MGR Online - อัยการยื่นฟ้อง 6 โจ๋และแฟนสาว ฐานร่วมกันฆ่าชายพิการโดยเจตนา บุกรุกและพาอาวุธไปในเมือง แต่ไม่คัดค้านการประกัน ให้เป็นดุลพินิจของศาล ขณะที่มารดาผู้ตายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 ได้ยื่นฟ้องนายพีรพล หรือเปา ยศพงศ์อนันต์ อายุ 21 ปี, นายอัครเดช หรืออั๋น ทัศนะ อายุ 22 ปี, นายมนต์มนัส หรือเต้ย แสงโพธิ์ อายุ 21 ปี, นายจตุพร หรือเบียร์ จันทร์โสภา อายุ 18 ปีเศษ, นายเมฆ พลไกรษร อายุ 19 ปี, นายอรินทร์ หรือเตอร์ ยศพงศ์อนันต์ อายุ 19 ปี และ น.ส.ณัฐณิชา หรือเกม ฤทธิ์ล้ำเลิศ อายุ 18 ปี เป็นจำเลยที่ 1-7 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ รวมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร ตามสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีดำ ที่ อ.2186/2559
คำฟ้องอัยการการโจทก์บรรยายว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2559 จำเลยได้ร่วมกันพกพาอาวุธมีด ใบมีดกว้าง 1 นิ้ว ยาวประมาณ 27 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม, อาวุธมีดหัวตัดยาว 21 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม และมีดปลายแหลมยาว 6 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม ติดตัวไปในบริเวณซอยโชคชัย 4 แยก 69 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.แล้วบุกรุกเข้าไปบ้านเลขที่ 5 ซอยดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านของนางธันยชนก ศรีจันทร์ ผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาของนายสมเกียรติ์ ศรีจันทร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร แล้วร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย นายสมเกียรติ์ โดยใช้อาวุธมีดขู่เข็ญ โดยจำเลยร่วมกันมีเจตนาฆ่าโดยใช้อาวุธมีด ฟัน แทง และปาก้อนอิฐประทุษร้ายร่างกายของนายสมเกียรติซึ่งได้ใช้มีดปลายแหลมยาว 32 นิ้วเข้าต่อสู้ป้องกันตัว แต่นายสมเกียรติถูกทำร้ายที่บริเวณใบหน้า ศีรษะ ลำคอ ไหล่ซ้าย แขนซ้าย ข้อมือซ้าย สะบักขวา ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ คมมีดยังถูกสมองและเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอ เป็นเหตุให้นายสมเกียรติถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย แล้วพากันหลบหนี ต่อมาตำรวจได้จับกุมจำเลยที่ 1-5 ได้พร้อมมีดปลายแหลม 2 เล่ม อิฐบล็อก ขนาด 4 คูณ 10 นิ้ว 1 ก้อน เสื้อเชิ้ตกับยังได้เอามีดยาว 32 นิ้วที่นายสมเกียรติใช้ต่อสู้ป้องกันตัว ส่วนจำเลยที่ 6 ได้เข้ามอบตัว และจำเลยที่ 7 ถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนจึงนำตัวมาฝากขังศาลอาญา และขอให้เบิกตัวจำเลยทั้ง 7 คนมาพิจารณา ทั้งนี้หากจำเลยทั้ง 7 คน ร้องขอปล่อยตัวขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล ศาลรับคำฟ้องไว้แล้วนัดสอบถามคำให้การจำเลยในวันที่ 14 ก.ค.เวลา 09.00 น.ทันที
ต่อมาเมื่อเวลา 10.25 น.ที่ผ่านมา นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วยนางทองคำ ศรีจันทร์ มารดาผู้ตาย เดินทางมายื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการและคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว 7 จำเลย เนื่องจากเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง หากศาลอนุญาตให้จำเลยทั้ง 7 คนได้รับการปล่อยชั่วคราว อาจหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
นายอนันต์ชัยกล่าวว่า ตนในฐานะเป็นทนายความของครอบครัวศรีจันทร์ มายื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการและขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากวันนี้อัยการมายื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ตนจึงมายื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและบุกรุก ส่วนข้อหาร่วมพกพาอาวุธ ทางครอบครัวศรีจันทร์ไม่ได้เป็นผู้เสียหายจึงไม่สามารถขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ อย่างไรก็ตาม ตนยังได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และพฤติกรรมโหดเหี้ยมมีการกระทำความผิดที่รุนแรง
นายอนันต์ชัยกล่าวต่อว่า ถึงแม้อัยการจะไม่สั่งฟ้องในข้อร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ตนในฐานะทนายความโจทก์ร่วมก็จะนำหลักฐานและแสดงพฤติกรรมที่ร้ายแรงของผู้ต้องหาทั้งหมดแสดงให้ศาลได้เห็น ซึ่งในทางนำสืบถ้าศาลเห็นว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมร้ายแรง ก็อาจจะลงโทษในอัตราโทษสูงสุดได้ อย่างไรก็ตามทางผู้เสียหายจะไม่ยื่นฟ้องคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองอย่างแน่นอน ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งนั้นครอบครัวศรีจันทร์ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายอีกครั้ง
ด้านนางทองคำ มารดาผู้ตายกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าจะรอความยุติธรรมและความเป็นธรรมจากศาล
ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ศาลจะได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 7 คนจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบคำให้การจำเลยในคดีนี้ ขณะที่พนักงานอัยการไม่ได้คัดค้านการประกัน แต่ขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล