สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐและการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก แม้ว่ามีการเปิดเผยปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดปรับขึ้น 1.77 ดอลลาร์ แตะที่ 45.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ที่ 48.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณการผลิตที่ลดลงในสหรัฐได้ช่วยชดเชยผลกระทบจากข้อมูลปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 458 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) ขณะที่สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวแตกต่างกัน ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 10 ก.ย. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 76.83 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 16,330.40 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 10.25 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 1,952.29 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 39.72 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 4,796.25 จุด
ตลาดปิดในแดนบวกหลังจากมีการปรับตัวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง และแทบไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มากนัก
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 275,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 275,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 27 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดในประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมช่วงสัปดาห์หน้า ได้ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกันในประเด็นที่ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้หรือไม่
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.2% เช่นเดียวกับกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่หุ้นแอปเปิลร่วงลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท ขณะที่หุ้นไบโอเจน อิงค์ ปรับขึ้นกว่า 3% และหุ้นไฟเซอร์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 2.1%
ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) จากแรงซื้อชดเชย ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับขึ้น 7.30 ดอลลาร์ ที่ 1,109.30 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อทอง หลังจากราคาปิดร่วงลงอย่างหนักในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อวานนี้ ขณะที่การร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรปก็ได้ช่วยหนุนความน่าดึงดูดใจของทองด้วย
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ราคาทองปรับตัวขึ้นท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ แม้ว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ว่าราคาทองจะอ่อนแรงลงอีก
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็รอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดปรับขึ้น 1.77 ดอลลาร์ แตะที่ 45.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ที่ 48.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณการผลิตที่ลดลงในสหรัฐได้ช่วยชดเชยผลกระทบจากข้อมูลปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 458 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) ขณะที่สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวแตกต่างกัน ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 10 ก.ย. ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 76.83 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 16,330.40 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 10.25 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 1,952.29 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 39.72 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 4,796.25 จุด
ตลาดปิดในแดนบวกหลังจากมีการปรับตัวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง และแทบไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มากนัก
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 275,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 275,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 27 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดในประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมช่วงสัปดาห์หน้า ได้ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกันในประเด็นที่ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้หรือไม่
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.2% เช่นเดียวกับกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่หุ้นแอปเปิลร่วงลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท ขณะที่หุ้นไบโอเจน อิงค์ ปรับขึ้นกว่า 3% และหุ้นไฟเซอร์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 2.1%
ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) จากแรงซื้อชดเชย ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับขึ้น 7.30 ดอลลาร์ ที่ 1,109.30 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อทอง หลังจากราคาปิดร่วงลงอย่างหนักในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อวานนี้ ขณะที่การร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรปก็ได้ช่วยหนุนความน่าดึงดูดใจของทองด้วย
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ราคาทองปรับตัวขึ้นท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ แม้ว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ว่าราคาทองจะอ่อนแรงลงอีก
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็รอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