้วย ทำให้รู้สึกงงมากและถึงกับร้องไห้ออกมา เพราะไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน”

น.ส.กาบแก้วกล่าวว่า ครั้งแรกหญิงไก่ หรือนางไก่ บอกตนว่าจะขอสัญชาติไทยให้ และถ้าได้พาสปอร์ตแล้วก็จะพาไปเที่ยวต่างประเทศ ต่อมาเมื่อตนจะกลับไปอยู่ด้วยเป็นรอบที่ 2 กลับบอกว่าตนลักเอาทรัพย์สินไป และยังมีการข่มขู่ตนให้เลือก 2 แนวทาง หากต้องการอยู่รอดคือให้ทำงานกับคุณนายต่อไป หรืออีกทางเลือกคือต้องติดคุก ดังนั้น เมื่อตนทำงานอยู่ด้วยอีกเพียงแค่ราว 2 สัปดาห์จึงถือโอกาสเดินทางกลับ สปป.ลาว และไปอยู่กับแฟนที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จนถึงปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.น.และคณะ ได้เดินทางมาถึงด่าน ตม.เชียงแสน ก็ได้ให้พนักงานสอบสวนได้สอบถามข้อมูล น.ส.กาบแก้ว ตามขั้นตอน โดยไม่ได้นำตัวไปสอบปากคำที่กรุงเทพฯ แต่อย่างใด และเมื่อสอบถามเสร็จก็ให้ น.ส.กาบแก้วเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ตามเดิม

พล.ต.ท.ศานิตย์แจ้งต่อ น.ส.กาบแก้ว และแฟนหนุ่มที่มาด้วยว่า มาพบกับ น.ส.กาบแก้วครั้งนี้ก็เพื่อให้ความมั่นใจแก่ทั้ง 2 คน ส่วนในเรื่องของความเป็นธรรมนั้นถ้าไม่ได้กระทำความผิดก็ไม่ต้องกังวล ขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วยการให้ข้อมูลตามความเป็นจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น