ประมวลสถานการณ์ครึ่งวัน ปฏิบัติการบุก “วัดพระธรรมกาย” ตรวจค้นจับกุม “ธัมมชโย” แต่ตกบ่ายล้มเหลว เพราะศิษย์ธรรมกายขัดขวาง ลั่นจะมอบตัวเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเท่านั้น
หลังจากที่ศาลอาญาอนุมัติหมายค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาคดีฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร หลังมีชื่อเป็นผู้รับเช็คบริจาคจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด
วันที่ 16 มิถุนายน 2559
05.00 น. ที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตลอดทั้งคืนผ่านมา ศิษยานุศิษย์ได้เดินทางเข้าภายในวัดอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านประตูที่ 5 ซึ่งเป็นประตูที่จะเข้าไปยังอาคารดาวดึงส์ ซึ่งคาดว่าเป็นที่พักของพระธัมมชโย มีเจ้าหน้าที่คอยเปิดให้เข้าไปเฉพาะผู้ที่แสดงตัวเป็นลูกศิษย์เท่านั้น โดยให้สื่อมวลชนอยู่บริเวณด้านนอก มีรถยนต์ รถตู้ รวมถึงรถกระบะรับส่งที่มีลูกศิษย์โดยสารมาประมาณคันละมากกว่า 10 คน เข้าทางประตูที่ 5 อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ส่วนประตูที่ 7 ซึ่งเป็นประตูทางเข้าหลักปิดไม่ให้คนเข้าออก และไม่พบเจ้าหน้าที่มาประจำอยู่บริเวณด้านนอกประตู
ขณะที่ทางตำรวจได้เตรียมรถดับเพลิง 4 คัน รถฉีดน้ำ 4 คัน รถควบคุมผู้ต้องขัง 4 คัน รถตำรวจเตรียมความพร้อมทดสอบเครื่องขยายเสียงควบคุม 1 คัน ได้จอดอยู่ภายในที่ว่าการอำเภอคลองหลวง
06.05 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง เพื่อประชุมแผนกบิล 59 ร่วมกับ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สารสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
06.50 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม กล่าวว่า ทางการข่าว มือที่ 3 ออกจากพื้นที่ไปแล้ว ตำรวจได้ตั้งด่านเพื่อดูความเรียบร้อย ตรวจสอบอาวุธโดยรอบวัด ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนการเดินทางเข้าไปภายในวัดเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ที่เป็นต้นเรื่องในการที่ขอหมายค้นจากศาล โดยขอฝากไปยังศิษยานุศิษย์ ว่า บ้านเมืองมีกฎหมาย การเข้าสู่กระบวนการสอบสวนไม่ใช่เรื่องเสียหาย และไม่อยากให้เกิดความรุนแรง
พ.ต.ท.สมบูรณ์ สารสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ จะเดินทางเข้าประมาณ 08.00 - 09.00 น.โดยจะถือหมายค้นเข้าไป แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะถึงตัวหรือไม่ โดยจะต้องประเมินเป็นระยะ หากวันนี้ไม่ได้จะขอกำลังเสริมจากตำรวจ โดยเข้าทางประตู 7 ส่วนจะเข้าไปถึงตัวพระหรือไม่นั้น ต้องดูเหตุการประเมินความเสี่ยงอีกครั้ง โดยจะมีการบันทึกเทปเพื่อตรวจสอบด้วย จากข้อมูลพระน่าจะยังอยู่ในวัด และไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง โดยหมายค้นมีอายุแค่วันนี้เพียงวันเดียว
08.55 น. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำโดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายค้นเข้ามาทางประตู 7 ภายในวัดพระธรรมกาย ขณะที่ทางวัด บรรดาศิษยานุศิษย์สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทั้งด้านหน้าประตูและด้านใน โดย พระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เข้าเจรจา กระทั่งทางวัดแจ้งให้สื่อมวลชนรอที่ด้านหน้าประตู 7 ให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปด้านใน
09.25 น. เจ้าหน้าที่ของทางวัดได้นำโต๊ะเก้าอี้มาตั้งที่หน้าวัด บริเวณประตู 7 ก่อนที่ พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ร่วมแถลงข่าวพร้อมกับ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
โดย พระสนิทวงศ์ กล่าวว่า วันนี้ทางราชการมาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย คือ นำหมายจับมาที่วัดพระธรรมกาย และทางวัดยินดีให้ความร่วมมือได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่วัด ตามที่กฎหมายระบุไว้ ที่ผ่านมา ให้ความร่วมมือกับทางราชการอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ขอบคุณหน่วยงานราชการทุกหน่วยให้ความร่วมมือในครั้งนี้ ทางวัดยินดีให้การต้อนรับ และให้การร่วมมือทุกอย่างเกี่ยวกับทางราชการ
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นไปตามข้อตกลง ว่า จะได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อดำเนินการตามหมายค้น หลังจากนั้น จะกลับมาชี้แจงกับสื่อมวลชน เมื่อสักครู่ได้มีการพูดคุย ทางวัดก็ให้ความร่วมมือในการที่เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นเพื่อดำเนินการตามหมายค้น เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ขั้นตอนต่อจากนี้เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่จะดำเนินการตามหมาย โดยจะแสดงหมายโดยขั้นตอน และจะดำเนินการตามหมาย หลังจากนี้ ก็จะพูดคุยกับคณะศิษยานุศิษย์ที่มาให้กำลังใจพระธัมมชโย เพื่อขอความร่วมมือเปิดทางให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการครั้งนี้
