xs
xsm
sm
md
lg

“แพรวา” รับผิดเงื่อนไขคุมประพฤติคดีชน 9 ศพ พร้อมบำเพ็ญประโยชน์ใหม่ ศาลนัดฟังผล 23 ส.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เก๋งซีวิคมรณะ ที่ น.ส.แพรวาขับชนรถตู้ จนมีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เมื่อปี 2553
MGR Online - ศาลเยาวชนฯ ไต่สวน “แพรวา” ผิดเงื่อนไขคุมประพฤติคดีชน 9 ศพ เจ้าตัวยอมรับเข้าใจผิดพลาด พร้อมบำเพ็ญประโยชน์ใหม่ 138 ชั่วโมง ศาลนัดฟังผล 23 ส.ค. 59 สั่งพ้นคุมประพฤติหรือไม่



วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถ.กำแพงเพชร 2 ศาลได้นัดไต่สวน คำร้องที่เจ้าพนักงานคุมประพฤติ ขอให้ศาลพิจารณา กรณี น.ส.แพรวา (นามสมมติ) จำเลยคดีขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารสายธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต - หมอชิต บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้คนขับรถตู้และผู้โดยสารเสียชีวิตรวม 9 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติในการบำเพ็ญประโยชน์

ในวันนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ และเจ้าพนักงานคุมประพฤติ และเยาวชนหญิง ได้เดินทางมาศาลเพื่อไต่สวน โดยเป็นการพิจารณาลับ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในห้องพิจารณาคดี ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมาศาลได้ไต่สวนพนักงานคุมประพฤติแล้วเสร็จจำนวน 1 ปาก ก่อนพักการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 13.30 น. และไต่สวนพนักงานคุมประพฤติอีก 3 ปากในเวลา 14.00 น. และยังไม่การเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ต่อสื่อมวลชน

สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2555 ว่า จำเลยมีความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี โดยคุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุก ๆ 3 เดือน พร้อมให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ชั่วโมง รวมทั้งห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยใช้โทรศัพท์จริงหรือไม่

ขณะที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2557 แก้เป็นว่า จากที่รอลงอาญา 3 ปี ให้ระยะเวลารอลงอาญาเป็น 4 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลารวม 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น ซึ่งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวถือเป็นที่สุด เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งปี 2558 ไม่รับฎีกาของเยาวชนสาว จำเลยที่ต่อสู้คดี เนื่องจากไม่มีสาระสำคัญจะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิม
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากช่วงเช้าวันนี้ ศาลได้ไต่สวนเสร็จ 1 ปาก พร้อมยื่นเอกสารประกอบ กระทั่งเวลา 13.30 น. ศาลได้พักการพิจารณา และเริ่มกระบวนการไต่สวนใหม่อีกครั้งในเวลา 14.00 น. ซึ่งหลังจาก น.ส.แพรวา ผู้ถูกคุมประพฤติได้ฟังคำเบิกความของเจ้าพนักงานคุมประพฤติเกี่ยวกับกฎระเบียบแล้ว จึงแถลงต่อศาลว่าที่ผ่านมาไม่ได้กระทำตามกฎระเบียบ จึงจะขอทำกิจกรรมบริการสังคมใหม่ให้ครบถ้วน ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อฟังผลการทำกิจกรรมของผู้ถูกคุมประพฤติ ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ต่อมาเวลา 15.30 น. เมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณา พ.ต.อ.ณรัชต์ เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายฝ่ายผู้ร้องไม่ได้นำพยานอีก 3 ปากเข้าไต่สวน เนื่องจากฝ่ายเยาวชน ผู้ถูกคุมประพฤติได้แสดงสปิริตต่อศาลเอง ยอมรับว่าเข้าใจผิดพลาดต่อกระบวนการและสถานที่ในการบำเพ็ญประโยชน์ เมื่อตรวจสอบกิจกรรมบริการสังคมตามที่ศาลกำหนดให้ผู้ถูกคุมประพฤติต้องทำงานช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางบก 3 ปี โดยให้บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมงต่อปี รวมเป็นเวลา 144 ชั่วโมง ซึ่งผู้ถูกคุมประพฤติได้ทำการบริจาคโลหิตเป็นเวลา 6 ชั่วโมงตรงตามเกณฑ์แล้ว แต่ส่วนที่เหลืออีก 138 ชั่วโมงผู้ถูกคุมประพฤติระบุว่าได้ทำการบำเพ็ญประโยชน์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอีก 90 ชั่วโมง โดยเหลือเวลาบำเพ็ญประโยชน์อีก 48 ชั่วโมงนั้น ปรากฏว่าขณะที่ได้ทำการบำเพ็ญประโยชน์นั้นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ายังไม่ใช่ภาคีกับกรมคุมประพฤติ ซึ่งผู้ถูกคุมประพฤติได้ยอมรับว่าเข้าใจผิดพลาดไปในกระบวนการดังกล่าว และยอมที่จะทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ใหม่รวมกับเวลาที่เหลือทั้งสิ้น 138 ชั่วโมง โดยได้มีการเจรจาและทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสถานที่ไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่ในเดือน ส.ค.ซึ่งจะครบกำหนดการคุมประพฤติและทำกิจกรรมบริการสังคม ศาลจึงมีคำสั่งนัดพร้อมคู่ความเพื่อฟังผลดำเนินการตามเงื่อนไขของการคุมประพฤติดังกล่าวในวันที่ 23 ส.ค. นี้ หากผู้ถูกคุมประพฤติได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างครบถ้วน ในวันดังกล่าวศาลอาจจะมีคำสั่งว่าผู้ถูกคุมประพฤตินั้นพ้นจากการคุมประพฤติแล้ว แต่สวนที่ศาลเคยมีคำพิพากษาห้ามผู้ถูกคุมประพฤติขับรถจนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์นั้นก็ยังต้องปฏิบัติต่อไป

ส่วนที่เคยร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานคุมประพฤตินั้น ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้ว เมื่อขณะนี้ผู้ถูกคุมประพฤติยอมรับว่าเข้าใจผิดพลาดในกระบวนการทำกิจกรรมบริการสังคม

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น