MGR Online - ดีเอสไอยุติการตรวจค้นวัดธรรมกาย ล่าตัว “ธัมมชโย” ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฟอกเงิน-รับของโจร หลังคณะศิษย์ขวางทางไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน ด้านรองอธิบดีดีเอสไอยันไม่ถือเป็นความล้มเหลว เหตุมีอุปสรรคมาก พร้อมเก็บหลักฐานการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว
วันนี้ (16 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. ที่วัดพระธรรมกาย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เดินทางมายื่นหมายค้นต่อพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย บริเวณประตูทางเข้า 7 ก่อนร่วมหารือถึงแนวทางการเข้าขอตรวจค้น
พระสนิทวงศ์กล่าวว่า วันนี้ทางราชการมาปฏิบัติหน้าที่ตามได้รับมอบหมายและทางวัดยินดีให้ความร่วมมือเปิดพื้นที่ภายในวัดตามกฎหมายระบุ รวมทั้งได้ร่วมมือกับราชการมาตลอดจนกระทั่งวันนี้
“ขอยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัด อาพาธป่วย 8 โรค และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด” พระสนิทวงศ์กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.สุริยาเปิดเผยว่า เป็นไปตามข้อตกลงที่เจ้าหน้าที่ได้คุยกับทางวัดก่อนดำเนินตามหมายค้น โดยทางวัดให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ให้ค้นตามหมายค้นและจับผู้ต้องหาตามหมายจับ จากนี้จะดำเนินการตามหมายและทำตามขั้นตอนของกฎหมาย
พ.ต.ต.สุริยากล่าวอีกว่า ต้องพูดคุยกับญาติโยมก่อนเพื่อให้เปิดทางในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้ง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กำหนดกรอบปฏิบัติตามกรอบกฎหมายชัดเจนและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง หลังจากนี้ดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอความร่วมมือญาติโยมและศิษยานุศิษย์เปิดทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณประตู 5 และ 6 วัดพระธรรมกาย ที่อยู่เลียบคลองแอน ติดกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ทางเข้าสำคัญในส่วนของพระภิกษุสงฆ์ชั้นใน ทางวัดมีการวางเจ้าหน้าที่อย่างแน่นหนาโดยไม่ยินยอมให้รถที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าและออก ส่วนบุคคลที่จะเข้าประตูนี้จะต้องแลกบัตรและจะต้องเป็นศิษย์ของทางวัดเท่านั้น ส่วนประชาชนผู้ที่ใช้เส้นทางเลียบคลองจะต้องลดกระจกโดยมีพระสงฆ์รวมถึงเจ้าหน้าที่ของทางวัดคอยควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด
ขณะที่ในช่วงสายเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง ได้เข้าเจรจากับพระลูกวัดพระธรรมกายที่นำรถบรรทุกหินและรถรางมาปิดเส้นทาง โดยพยายามชี้แจงว่าเป็นทางสาธารณะ แต่พระลูกวัดไม่ยอม โดยอ้างว่าไม่รู้ใครเป็นคนขับ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานรถยกเข้ามาดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากเจรจาร่วมกันเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอไม่สามารถเดินผ่านมวลชนที่สวมชุดขาวนั่งสมาธิเป็นกำแพงมนุษย์ปิดกั้นทำให้ต้องเจรจากับตัวแทนพระสงฆ์และตัวแทนลูกศิษย์ ก่อนจะยินยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเดินผ่านเข้าไปด้านในวัด โดยให้สื่อมวลชนรออยู่ที่บริเวณบริเวณประตู 7
มีรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ใช้เวลาตรวจค้นภายในวัดธรรมกาย 2 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปด้านใน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ และ ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษ ได้กลับออกมาบริเวณศูนย์ประชาสัมพันธ์ เนื่องจากคณะลูกศิษย์ได้ขอร้องให้หยุดตรวจค้นเพื่อรอให้ผ่านช่วงเวลาฉันเพลของพระไปก่อน จากนั้นจะการเปิดเจรจาเพื่อดำเนินการตามหมายค้นอีกครั้ง ทั้งนี้ ตามหมายจับที่ศาลอนุมัติเมื่อเย็นวานนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจค้นได้เฉพาะในวันนี้วันเดียว ช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ในพื้นที่ 198 ไร่ที่คาดว่าจะเป็นที่พักอาศัยของพระธัมมชโย
ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. มีการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างดีเอสไอ โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ วัดพระธรรมกาย โดยพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สรุปได้ว่า ในการตรวจค้นวันนี้มีเป้าหมาย 3 จุด คือมหารัตนวิหารคต อาคารภาวนา 60 ปีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ อาคารมหารัตนอุบาสิกา โดยได้ตรวจค้นไปแล้ว 2 จุด ยังเหลือจุดที่ 3 อย่างไรก็ตาม ได้มีความเห็นร่วมกันว่าจะยุติการตรวจค้นไว้ก่อน เนื่องจากกลุ่มลูกศิษย์ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน
พ.ต.ต.สุริยากล่าวว่า ภารกิจนี้ยังไม่จบ เจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะดำเนินการตามหมายจับ แต่ไม่สามารถเข้าตรวจค้นได้ตามข้อเท็จจริงที่เห็น แต่ทางดีเอสไอได้เก็บพยานหลักฐานความผิดของพระธัมมชโยไว้หมดแล้ว ผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป และมั่นใจว่าพระธัมมชโยอยู่ภายในวัด เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามเต็มที่แต่กลุ่มลูกศิษย์ได้เดินทางมาเป็นจำนวนมาก และดีเอสไอได้คำถึงถึงความปลอดภัยของประชาชนด้วย