ทั้งนี้ ขั้นตอนการตรวจร่างกายจะยังไม่ดำเนินการ ซึ่งโดยนโยบายของ รมว.ยุติธรรม ได้กำหนดอย่างชัดเจนว่า ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ขอให้ดำเนินการด้วยความเรียบร้อย และไม่ให้มีใครบาดเจ็บใด ๆ ทั้งสิ้น และให้ดำเนินการตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ไม่มีการนำพาอาวุธเข้ามาใด ๆ ทั้งสิ้น หลังจากนี้ ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะขอความร่วมมือเปิดทางให้กับทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามหมาย ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะประชาสัมพันธ์กับศิษยาณุศิษย์ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหมาย ขอให้ดูขั้นตอนการปฏิบัติ
09.50 น. ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์ ได้แถลงว่า เนื่องจากพระธัมมชโยมีอาการอาพาธมาก คณะศิษย์เห็นพ้องว่า พระธัมมชโย ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยการมอบตัวก็ต่อเมื่อบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ เพราะขณะนี้ขาดหลักประกันสิทธิเสรีภาพในกระบวนการยุติธรรม เช่น การคุกคามและบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา โดยพระนอกรีตและคนบางกลุ่ม การชะลอทูลเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช และการที่ดีเอสไอดำเนินคดีพระธัมมชโยโดยร้อนรน รวบรัด ผิดข้อตกลงของเจ้าคณะปกครอง และผู้ปกครองของสำนักงานพระพุทธศาสนา ซึ่งข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอตั้งไว้มีอายุความถึง 15 ปี การจะรอให้เวลาให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติในระบอบประชาธิปไตย จึงไม่ได้ล่าช้าต่อการดำเนินคดี และเสียหายต่อรูปคดี
10.15 น. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปยังประตู 5 ซึ่งเป็นที่พักของพระธัมมชโย แต่คณะศิษยาณุศิษย์ได้นั่งขวางไว้ จึงมีการเข้าเจรจา โดยได้ขอร้องว่า พระธัมมชโยมีอาการอาพาธหนัก ขอความกรุณาไม่ให้พนักงานสอบสวนเข้าไปในวัด จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางกลับไปยังประตู 7 เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา โดยคณะศิษยานุศิษย์ได้เปล่งเสียง “สาธุ” เป็นระยะ และได้พักยกให้พระสงฆ์ได้ฉันเพลก่อนที่จะเจรจาอีกรอบ ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างละมุนละม่อม ขึ้นอยู่กับการยินยอมของคณะศิษยานุศิษย์
13.00 น. มีการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างดีเอสไอ โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ วัดพระธรรมกาย โดย พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สรุปได้ว่า ในการตรวจค้นวันนี้มีเป้าหมาย 3 จุด คือ มหารัตนวิหารคต อาคารภาวนา 60 ปี พระราชภาวนาวิสุทธิ์ อาคารมหารัตนอุบาสิกา โดยได้ตรวจค้นไปแล้ว 2 จุด ยังเหลือจุดที่ 3 อย่างไรก็ตาม ได้มีความเห็นร่วมกันว่าจะยุติการตรวจค้นไว้ก่อน เนื่องจากกลุ่มลูกศิษย์ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน
14.10 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์หลังเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย โดยปัญหาที่พบระหว่างเข้าตรวจค้นภายในวัด คือ พบกลุ่มมวลชนศิษยานุศิษย์มีพฤติการณ์ไม่ให้เข้าไปด้านภายในบริเวณประตู 5 แต่ดีเอสไอได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางวัด แต่มวลชนขัดขวางก็เป็นความผิดทางกฎหมายต้องดำเนินการ การตรวจค้น ในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับไว้และได้ยุติลงแล้ว หลังจากนี้จะนำข้อเท็จจริงนำไปพิจารณาปรับแผน เพื่อให้มีความรอบคอบเอาข้อเท็จจริงในวันนี้ไปพิจารณาแต่หมายจับยังมีผลอยู่และแจกจ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจับกุมด้วย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ได้รับการรายงานจากทางตำรวจสันติบาล ยืนยันว่า พระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัด และคดีเป็นของดีเอสไอ ไม่สามารถก้าวล่วงได้ เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนมาดูแลเป็นพิเศษ และการปฏิบัติหน้าที่ในวันนี้ นับว่าประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ แม้ว่าตนในฐานะดูแลฝ่ายความมั่นคง การมาตรวจค้นในครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด