สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยปิดต่ำกว่าระดับ 45 ดอลลาร์ หลังจากรัฐบาลสหรัฐได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับปีนี้และปีหน้า ขณะที่ตลาดยังคงมีความวิตกต่อเนื่องเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่มีจำนวนมากเกินไปในตลาดโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดรูดลง 1.79 ดอลลาร์ แตะที่ 44.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดปรับลง 1.94 ดอลลาร์ ที่ 47.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับปีนี้และปีหน้า
EIA คาดว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ 49.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งลดลงจาก 49.62 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนราคาเฉลี่ยในปี 2559 จะอยู่ที่ 53.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 54.42 ดอลลาร์
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) ขณะที่ตลาดยังคงมีความผันผวน หลังจากข้อมูลตำแหน่งงานว่างในสหรัฐที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. ส่งผลให้มีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 9 ก.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 239.11 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 16,253.57 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 27.37 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 1,942.04 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 55.40 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 4,756.53 จุด
ตลาดยังคงให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่มีความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.75 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2543 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตำแหน่งงานว่างจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.29 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางรายมองว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ร่วงลง ซึ่งได้ฉุดหุ้นพลังงานลงนั้น ก็เป็นปัจจัยถ่วงบรรยากาศของตลาดด้วย
ความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในช่วงขาลง ได้บดบังมุมมองบวกของตลาดในช่วงก่อนหน้านี้ที่ว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังมีปัจจัยลบจากหุ้นแอปเปิล ที่ร่วงลง 1.9% หลังจากที่บริษัทมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง iPhone 6S และ iPhone 6s Plus ตลอดจน iPad Pro และ Apple TV เมื่อคืนนี้
ตลาดประเมินว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลเป็นไปอย่างน่าความผิดหวัง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ส่วนใหญ่เป็นการอัพเกรดคุณสมบัติของอุปกรณ์เดิมๆที่มีอยู่แล้ว
ขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูความเป็นไปได้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดดิ่งลง 19.00 ดอลลาร์ ที่ 1,102.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากข้อมูลตำแหน่งงานว่างในสหรัฐที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.ได้หนุนความหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดรูดลง 1.79 ดอลลาร์ แตะที่ 44.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดปรับลง 1.94 ดอลลาร์ ที่ 47.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับปีนี้และปีหน้า
EIA คาดว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ 49.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งลดลงจาก 49.62 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนราคาเฉลี่ยในปี 2559 จะอยู่ที่ 53.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 54.42 ดอลลาร์
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) ขณะที่ตลาดยังคงมีความผันผวน หลังจากข้อมูลตำแหน่งงานว่างในสหรัฐที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. ส่งผลให้มีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 9 ก.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 239.11 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 16,253.57 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 27.37 จุด หรือ 1.39% ปิดที่ 1,942.04 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 55.40 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 4,756.53 จุด
ตลาดยังคงให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่มีความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.75 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2543 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตำแหน่งงานว่างจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.29 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางรายมองว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ร่วงลง ซึ่งได้ฉุดหุ้นพลังงานลงนั้น ก็เป็นปัจจัยถ่วงบรรยากาศของตลาดด้วย
ความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในช่วงขาลง ได้บดบังมุมมองบวกของตลาดในช่วงก่อนหน้านี้ที่ว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังมีปัจจัยลบจากหุ้นแอปเปิล ที่ร่วงลง 1.9% หลังจากที่บริษัทมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง iPhone 6S และ iPhone 6s Plus ตลอดจน iPad Pro และ Apple TV เมื่อคืนนี้
ตลาดประเมินว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลเป็นไปอย่างน่าความผิดหวัง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ส่วนใหญ่เป็นการอัพเกรดคุณสมบัติของอุปกรณ์เดิมๆที่มีอยู่แล้ว
ขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูความเป็นไปได้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดดิ่งลง 19.00 ดอลลาร์ ที่ 1,102.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากข้อมูลตำแหน่งงานว่างในสหรัฐที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.ได้หนุนความหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด