MGR Online - ศาลยกฟ้องคดีอัยการเป็นโจทก์ฟ้องผู้ต้องหากลุ่มชายชุดดำ ครอบครองระเบิดซีโฟร์ - ทีเอ็นที - ปืนอาก้า พร้อมระเบิดเอ็ม 79 ซุกซ่อนในรถยนต์เมื่อปี 53 ชี้ พยานเบิกความขัดแย้งกัน หลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
เมื่อเวลา 14.45 น. วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1940/2558 ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ สุ่มศรี อายุ 47 ปี ผู้ต้องหา เป็นจำเลยในความผิดฐานครอบครองวัตถุระเบิด โดยคำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2553 จำเลยได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน ร่วมกันครอบครองวัตถุระเบิด วงจรระเบิด อาวุธปืนสงครามซุกซ่อนในรถยนต์ฮอนด้าซีวิค ซึ่งมีผู้แจ้งหายจอดทิ้งไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) หลังได้รับทราบเหตุแจ้งจากผู้หวังดี จึงเข้าตรวจค้นรถยนต์ของกลาง พบของกลางระเบิดซีโฟร์ ทีเอ็นที ดินระเบิด ระเบิดขวด ถังดับเพลิงบรรจุปุ๋ยยูเรีย และอาวุธปืนอาก้า ลูกกระสุนเอ็ม 79 รวมจำนวน 20 รายการ ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านถนนรามอินทรา โดยในวันนี้จำเลยถูกควบคุมตัวจากเรือนจำเดินทางมายังศาล
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้ว เห็นว่า พยานบุคคลซึ่งเป็นผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ ที่เคยให้การในชั้นสอบสวนนั้นเบิกความขัดแย้งกับที่มาเบิกความในศาล และเป็นผู้มีส่วนได้เสียจึงไม่น่าเชื่อถือ ประกอบกับผลการตรวจดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงของจำเลยเทียบกับวัตถุพยานของกลางไม่ตรงกัน เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้ลงโทษจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ว่า นายกิตติศักดิ์ จำเลย ถูกฟ้องคดีนี้ฐานร่วมกับพวกอีก 2 คน ในความผิดฐานครอบครองวัตถุระเบิด ซึ่งเหลือผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งที่ยังตามจับกุมตัวไม่ได้ ส่วนอีกคนหนึ่งศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องคดี ซึ่งเป็นสำนวนเดียวกันนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วน นายกิตติศักดิ์ จำเลยในคดีนี้นั้น ตกเป็น 1 ในผู้ต้องหา 5 คน ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นชายชุดดำที่ก่อเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ในวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่แยกคอกวัว และถูกจับกุมได้เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2557 โดยเจ้าหน้าที่ทหาร และพนักงานสอบสวน ที่ตั้งขึ้นเป็นคณะทำงานพิเศษและนำตัวมาแถลงข่าวว่า ชายชุดดำทั้ง 5 คน (มีหญิง 1 คน) ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุในวันที่ 10 เมษายน 2553 แต่ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 5 ได้ให้ทนายความ นำหนังสือยืนยันว่า ถูกบังคับและทำร้ายร่างกายในการสอบปากคำในสถานที่แห่งหนึ่ง และขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง อย่างไรก็ตาม ต่อมาอัยการได้ฟ้องชายชุดดำทั้ง 5 คนต่อศาลอาญา ข้อหาร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกมบอนุญาตได้ และข้อหาพาอาวุธไปในเมือง ร่วมกันก่อการร้าย เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.4022/2557 ซึ่งคดีชายชุดดำดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนสืบพยานโจทก์โดยจำเลยไม่ได้รับการประกันตัว