พ.ต.ต.สุริยากล่าวต่อว่า การดำเนินการตามหมายจับยังต้องดำเนินต่อไป ส่วนหมายค้นดำเนินการได้เฉพาะวันนี้ หลังจากนั้นเราจะแจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริงให้ศาลรับทราบ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลจะพิจารณาอย่างไร การปฏิบัติวันนี้ดีเอสไอยืนยันทำตามพื้นฐานความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก เน้นหลีกเลี่ยงการประทะ ส่วนจะมองว่าการดำเนินการของดีเอสไอล้มเหลวหรือไม่ ก็แล้วแต่เพราะอุปสรรควันนี้มีหลายอย่างด้วยกันคือ ฝนตก จำนวนศิษยานุศิษย์ที่มีเป็นจำนวนมาก และกรณีที่มีการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจหรือดีเอสไอที่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกภาพไว้หมดแล้ว ส่วนบริเวณรอบนอกตำรวจได้ดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดกฎหมายไปแล้ว 14 คดี
ด้านพระสนิทวงศ์กล่าวว่า ทางวัดได้ให้ความร่วมมือโดยตลอด แต่ทางศิษย์ได้ขอความเมตตาจากทางการแจ้งว่าหลวงพ่อยังป่วยอยู่ ไม่ได้หลบหนีไปไหน ส่วนเรื่องการมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมากเป็นการทำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ห้ามกันไม่ได้ เป็นความกตัญญูของมนุษย์ที่รู้สึกรักและห่วงใยหลวงพ่อ และต้องขอบคุณดีเอสไอที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างละมุนละม่อม รวมทั้งขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวจนทำให้มีญาติโยมเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
ต่อมา เวลา 14.10 น. ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อม พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์หลังเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายแต่ไม่สามารถจับกุมพระธัมมชโยได้เนื่องจากถูกกลุ่มศิษยานุศิษย์ขัดขวาง
พ.ต.ต.สุริยากล่าวก่อนการประชุมว่า ปัญหาที่พบระหว่างเข้าตรวจค้นภายในวัด คือ พบกลุ่มมวลชนศิษยานุศิษย์มีพฤติการณ์ไม่ให้เข้าไปด้านภายในบริเวณประตู 5 แต่ดีเอสไอได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางวัด แต่มวลชนขัดขวางก็เป็นความผิดทางกฎหมายต้องดำเนินการ การตรวจค้นในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับไว้และได้ยุติลงแล้ว หลังจากนี้จะนำข้อเท็จจริงนำไปพิจารณาปรับแผนเพื่อให้มีความรอบคอบเอาข้อเท็จจริงในวันนี้ไปพิจารณาแต่หมายจับยังมีผลอยู่และแจกจ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจับกุมด้วย
พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า ได้รับการรายงานจากทางตำรวจสันติบาลยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดและคดีเป็นของดีเอสไอ ไม่สามารถก้าวล่วงได้ เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มอบหมายให้ตนมาดูแลเป็นพิเศษและการปฏิบัติหน้าที่ในวันนี้นับว่าประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ แม้ว่าตนในฐานะดูแลฝ่ายความมั่นคงการมาตรวจค้นในครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด
ขณะที่ พ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านว่ามีการนำรถมาปิดขวางเส้นทางจราจร หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย
มีรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะทำงาน ได้เดินทางไปที่่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) เพื่อร่วมประชุมหามาตรการดำเนินการต่อไปและประเมินผลปฏิบัติการช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา ดีเอสไอ ตำรวจและทางจังหวัดได้ส่งตัวแทนเข้าไปในวัดพระธรรมกาย พร้อมนำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมพระธัมมชโยตามหมายจับ ขณะปฎิบัติหน้าที่ มีการวางกำลังตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบนอกเพื่อป้องกันมือที่สามเข้าแทรกแซง โดยมี พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 เป็นผู้ควบคุมดูแล รวมถึงการตั้งด่านตรวจตราอย่างเข้มงวด กระทั่งเวลา 12.00 น.จึงยุติการเข้าตรวจค้น จากรายงานทราบว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงจุดที่จะพบตัวพระธัมมชโยได้ โดยฝ่ายปฏิบัติได้แจ้งว่า หากเข้าไปอาจทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า วันนี้ทางดีเอสไอได้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าได้ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจค้นโดยไม่มีอาวุธ และได้ชี้แจงกับบรรดาพระในวัดและศิษยานุศิษย์แล้ว แต่วันนี้ยังมีการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หลังจากนี้ดีเอสไอจะประชุมประเมินผลถึงสาเหตุที่ไม่สามารถเข้าไปยังเป้าหมายได้ และพิจารณาดูว่าจะต้องเพิ่มมาตรการปฏิบัติในส่วนใด พร้อมรวบรวมข้อเท็จจริงประกอบ ส่วนจะมีการขอหมายค้นอีกหรือไม่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา