ตร.ร้องสื่อถูกชนท้ายบนทางด่วนคดีไม่คืบ โดนโบ้ยหาหลักฐาน-ตามจับคู่กรณีเอง

 
MGR Online - ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ร้องสื่อมวลชนถูกรถบีเอ็มฯ ชนบนทางด่วนฉลองรัตน์ แจ้งความที่ สน.ทางด่วน 1 คดีไม่คืบ ซ้ำทวงถามกลับบอกให้หาหลักฐาน-ตามตัวคู่กรณีเอง วอน ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรม อีก 2 เดือนคดีหมดอายุความ รับท้อแท้กระบวนการสอบสวน

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. จ.ส.ต.พิริยะพล ชุมสาย ณ อยุธยา ผบ.หมู่ (ป.) สน.ทองหล่อ เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมจากกรณีพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจทางด่วน 1 ได้รับแจ้งความอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนบนทางด่วน ซึ่งคู่กรณีได้หลบหนีคดีทำให้ไม่มีความคืบหน้า ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่เร่งรัดติดตามคดีทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2558

 
จ.ส.ต.พิริยะพลเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2558 ช่วงเวลา 03.27 น.ขณะขับรถกลับบ้านได้มีรถยนต์ยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียน กบ 9959 อุดรธานี ชนท้ายรถของตนขณะยืนเก็บของอยู่บนทางด่วนฉลองรัตน์ มุ่งหน้ารามอินทรา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ทราบชื่อคู่กรณีชื่อนายนพดล ใจแก้ว จากการตรวจเช็กในทะเบียนราษฎร พบบุคคลที่มีซื่อซ้ำกัน 4 คน หลังจากเกิดเหตุคู่กรณีได้แจ้งต่อทางกู้ภัยว่าจะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระรามเก้า แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อคู่กรณีไม่ได้ และเมื่อทำการเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำกลับได้รับการปฏิเสธถึง 2 ครั้ง และไม่มีการได้รับแจ้งความคืบหน้าของคดี จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.ท.อดุลย์ เวปุลานนท์ พงส.เจ้าของคดี ได้เสียชีวิตด้วยเหตุเส้นเลือดในสมองแตก หลังจากนั้นตนเดินทางไปขอความช่วยเหลือติดตามคดีด้วยตนเอง กลับได้รับคำแนะนำจากนายตำรวจของ สน.ทางด่วน 1 ว่าให้ไปหาตัวคู่กรณีมาเองเพราะกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นไม่สามารถเปิดดูได้เนื่องจากมีการล้างข้อมูลวันต่อวัน ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากเกิดเหตุตนได้เจอและพูดคุยกับคู่กรณีบอกว่าหลับใน แต่ไม่ได้มีอาการมึนเมา

 
จ.ส.ต.พิริยะพลกล่าวต่อว่า ตนได้ทวงถามความคืบหน้าคดีกับรอง ผกก.ทางด่วน 1 ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำผิดได้ มีคำสั่งตีกลับและมีคำสั่งไม่ฟ้อง แต่พร้อมจะให้ออกหมายจับให้ได้ โดยให้ชี้รูปจากทะเบียนราษฎร ตนเองก็ไม่มั่นใจ เคยเจอตัวจริงวันเกิดเหตุได้พูดคุยประมาณ 30-40 นาที แต่ถ้าหากให้ชี้ในรูปและออกหมายจับผิดไปจะเสียระบบทั้งหมด วันนี้เลยมาร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน

จ.ส.ต.พิริยะพลกล่าวตัดพ้ออีกว่า ตนเป็นคนตามคดีเองทั้งหมดตั้งแต่วันเกิดเหตุ 1 ส.ค. 2558 จนถึงวันนี้ผ่านมาร่วม 9 เดือนกว่าแล้ว อีก 2 เดือนคดีจะขาดอายุความ จนบัดนี้ยังตามตัวผู้กระทำตัวผิดไม่ได้เลย รู้สึกท้อแท้กับระบบการสอบสวนและกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ตนเป็นตำรวจเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ซ้ำยังถูกนายตำรวจท่านหนึ่งบอกให้ไปหาหลักฐานเองและติดตามตัวผู้กระทำผิดมาถึงจะออกหมายจับให้ ตนอยากให้ ผบ.ตร.ลงมาให้ความเป็นธรรมในฐานะข้าราชการตำรวจเช่นกัน จากนี้อาทิตย์หน้าตนเองจะตามคดีเกี่ยวกับรถยนต์คู่กรณีที่ จ.อุดรธานี