MGR Online - ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งกำชับคดีรับห่วงกรณีรถนักข่าวโดนยิง ฉุนสื่อถามปมขัดแย้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ชี้ไม่สร้างสรรค์ แนะผู้เสียหายสงสัยใครไปแจ้งความไว้ได้ ติงอย่าคิดไปเอง ยันไม่มีปัญหาปมขัดแย้งกับใครอยู่แล้ว พบตรวจสอบเหตุลาออกเพราะคุณสมบัติไม่ครบ
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงถล่มรถยนต์ของนายชาติชาย สุขสมนึก ผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย ประจำสำนักงานตำรวจตำรวจแห่งชาติ และอดีต ผอ.สถานีโทรทัศน์โปลิศทีวี ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านพักย่านดาวคะนอง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า ตนทราบข่าวดังกล่าวแล้ว เรื่องที่เกิดไม่จำเป็นต้องเป็นนักข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ไหนก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วเพราะเป็นประชาชน ทุกคดีถ้ามีลักษณะแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นลักวิ่งชิงปล้น เราดูแลอยู่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการทำงานตามปกติ ส่วนจะเป็นเรื่องของการคุกคามข่มขู่เสรีภาพสื่อมวลชนหรือไม่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จะมองแบบนั้นก็ได้ แต่ต้องดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ตัวบุคคลหรือเรื่องส่วนตัวตนก็ไม่ทราบ ล่าสุด พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว
เมื่อถามว่าจากข้อมูลได้รับรายงานหรือไม่ว่า ผู้สื่อข่าวประจำ ตร.มีความขัดแย้งกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวเพิ่งลาออกจากสถานีโทรทัศน์โปลิศทีวี ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนว่าคำถามนี้ไม่สร้างสรรค์ ไปทำถามที่อื่นแล้วกัน ถามต่อว่ายังไม่ให้น้ำหนักประเด็นไหนใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า “ก็ไม่รู้ที่ผู้สื่อข่าวถามผมว่าขัดแย้งกับใคร ผมไม่ได้ขัดแย้งกับใคร รู้ตัวก็บอกมา แล้วทำไมอีก 2-3 คนไม่บอกละว่าขัดแย้งกับผม ที่เป็นผู้หญิง ตั้งใจมาถามแบบนี้มันไม่สร้างสรรค์”
ส่วนประเด็นนี้จะซับซ้อนหรือไม่อย่างไรนั้น ตนมองว่าก็ปกติ อย่างเช่นคดีระเบิดแยกราชประสงค์ที่มีคนเสียชีวิตตั้งเยอะแยะก็คล้ายกัน เราก็ทำคดีหมด สงสัยใครก็ต้องไปแจ้งความที่โรงพักไว้ก่อน ไม่ใช่ไปคิดเองว่ามีปัญหากับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ คำถามแบบนี้ไปถามที่อื่นแล้วกันอย่ามาถามตน ตนไม่มีปัญหากับใครอยู่แล้ว ส่วนที่ผู้เสียหายลาออกจากตำแหน่ง ผอ.สถานีโทรทัศน์โปลิศทีวีเพราะหน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบย้อนหลังพบว่าคุณสมบัติไม่ครบตามตำแหน่งงาน ไม่เกี่ยวกับตน เกี่ยวกับกองสื่อสาร ลองโทร.ไปถามเจ้าตัวดู ขาดคุณสมบัติแล้วจะดำรงตำแหน่งได้อย่างไร จะดูรายงานไหมทางกองสื่อสารรายงานมา เป็นได้อย่างไรยังไม่รู้เลย เจ้าของเขาไม่เอาเพราะขาดคุณสมบัติ ตรวจสอบแล้วไม่ครบ ถ้าคุณสมบัติครบก็มายื่นใหม่ได้ ไม่ได้ตัดสินเขานะ เพราะเขาเป็นคนมีความรู้ความสามารถด้วยซ้ำ ว่ากันไปตามระเบียบ
เมื่อถามว่าได้สั่งการให้ผู้ที่รับผิดชอบเร่งคลี่คลายคดีนี้หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนได้กำชับทุกคดีที่เกิดขึ้นในนครบาล ส่วนตอนนี้ตนดูแต่เรื่องธรรมกาย โดยเรื่องแบบนี้ต้องไปดูที่สาเหตุว่าเกิดจากอะไร ตนจะรู้หรือไม่ว่าแต่ละวันใครไปทำอะไรมา ต้องไปถามเจ้าตัวว่าสงสัยใครก็ให้การได้ ในส่วนข้อมูลเชิงลึกนั้น ยังไม่ทราบเลย ตนเชื่อว่าทางนครบาลทำได้อยู่แล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องอัตโนมัติ เป็นเรื่องของพี่น้องประชาชน
ต่อข้อถามว่าต่อไปนี้ต้องขออนุญาตถามก่อนใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ต้องไปบอกทุกคนด้วยว่าถามได้ แต่ถามที่สร้างสรรค์ ส่วนอะไรที่ไม่สร้างสรรค์จะถามทำไม แล้วที่มาถามว่ามีปัญหากับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แล้วใครล่ะ
ถามต่อว่าถ้ามองในมิตินี้ในฐานะที่เชี่ยวชาญด้านสืบสวน มองว่าไม่ได้หวังชีวิตน่าจะข่มขู่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่รู้เจตนาคนทำ ทำเพื่ออะไร มีเยอะแยะไปที่ทำตัวเองเพื่อสร้างกระแส ยิงเองหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ปาระเบิดบ้านตัวเองเพื่อสร้างสถานการณ์ยังเคยมีเลย ส่วนตัวจะไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับกลุ่มไหนก็ต้องดูในส่วนนี้ด้วย อาจจะมีเรื่องชู้สาว การพนัน หรืออะไรอีกเยอะแยะ เราต้องดูทุกสาเหตุหมด สายตาคนเรายังมองไม่เท่ากันเลย
เมื่อถามว่าถ้านักข่าวร้องขอให้ช่วยดูแล พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เต็มใจอยู่แล้ว เพราะเสียภาษีมาเหมือนกัน แต่ไปทำเอง หรือมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับกลุ่มไหนต้องดูด้วย แต่มามองว่ามีปัญหากับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มันไม่ใช่ อย่างนี้เจตนาถามใช้ไม่ได้