MGR Online - คืบหน้า 6 โจ๋ใช้อาวุธมีดรุมฟันหนุ่มขายขนมปังขาพิการจนเสียชีวิต พบ 3 คนในกลุ่มเป็นลูกตำรวจ พยานแฉนาทีเกิดเหตุไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีอาวุธครบมือและไม่มีความเกรงกลัว จนท.ขณะระงับเหตุ
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวน 6 คน ก่อเหตุใช้อาวุธมีดรุมทำร้ายร่างกาย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ชายขาพิการอาชีพส่งขนมปังจนเสียชีวิต หน้าร้านขายขนมปัง ซอยโชคชัย 4 แยก 69 โดยมีมูลเหตุมาจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเมาสุราแล้วแซวเรื่องขาพิการ แต่โดนด่ากลับเลยร่วมกันลงมือก่อเหตุรุมทำร้ายจนเสียชีวิต
ล่าสุดวันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน.โชคชัย พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ประกอบด้วย นายพีรพล ยศพงศ์อนันต์ อายุ 21 ปี อาการสาหัสโดนมีดฟันบริเวณแขนซ้าย นายอัครเดช ทัศนะ อายุ 22 ปี นายมนต์มนัส แสงโพธิ์ อายุ 22 ปี นายจตุพร จันทร์โสภา อายุ 18 ปี นายเมฆ พลไกรษร อายุ 19 ปี และนายอรินทร์หรือเตอร์ ยศพงศ์อนันต์ อายุ 20 ปี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน พร้อมกับเร่งสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อนำมาประกอบหลักฐานยืนยันเอาผิดผู้ก่อเหตุว่าระหว่างเกิดเหตุนั้นใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุและทำหน้าที่อะไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาได้ไปพูดจาแซวนายสมเกียรติจนเกิดมีปากเสียงกันที่บริเวณหน้าร้านขนมปัง ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไป แต่หลังจากนั้นนายสมเกียรติยังคงติดใจตามไปต่อว่าด่าทอผู้ต้องหาอีกครั้งที่บริเวณหน้าบ้านของผู้ต้องหา พร้อมกับพูดจาท้าทายจึงทำให้กลุ่มผู้ต้องหานำอาวุธมีดขับขี่จักรยายนยนต์ตามนายสมเกียรติกลับมายังหน้าร้านขนมปังที่เกิดเหตุ ก่อนจะมีการทะเลาะวิวาทกับผู้ตายจนเป็นเหตุให้นายสมเกียรติได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมาเวลา 12.00 น. นายอนันต์ชัย ไชยเดช อาชีพทนายความ และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์เดินทางมายัง สน.โชคชัย พร้อมเปิดเผยว่าตนเองมีอาชีพทนายความซึ่งร้านขนมปังที่เกิดเหตุ อยู่ใกล้บริษัทกฎหมายของตนเอง จึงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนั้น แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ตายได้ เพราะเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหามีทั้งอาวุธมีดและอาวุธปืน ในขณะที่ผู้ตายกำลังถูกทำร้าย โดยหลานชายผู้ตายได้เข้าไปห้าม ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุแต่ทางกลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้มีความเกรงกลัวเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในวันนี้อยากจะมาร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากหลังเกิดเหตุมีผู้ต้องหาสองรายขับขี่จักรยนต์ออกไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมทำการจับกุม ก่อนจะมีการติดตามจับกุมได้ในภายหลังแต่ไม่ถูกนำตัวไปคุมขังซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด อีกทั้งทราบว่ามีผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุเป็นลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้กลุ่มผู้ต้องหากล้าลงมือก่อเหตุได้อย่างอุกอาจ ส่วนข้อหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไว้เบื้องต้นว่าทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้นต้องขอโต้แย้ง เนื่องจากข้อหาดังกล่าวขัดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวันนี้ตนเองจะให้ญาติผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
ด้านนายเมธัส ผลประเสริฐ อายุ 26 ปี หลานของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ตนและครอบครัวมีอาชีพเปิดร้านขายขนมปังมา 3 ปีแล้ว และได้จ้างนายสมเกียรติซึ่งเป็นน้าชายให้มาช่วยงานในร้านขนมปังดังกล่าว ที่ผ่านมานายสมเกียรติไม่เคยมีปัญหากับใคร จนกระทั่งวันเกิดเหตุนายสมเกียรติได้มาบอกว่ามีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่นหลังจากมีการขับขี่จักรยายนต์ปาดหน้ากัน โดยนายสมเกียรติต้องการให้วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวมาขอโทษซึ่งในเวลาต่อมากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้เข้ามาหาเรื่องที่ร้านขนมปังก่อนกระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น
ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุตนได้พยายามเข้าไปห้าม แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวนำมีดชี้หน้า ก่อนจะมีชายเสื้อแดงใช้มีดแทงเข้าที่บริเวณลำคอของนายสมเกียรติจนเสียชีวิต ส่วนตัวอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยให้ความเป็นธรรมต่อครอบครัวของนายสมเกียรติ และดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา